ข้างนอกนั่นมีข้อความและหนังสือให้กำลังใจมากมาย ทั้งนิยาย ทวิต โคว้ตคนดังนั่งปลอบประโลม
แต่บางคราว สิ่งเหล่านั้นก็เหมือนคนแปลกหน้า พวกเขาอยู่ตรงนั้น ยิ้มให้ อบอุ่น อ่อนหวาน แต่ความรู้สึกนั้นก็ระเหยระหายไปเมื่อลับตา
มีไม่กี่เรื่องราวที่ฝากรากลึกลงในตัวและโอบกอดคุณไว้จนกระทั่งหน้าสุดท้าย
Pumkin Head เป็น 1 ในนั้น.
หลังจากวันเดือนอันวุ่นวายยาวนาน สุดท้ายก็ได้เปิดหนังสืออ่านด้วยใจนิ่ง ๆ และในขณะเดียวกัน หลังจากวันเดือนอันเรื่อยเปื่อยยาวนาน หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกที่ทำให้ตั้งใจเปิดอ่านไป แรกเมื่อแกะออกจากหีบห่อ ความอบอุ่นจากปกสีส้มเปลือกฟักทองก็กรุ่นไออยู่ในมือ เมื่อเปิดอ่านหน้าแรก ความอบอุ่นนั้นก็ห่อหุ้มเราเสียอยู่หมัดตั้งแต่เมื่อกาแฟสาดลงไปบนโซฟา
หนังสือบอกเล่าเรื่องราวธรรมดาสามัญของชีวิต ในช่วง 31 วันของเดือนตุลาคม ทีละวัน ผ่านความไม่ธรรมดาสามัญของ นายหัวฟักทอง กับ นายผี (ที่ไม่ได้ชอบเปิบข้าวแต่ชอบแพนเค้กหวานระดับตาบอด) และนังแมวเจ้าของบ้าน เป็นเรื่องราวแบบซีรีส์โรแมนซ์อิ๊อ๊ะของเกาหลี ว่าด้วยคนเกิดเห็นผีแล้วต้องมาอยู่บ้านเดียวกัน เกิดเป็นความหมั่นไส้แกมปรองดอง และลงท้ายก็รักกัน (มั้ง?)---ฟังดูเลี่ยนและดาษดื่นหรือเปล่า จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่เสน่ห์ของความอุ่นอยู่ที่วิธีการเล่าและการหยิบสิ่งละอันพันละน้อยในชีวิตประจำวันขึ้นมาถักทอให้เราค่อย ๆ หลงรักทั้งคุณหัวฟักทองและนายผี
อย่างไรก็ตาม หัวใจของความอบอุ่นในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่รสหวานล้ำ แต่กำเนิดจากความเจ็บปวดละมุนละม่อม และความเศร้าอ่อนโยนที่ปูเป็นพื้นหลังเลือนรางของตัวละครของทั้งสอง เป็นความละม่อมละไมแบบที่คนกินกาแฟใส่นมไม่ใส่น้ำตาลคุ้นเคย วิธีการเล่าของเธอผู้เขียนเลือกละข้ามประวัติบางส่วน ทำให้เราสงสัยใคร่รู้ความเป็นมาของตัวละคร คุณหัวฟักทองทำไมย้ายออกมาอยู่คนเดียว? นายผีไปยุ่งกับใครที่ไหนถึงมาตายโหงตายฮ่าส์แบบนี้? ยัยหนูแม่มดเดซี่จบจากฮอกวอร์ตหรือเปล่า? เจ้ามิลลี่อายุเท่าไรแล้ว? แต่ที่สำคัญกว่านั้นเธอทำให้เราคอยแฝงอยู่เฟี้ยมฝา เฝ้ามองว่าเรื่องราวใดจะเกิดขึ้นต่อไป ระหว่างคุณผีลุกขึ้นหัดทำผัดไท หรือนายหัวฟักทองเดินขึ้นสถานีตำรวจไปแจ้งความแทนผีที่ถูกฆาตกรรม
ที่จริงแล้วก็เช่นเดียวกับมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม หนังสือเล่มนี้ก็มีรอยหยักที่ทำให้รู้สึกสะดุด สำหรับผม ความที่เรื่องดำเนินต่อเนื่องกันโดยระบุวัน 31 วันนั้น เป็นสิ่งที่น่าเชื่อน้อยที่สุด ที่จริงผมว่าถึงจะตัดวันที่ออกไปเลย ก็ยังรับรสได้เหมือนเดิม เพราะความสัมพันธ์ของตัวละครดำเนินไปบนปฏิสัมพันธ์ การกระทำ การเฝ้ามอง และบทสนทนาธรรมดา ๆ ที่จะเกิดวันไหนก็ได้ หลาย ๆ ครั้งความใกล้ชิดที่เรารู้สึกอบอุ่นนั้นชวนให้คิดว่าช่องว่างระหว่างเหตุการณ์หรือระหว่างวันนั้นยาวนานเกิดกว่า 24 ชม. ด้วยซ้ำ กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ารสเรื่องจะด้อยลงแต่อย่างใด เป็นแต่เครื่องคอยสะกิดให้เรารู้สึกว่า เอ๋ วันเดียวเองเหรอ
สุดท้ายแล้วรีวิวนี้ออกจะไม่จำเป็นเท่าไรนัก เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือพิมพ์เอง (self-published) ที่เธอผู้เขียนรวมเล่มขึ้นมาจากงานเขียนเนื่องในโอกาส FicTober หรือการเขียนฟิกชั่นตอนสั้น ๆ วันละตอน ตลอดเดือนตุลาคม (Fic+October) จำนวนพิมพ์มีจำกัด คนที่อ่านรีวิวนี้แล้วอยากอ่านก็คงหาอ่านได้ยาก เว้นว่าจะไปยืมคนที่สั่งซื้อมา...อย่างผม อิ_อิ (หรือจะทำแคมเปญรณรงค์ให้มีพิมพ์สองเจ้าตัวก็คงไม่ขัดศรัทธา) รีวิวนี้เป็นเสมือนจดหมายตอบกลับไปยังผู้เขียนที่นั่งอยู่ ณ มุมห้องหนึ่งของเธอ และบอกแก่เธอว่า ขอบคุณนะที่ทำให้รู้สึกอุ่นหัวใจอีกครั้ง
ยัวร์ส,
มะเขือ.
ปล.อยากกินพายฟักทองเลย
Pumpkin Head. Giftmeme เขียน. 2018. Self-Published. (เนื่องในโอกาส FicTober 2016)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in