นี่ไม่ใช่รีวิวที่ดี, ขอเตือนคุณไว้ก่อน,
เพราะผมไม่อาจบอกคุณได้ว่าหนังสือเล่มนี้หรือไม่ดี, ควรอ่านหรือไม่ควรอ่าน, บอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเกี่ยวกับอะไร. ไม่ใช่เพราะหนังสือนี้เลวทรามมากหรือลึกซึ้งดื่มด่ำ, เพียงแต่เป็นเพราะสิ่งที่ผมสัมผัสได้จากการอ่านจบรวดเดียวภายในเวลา 1 ชั่วโมง--ไม่อาจถ่ายทอดออกมาเป็นข้อความ, หรือไม่ก็เพราะผมยังทารกเกินกว่าจะพูดมันออกมา.
ถ้าคุณอ่านข้อความนี้แล้วยังรับได้ ก็ขอเชิญเดินตามผมมาอย่างแผ่วเบา เข้าสู่วงกตป่าไผ่ของ "ท่านอาจารย์" ครับ.
ครั้งหนึ่ง, ใครสักคน (อาจเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์/เจ้าของร้านหนังสือสักแห่งที่จำไม่ได้แล้ว) บอกว่า
"ถ้าคุณอ่านมูราคามิไม่เข้าใจ ไม่ต้องตกใจ คุณจะไม่มีวันได้รู้หรอกว่าตัวละครของเขามาจากไหน มีความเป็นมาอย่างไร และหลังจากนั้นจะมีชะตากรรมอย่างไร เพราะมูราคามิใช้ตัวละครของเขาเท่าที่จำเป็น ตัวละครเหล่านั้นก้าวเข้ามาเพื่อแสดงบทบาทบางอย่างให้คุณเห็น และเมื่อสำเร็จแล้วก็จากไปโดยไม่พูดอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก,"
ตัวละครใน ฝันสิบราตรี ก็เช่นกัน.
ฝัน, หรือเรื่องสั้น, ทั้งสิบเรื่องไม่ระบุที่มาที่ไป, จู่ ๆ คุณจะถูกจับโยนเข้าไปในห้องของซามูไรผู้เขม้นจะตัดศีรษะสมณะเคร่งกรรมฐาน, เดินตามพ่อผู้อุ้มลูกอ่อนตาบอดตัดป่าสนในคืนฝนมืด, หรือนั่งริมหาดทรายนับร้อยปีเพื่อดมกลิ่นดอกพลับพลึงในรุ่งสาง. แต่ละเรื่องโบยบินอิสระจากกัน ประหนึ่งกระเรียนเดียวดายในขุนเขาห่มสายหมอก. พวกมันมาโดยไม่บอกกล่าว และจากไปโดยไม่ทิ้งร่องเงา, แต่ละเรื่องราวเป็นประหนึ่งภาพจิตรกรรมหมึกแบบจีน ที่อัดเค้นเป็นแท่งหมึกสีดำ ก่อนละลายลงในสายหมอกบาง แล้ววาดด้วยปีกผีเสื้อ.
ถ้าคุณไม่เคยอ่านวรรณกรรมญี่ปุ่น, ความฝันทั้งสิบเรื่องนี้อาจเป็นรหัสลึกลับไร้สาระที่ชวนให้รู้สึกเสียดายเงิน. ถ้าคุณเคยอ่านวรรณกรรมญี่ปุ่น, ความฝันทั้งสิบเรื่องนี้ก็ยังนับว่าเป็นของประหลาด, เพราะในขณะที่คุณอาจอ่านมูราคามิโดยพอแกะรอยความหมายของบรรยากาศ สถานที่ หรือคำพูดร่วมสมัยได้บ้าง, ฝันสิบราตรีกลับเป็นกระบวนสัญลักษณ์โบราณไม่รู้จบ เหมือนลวดลายปริศนาในสวนหินญี่ปุ่น, กุญแจที่พอจะช่วยไขได้คือปรัชญาความงามแบบญี่ปุ่น ปรัชญาพุทธศาสนา, และคติความเชื่อและขนบธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นโบราณ.
แต่สิ่งที่คุณจะได้, หากมุ่งมั่นที่จะอ่าน, คุณจะได้ยินเสียงน้ำตกนิรันดร์, คุณจะได้กลิ่นหญ้าและฝนในป่าหนาวของเมืองนาระ, คุณจะอุ่นไฟอังหน้าเตาย่างปลาของกระท่อมมุงฟางหลังน้อย. เพราะฝันสิบราตรีไม่ได้กระซิบสารลับของมนุษยชาติ, มันเพียงจูงมือของคุณเดินออกมาจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน, และชงชาเขียวขม ๆ ให้คุณดื่ม, ซึ่งคุณจะเพ่งอยู่กับความขมนั้น--และลืมสิ้นทุกสิ่ง.
สุดท้าย, ผมยังขอย้ำว่านี่ไม่ใช่รีวิวที่ดี, ผมไม่ได้กำลังบอกว่าหนังสือนี้ดี หรือแย่ หรือเข้าใจซาบซึ้งจนถึงขั้นนามธรรมที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก จนพาลเขียนอะไรพร่ำเพ้อติสท์แตกให้คุณไม่เข้าใจ. ผมมึนชาจริง, เหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่.
แต่ผมแอบภาวนาในใจว่า เมื่อหลับตานอนคืนนี้, "ท่านอาจารย์" อาจจะมาเข้าฝันผมบ้าง.
ยัวร์ส,
มะเขือ.
ฝันสิบราตรี. นัตสึเมะ โซเซกิ, เขียน; น้ำทิพย์ เมธเศรษฐ และคนอื่น, แปล. 2559. สำนักพิมพ์ J-LIT.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in