หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมเช็ดตัวและพันผ้าขนหนูรอบเอว แล้วเดินออกจากห้องน้ำไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่โทบี้ชี้บอก และให้เขาช่วยเช็ดผมให้แต่โดยดี
โทบี้อาบน้ำแต่งตัวก่อนเสมอ เพราะปัญหาด้านสรีระของอัลฟ่าอย่างผมหลังจากมีความสัมพันธ์โดยไม่ได้น็อตกับคู่ พูดอย่างตรงไปตรงมาคือรอให้น็อตที่ส่วนที่ขยายและยึดโอเมก้าไว้กับอัลฟ่าเวลามีความสัมพันธ์กันกลับเข้าสู่สภาวะปกติก่อน สภาพระหว่างช่วงเวลานั้น ค่อนข้างน่าอนาถอยู่สักหน่อย และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่อัลฟ่าส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์แค่ภายนอกกับคู่ไม่ว่าจะเป็นโอเมก้าหรือเบต้า แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องที่ผมอดทนได้และไม่คิดว่ามันลำบากอะไร
เขาใช้ผ้าขนหนูแห้งผืนเล็กอีกผืนมาเช็ดผมของผมให้แห้ง การกระทำของเขาทำให้ผมอดนึกถึงการใช้ชีวิตคู่กับแมรี่เมื่อกว่าสิบปีก่อนไม่ได้ สิ่งที่เขาทำเป็นการแสดงออกที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตนเองได้รับการเอาใจใส่จากใครสักคนหนึ่งแม้กระทั่งในเรื่องเล็กน้อย เป็นสิ่งที่ผมห่างหายมานานจนเกือบลืมไปแล้วว่าเคยมีคนทำให้ผมรู้สึกเช่นนี้
“วันนั้น คุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่โรงแรมเบเวอร์ลีย์” ผมถามขึ้น ก่อนที่ความรู้สึกระลึกถึงอดีตจะท่วมท้นจนลืมเรื่องสำคัญเรื่องนี้ไปเสียก่อน
“ผมโทรศัพท์ไปที่ออฟฟิศของคุณเพื่อแจ้งความเห็นเรื่องบาดแผลบนศพของฮันนาห์ วัตกิ้นส์จากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับร่างชิฟท์ของสัตว์นักล่า แต่จ่ามัสเกรฟบออกว่าคุณไม่อยู่ ออกไปธุระข้างนอก เขาไม่แน่ใจว่าคุณไปไหน เพราะคุณไม่ได้บอก”
สีหน้าของโทบี้ที่สะท้อนบนกระจกติดผนังบ่งบอกความไม่ชอบใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนัก
“ผมไม่อยากเชื่อเรื่องลางสังหรณ์หรือความบังเอิญหรอกนะ แต่ตอนนั้นผมรู้สึกว่า มีอะไรไม่ชอบมาพากลสักอย่างเกิดขึ้นกับคุณ ผมเลยจำเป็นต้องของความช่วยเหลือจากทิม...”
เขาไม่ได้โกรธผม แต่เคืองตัวเองที่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำโดยไม่มีทางเลือกอื่น
“ผมขอให้ทิมเข้าถึงภาพจากกล้องวงจรปิดของหน่วยงานความมั่นคง ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าคุณมุ่งไปทางไนท์บริดจ์ และโรงแรมเบเวอร์ลีย์คือสถานที่ที่ทิมได้รับแจ้งว่า พบเป้าหมายของเขา คือ บาร์เทิลบี้และโกลด์เบิร์ก”
“เพราะเป็นสองคนนั้น คุณเลยตัดสินใจบอกวิล”
“ใช่ครับ” แพทย์นิติเวชรับ “ผมอาจจะมองโลกในแง่ร้าย แต่การที่ผู้พันโกลด์เบิร์กเรียกคุณไปพบนอกสถานที่ที่มีแม็กซ์เกี่ยวข้องด้วยไม่ใช่เรื่องปกติเท่าไหร่ ถ้าเขาเรียกคุณไปพบที่สำนักงานหรือสถานที่อื่นอย่างเปิดเผย ผมอาจไม่คิดอะไรมากไปกว่านั้นก็ได้”
