"เจิ้งเยี่ยน... เหตุใดจึงจุดเทียนไขเพียงไม่กี่เล่ม มิจุดโคมไฟ"
"องค์ชายสี่ต้องการคัดอักษรหรือ"
"เปล่า"
"เช่นนั้นท่านต้องการอ่านตำราใช่หรือไม่"
"มิใช่"
"เช่นนั้นเหตุใดจึงต้องจุดโคมไฟ"
"ก็... เรือนนี้มืดนัก... หากผมปล้-- หากเยี่ยนเอ๋อร์วิ่งกลับมาจากตำหนักใหญ่อาจจะสะดุดล้มเอาได้... เจ้านั่นยิ่งไม่ระวังอยู่ด้วย"
เจิ้งเยี่ยนแย้มยิ้ม "เช่นนั้นข้าพาท่านไปรับเยี่ยนเอ๋อร์ด้วยกันเลยดีหรือไม่"
"เราสองไปรับ... ประเดี๋ยวก็ต้องเดินกลับมาอีก ย้อนไปย้อนมาเช่นนี้ช่างเปล่าประโยชน์นัก สู้รอหลี่-- ฝ่าบาท... พาเขามาส่งไม่ดีกว่าหรือ"
เจิ้งเยี่ยนกลั้นยิ้มให้กับองค์ชายน้อยที่ชอบแสดงว่ามีความคิดความอ่านเติบโตกว่าอายุอยู่เสมอ... ในใจครุ่นคิดว่า ในความทรงจำของข้า... ท่านเป็นองค์ชายน้อยผู้สดใสร่าเริงแท้ๆ สิ่งใด.. หรือผู้ใดกันหนอ... ทำให้ท่านต้องปกปิดซ่อนเร้นความจริงเหล่านั้นไว้
"เช่นนั้นข้าจะออกไปรับเยี่ยนเอ๋อร์ที่ตำหนักใหญ่ ท่านคอยอยู่ที่นี่ประเดี๋ยวหนึ่ง"
เจิ้งเยี่ยนพูดจบก็หยัดกายผุดลุกขึ้นทันที เป็นเวลาเดียวกับที่องค์ชายน้อย ผวาเข้ามาเกาะแขนเรียว พลางร้องขอหน้าตาตื่น
"เดี๋ยว! เจ้า... เจ้า... ข้า... ข้า..."
เจิ้งเยี่ยนเลิกคิ้ว มองสองมือน้อยที่เกาะแขนเอาไว้แน่น
"ท่านไม่อยากไปด้วยมิใช่หรือ"
"ข้า... ข้า... ข้า..."
"องค์ชายสี่มิต้องเกรงใจไป... ประเดี๋ยวเดียวข้ากับเยี่ยนเอ๋อร์ก็กลับมาแล้ว ท่านรอที่นี่เพียงชั่วครู่เท่านั้น" เจิ้งเยี่ยนส่งยิ้มละมุนให้องค์ชายน้อย จากนั้นหันกาย เปิดประตูเดินออกจากห้องไป...
ขณะเดียวกันนั้น ลมแรงจากภายนอกพัดแทรกเข้ามาวูบหนึ่ง เป่าเทียนไขไม่กี่เล่มที่เจิ้งเยี่ยนจุดไว้ก่อนหน้านี้ดับจนหมดสิ้น ก่อนบานประตูจะแกว่งไปกระแทกซุ้มประตู เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
องค์ชายน้อยสะดุ้งโหยง ตกใจเกินบรรยาย ในใจคิดจะตะโกนเรียก... เจิ้งเยี่ยนก็เดินหายออกไปไกลลิบแล้ว... ครั้นจะวิ่งตามออกไป... ก็หวาดหวั่นความมืดที่ห้อมล้อมนี้จนมิอาจบังคับให้ขาขยับไปไหน ทำได้เพียงนั่งตัวแข็งทื่อ ลืมตาโพลง พึมพำเรียกพี่ชายที่แสนคิดถึงอยู่ในความมืดเท่านั้น....
"ฮือ... พี่สาม... มืดเหลือเกิน... เยี่ยนชิวกลัว..."
เวลาไม่มีท่านอยู่... ความมืดช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง
ด้านเจิ้งเยี่ยนที่เปลี่ยนใจย้อนกลับมาตามสัญชาติญาณหลังจากได้ยินเสียงประตูหับดังลั่น คนมองไปทั่วห้องว่างเปล่ามืดสนิท... เนิ่นนานกระทั่งสายตาคุ้นชินกับความมืดชนิดมองไม่เห็นนิ้วทั้งห้า จึงพบร่างเล็กจ้อยกอดตนเองเป็นก้อนกลมๆ นั่งคุดคู้อยู่ที่มุมห้อง...
"องค์ชายสี่!"
เจิ้งเยี่ยนถลันวิ่งเข้าหาร่างเล็ก... หัวใจดิ่งวูบ... แค่เพียงเห็นเด็กน้อยมีสภาพเช่นนี้ก็รู้สึกสงสารจับใจ ทั้งละอายใจแก่ใจอย่างยิ่งที่ตนลืมนึกไปว่าเด็กๆ ย่อมต้องขยาดความมืดเมื่ออยู่ลำพังเป็นธรรมดา
"องค์ชายสี่..."
เจิ้งเยี่ยนค่อยๆ เขยิบเข้าหาเมื่อหลี่เยี่ยนชิวตัวน้อยไม่ขานตอบ มือเรียวยกขึ้นแตะแขนเล็กๆ ที่กอดตนเองเอาไว้เบาๆ
"องค์ชา--"
"เจิ้งเยี่ยน!"
องค์ชายสี่ตะโกนเรียกอีกฝ่ายลั่นห้องเมื่อแขนถูกสัมผัส เด็กน้อยเงยหน้าพรวด พลางพินิศใบหน้าของเจิ้งเยี่ยนอยู่อึดใจหนึ่ง เมื่อแน่ใจว่าเป็นเจิ้งเยี่ยนตัวจริง ร่างเล็กจึงกระโดดขึ้นจากพื้น โถมตัวกอดร่างตรงหน้าเอาไว้แน่น แก้มสองข้างเปียกน้ำตาที่ไหลอาบ ริมฝีปากเล็กสั่นระริก พึมพำเรียกเจิ้งเยี่ยนๆ ไม่หยุดหย่อน
"เจิ้งเยี่ยน... พี่สามไม่อยู่แล้ว... เจ้าอย่าทิ้งข้า..."
ยิ่งได้ฟัง... อ้อมกอดเจิ้งเยี่ยนก็ยิ่งกระชับแน่น... คนแย้มรอยยิ้มหม่นเศร้าพลางฝากจุมพิตปลอบโยนลงบนกระหม่อมของเด็กน้อย...
"ข้าไม่มีวันทิ้งท่าน... เจิ้งเยี่ยนจะไม่ทิ้งท่านไปไหนอีก... ข้าสัญญา..."
เลยพยายามทำเป็นเข้มแข็งมาตลอดสินะคะ แต่ถึงยังไงก็ยังเป็นเด็ก
ฮืออออออออออ เจิ้งเยี่ยนกอดแน่นๆ นะคะ อย่าปล่อยมือจากคนๆ นี้เลยนะ