เช็ดผมให้ผมเรียบร้อยแล้ว เขาก็ปล่อยให้ผมลุกขึ้นไปแต่งตัว แต่กำชับไว้ว่าอย่าเพิ่งใส่เสื้อ เพราะเขาจะทำแผลที่แขนของผมให้ต่อ
“ดร. เคลลีย์ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับร่างชิฟท์ของสัตว์สันนิษฐานว่า รอยเล็บบนร่างกายของฮันนาห์ วัตกิ้นส์เป็นรอยจากกรงเล็บของสัตว์ตระกูลแมวขนาดใหญ่” เขาอธิบาย พลางเตรียมชุดอุปกรณ์สำหรับทำแผลออก และลงมือจัดการกับแผลจากคมเขี้ยวของแมวลิงซ์ขนาดใหญ่บนแขนของผมเมื่อผมกลับมานั่งที่เดิม
“แม็กซ์มีร่างชิฟท์เป็นลิงซ์ แมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ส่วนโกลด์เบิร์กมีร่างชิฟท์เป็นวูลฟ์เวอรีนซึ่งมีลักษณะกรงเล็บอีกแบบหนึ่ง เมื่อรวมกับข้อมูลทุกอย่างที่มีอยู่ในมือ คนที่น่าสงสัยที่สุดว่าจะทำให้ฮันนาห์ขาดอากาศหายใจได้ด้วยวิธีแบบทหาร รอยกรงเล็บบนร่างกายของเธอ การวางแผนทำร้ายเอ็ดมันด์ อาร์เชอร์ที่ถูกจัดฉากเป็นการวิวาทแต่โจมตีเข้าเป้าทุกครั้งและทำให้อีกฝ่ายตกเลือดจนช็อกเสียชีวิตในเวลาหลายวัน ไม่มีทางเป็นคนอื่นได้นอกจากแม็กซ์ ในบรรดาคนตายทั้งหมด ฮันนาห์เป็นนกต่อสำหรับเรียกเอ็ดมันด์มาเข้ากับดัก นั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องฆ่าเธอทิ้งและสร้างแบบแผนการฆ่าที่แตกต่างเพื่อหลอกหล่อให้ตำรวจหลงทิศ”
“ถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จะชี้ไปทางบาร์เทิลบี้ แต่คุณก็ยังสงสัยว่าพันเอกโกลด์เบิร์กจะอยู่เบื้องหลังของคำสั่งฆ่าพี่น้องอาร์เชอร์และฮันนาห์ วัตกิ้นส์”
“เท่าที่รู้จักกัน ผมไม่คิดว่า แม็กซ์จะเป็นคนชั่วร้ายโดยสันดาน” โทบี้บอก มีอะไรบางอย่างที่บ่งบอกความเสียใจและเสียดายที่หนักแน่นในความรู้สึกของเขา ตามปกติแล้ว เขาไม่ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของใครบ่อยนัก ทว่าคราวนี้ต่างออกไป “ทุกอย่างที่เขาทำ เรียบร้อย ละเอียด สวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อยมาตลอด เขาไม่ใช่ทหารประเภทที่จะทำอะไรนอกแถวหรือขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาที่เขาเทิดทูนสุดหัวใจอย่างผู้พันโกลด์เบิร์ก”
“ทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อโกลด์เบิร์ก”
ผมนึกถึงคำพูดของออกัสต์ โกลด์เบิร์กที่มีท่าทีหยามเหยียดคนที่ยอมลดตัวกลบกลิ่นอัลฟ่าของตัวเองและนึกถึงสิ่งที่แม็กซ์ บาร์เทิลบี้ยอมเล่นบทเบต้าไปปรากฏตัวในที่ต่าง ๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งของเขา
“ผมคิดแบบนั้น เขายอมทำตัวเป็นเบต้าเพื่ออัลฟ่าอีกคนหนึ่ง” โทบี้สบตากับผม ในขณะที่มือของเขาเก็บชุดทำแผลหลังจากจัดการกับแผลของผมเสร็จ “เขายอมละทิ้งตัวตนที่อัลฟ่าส่วนใหญ่ยากจะสละได้เพื่อเจ้านายที่เขาเชื่อมั่น...”
และเพื่อคนที่เขาแคร์... ผมเติมท้ายประโยคนั้นในใจ และเชื่อว่าเขาก็คิดอย่างเดียวกัน เพียงแค่ไม่พูดออกมา
ผมเคยทำในสิ่งเดียวกันกับที่บาร์เทิลบี้ทำเพื่อได้พบกับโทบี้แค่ไม่กี่นาที และเป็นตอนนั้นเองที่ผมมั่นใจยิ่งกว่าครั้งไหนว่า ผมยอมทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้เพื่อคนตรงหน้าผมคนนี้ เช่นเดียวกับที่เขาสามารถทำเพื่อผมได้ แม้เราจะรู้จักกันเพียงไม่นาน และนั่นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเป็นคู่แท้ของเรา
แล้วคนที่ทำงานใกล้ชิดกันมานานปีอย่างบาร์เทิลบี้ล่ะ ความรู้สึกที่เขามีต่อโกลด์เบิร์กคงเข้มข้นกว่าหลายเท่า
“ผมไม่แน่ใจว่าโกลด์เบิร์กคิดแบบไหนกับเขากันแน่ แต่การที่เขาหันปืนใส่บาร์เทิลบี้ มันโหดร้ายมาก” ผมว่า
“แต่ผมยังคิดไม่ตกจนถึงตอนนี้ว่า การที่แม็กซ์หันกลับไปแว้งกัดโกลด์เบิร์กเป็นเพราะเขาผิดหวังในตัวอีกฝ่ายหรือต้องการจะปกป้องอีกฝ่ายจนถึงที่สุดกันแน่”
คนตรงหน้าผมดูครุ่นคิด ประโยคที่เอ่ยเหมือนคำถาม แต่ผมคิดว่าเขามีคำตอบในใจอยู่แล้ว และเป็นคำตอบเดียวกับคำตอบที่อยู่ในใจของผม
โกลด์เบิร์กมองทุกอย่าง รวมถึงบาร์เทิลบี้เป็นแค่เครื่องมือที่ทำให้เขาบรรลุเป้าหมาย ถ้าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาตาย ความลับทุกอย่างและอาจรวมถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาก็จะถูกฝังกลบไปตลอดกาล แต่ถึงบาร์เทิลบี้จะรู้สถานะของตัวเองดี แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็เลือกที่จะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และคนในใจของตัวเองจนถึงวาระสุดท้าย ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่คนโง่ ผมคิดว่าเขามองทุกอย่างออกอย่างทะลุปรุโปร่ง รู้ว่าโกลด์เบิร์กต้องการจะเก็บเขาเพื่ออะไร แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็ไม่อาจต่อต้านสำนึกผิดชอบชั่วดีที่มีอยู่ในตัวเองอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้น เขาคงไม่ส่งมอบคริปเท็กซ์ที่ซ่อนไว้ให้กับโทบี้ เพื่อให้ส่งต่อแก่ทิม ฟอล์กเนอร์และหน่วยงานความมั่นคง
สำหรับแม็กซ์ บาร์เทิลบี้ การตัดสินใจของเขาสมเหตุสมผลและอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย
เขาไม่ได้ทรยศใคร ไม่ว่าออกัสต์ โกลด์เบิร์ก หรือหน้าที่ของตนเองที่มีต่อประเทศ
เขาเลือกไถ่บาปด้วยชีวิตของตัวเองและคนร้ายตัวจริง ไม่ว่าเหตุผลและแรงจูงใจเบื้องหลังจะเป็นอะไรก็ตาม
ผมวางมือลงบนหลังมือของโทบี้ ฟอล์กเนอร์ เขาเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในอดีตและความขัดแย้งของสองขั้วในฝ่ายความมั่นคงอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ และความทรงจำเกี่ยวกับความตายของเซบาสเตียน อาร์เชอร์ที่เขามีอยู่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเปิดเผยความจริงเบื้องหลังของคนที่ต้องตายเหล่านั้น
“เราน่าจะมีคำตอบในใจอย่างเดียวกัน” ผมเอ่ยกับเขา “บาร์เทิลบี้ทำดีที่สุดในส่วนของเขาแล้ว และผมเชื่อว่า ความตายของทุกคนที่เกี่ยวข้องมีคนชดใช้ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว”
“คุณคิดว่าที่เรื่องจบแบบนี้มันดีที่สุดแล้วจริงเหรอ ไมเคิล”
ใช่ว่าเขาไม่เชื่อ แต่ผมรู้ว่าเขาแค่ต้องการความแน่ใจ
“ผมคิดว่า การพี่ชายของคุณเป็นคนควบคุมสถานการณ์จะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย การตายของโกลด์เบิร์กอาจเป็นสิ่งที่ดีกว่าการที่เขามีชีวิตอยู่ก็ได้”
ผมยกมือขึ้นลูบแก้มของคนที่กำลังพยายามซ่อนความกังวลของตัวเองเอาไว้ โน้มใบหน้าของเขาลงมา และจูบที่ริมฝีปากของเขาเบา ๆ
“ผมรู้นะ โทบี้ ว่าการพูดแบบนี้มันโหดร้าย คนตายพูดไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าทิมสามารถจัดการทุกอย่างได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น คุณเชื่อผมไหม”
ริมฝีปากของเขาที่เคลียอยู่ที่มุมปากของผมขยับเป็นรอยยิ้ม
“ผมเชื่อ ไมเคิล... ผมเชื่อคุณ แล้วก็เชื่อใจทิมด้วย” โทบี้กล่าว ค่อย ๆ ยืดตัวขึ้น ถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งเพื่อให้ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ และสวมเสื้อได้สะดวก “มีแต่ทิมเท่านั้นละ ที่คิดเองเออเองมาตลอดว่า เขาเป็นพี่ชายไม่เอาไหนที่ไม่เคยทำให้น้องภูมิใจหรือปลอดภัยได้เลย”
แพทย์นิติเวชถอนใจเบา ๆ หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่ผมนั่งเมื่อครู่นี้ และเงยหน้าขึ้นมองผม
“ผมคิดว่า ผมมีเรื่องที่ควรจะทำความเข้าใจกับเขา และผมอยากให้คุณอยู่กับเราในตอนนั้นด้วย”
To be continued....
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in