:: Restart ::
Title : Restart
Pairing : Bufan x Muziyang หรือ Muziyang x Bufan วะ... #รีบะได้สิยอดเย่ม
Genre : สั้นกว่าที่จะเป็น One Shot และยาวกว่าที่จะเป็น Drabble
Note : ได้ไอเดียจากเพลง Restart
-------------------------------------------
'มันจะอึมครึมกันไปอีกนานเท่าไหร่กันวะ'
'ทุกวันนี้ยังกับยืนถ่ายกับแสตนดี้'
'หรือก้อนหินกันแน่วะ'
'กลับมาคุยกันได้ไหม'
วันนี้เป็นวันที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เราสองคนแทบจะไม่คุยอะไรกันเลย บทสนทนาที่คุยกันก็คงจะเป็น เห็นเหล่าเยว่มั้ย เสี่ยวตี้ไปไหน หลังจากนั้นทุกอย่างก็จะเดดแอร์ไป
ไม่คิดถึงตอนที่เล่นด้วยกันเลยเหรอ
แล้วเมื่อไหร่เราทั้งสองคนจะวางอีโก้ลงแล้วมาคุยกันดีๆสักที
.
.
.
.
.
.
.
.
วันนี้มีการซ้อมเต้นและร้องเหมือนกับทุกวัน ตารางงานเดือนนี้ออกจะหนักหน่วงสักหน่อย แทบไม่มีเวลาหายใจหายคอกันเลย เหล่าเยว่กับเสี่ยวตี้บอกว่าจะออกไปหาอะไรกินแล้วถึงจะกลับหอพัก ส่วนผมกับ...เจ้ามนุษย์ก้อนหินนั่นเลือกที่จะกลับหอ และแน่นอนว่าไม่ได้กลับพร้อมกัน
ปู่ฝานไม่ค่อยออกไปไหนนักหรอก กลับไปถึงหอ อาบน้ำแล้วก็นอนเล่นที่ห้องรับแขกไม่นานก็จะเข้าห้องนอน หลับได้หลับดี
หรือจริงๆแล้วอาจจะไม่ได้ง่วง
แต่แค่หลบหน้ากัน
จื่อหยางเขี่ยรองเท้าใส่ตู้รองเท้าตรงประตูทางเข้าบ้านและมุ่งตรงไปที่ห้องนอนทันที แต่ก็ดันไปเห็นมนุษย์ตัวสูงเกือบสูงเมตรนอนจิ้มโทรศัพท์ สงสัยกำลังจะเล่นเกมนั่นแหละ เขาถอนหายใจแล้วหันหน้ามุ่งตรงกลับไปทิศทางเดิม
จื่อหยางเดินมาถึงหน้าห้องพักของเขา เดินเข้าไปและกำลังจะหันหลังกลับเพื่อปิดประตู แต่สายตาของเขาก็พบเห็นก้อนขนสีเทาขนาด..ยักษ์ กำลังกลิ้งอย่างสบายใจอยู่บนที่นอนของเขา
ป๋อเหวิน นายได้อาบน้ำให้มันรึเปล่า
จื่อหยางคุ้นๆว่าน่าจะไม่
โอย...กลับมาก็เหนื่อย ยังต้องมาสู้รบปรบมือกับแมวอีก
"ป๋อเหวิน!! มาเอาแมวนายกลับไปที มันมาอยู่ในห้องฉัน ฉันไม่อยากอุ้ม สกปรกชะมัด"
................ป๋อเหวินกำลังตัดต่อทีเซอร์ตัวใหม่ที่บริษัทนี่
จื่อหยางได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆจากบันได
ปู่ฝานคงกำลังจะเข้านอนเหมือนกันสินะ
ปู่ฝานกำลังเดินผ่านประตูห้องนอนของจื่อหยาง เขาหันเข้ามามองประตูที่ไม่ได้ปิดแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก ก็เย็นชาใส่กันมาหลายเดือนแล้วนี่นะ
เอาก็เอาวะ ยังไงมันก็ต้องมีสักวันที่ต้องได้คุยกันอยู่ดีแหละ มนุษย์บนโลกจะไม่สื่อสารกันได้ยังไง
"ปู่ฝาน!"
.
.
.
.
.
.
ปู่ฝานหยุดชะงัก เสียงที่ผ่านเข้าหูเมื่อกี้คงไม่ใช่ผีบ้านผีเรือนที่ไหนเรียกหรอก
เขาหันกลับมามองประตูห้องที่เปิดค้างไว้
อะไรของจื่อหยางกันนะ
"....นายช่วย...อุ้มเหมียนคู่ออกไปได้ไหม มันขึ้นมานอนบนเตียงฉัน สกปรกชะมัด"
"อืม" ปู่ฝานตอบไปแบบไม่ได้คิดอะไร เพราะเขารู้ว่าจื่อหยางไม่ชอบแมวขนาดนั้น
โดยเฉพาะเหมียนคู่
แต่ไม่รู้ตัวซะเลยว่าตัวเองน่ะเหมือนแมวมากแค่ไหน
ปู่ฝานเดินไปอุ้มเจ้าเหมียวตัวอ้วนที่นอนแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว มันสะดุ้งตื่นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร แถมยังหลับต่อในอ้อมแขนของปู่ฝานซะอย่างนั้น เขาลูบหัวเหมียนคู่เบาๆ มันทำหน้าพอใจและซุกหัวเข้าไปที่แขนของคนตัวสูง
ขายาวๆกำลังก้าวออกจากห้อง ก็มีมือข้างหนึ่งดึงแขนเสื้อของเขาไว้
จื่อหยางก้มหน้างุดและมองลงไปที่พื้นสักพัก
"มีอะไรจื่อหยาง นายก้มมองพื้นอย่างนั้นไม่ได้ช่วยทำให้ฉันเข้าใจนายหรอกนะ"
น่าจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดตั้งแต่ที่อึมครึมใส่กันไปหลายเดือน
ภาพผู้ชายตัวสูงสองคนยืนอยู่ใกล้ๆกัน อีกฝ่ายกำลังก้มหน้างุดราวกับสาวน้อยจะสารภาพรักกับหนุ่มทาสแมวคงไม่ใช่ภาพที่สวยเท่าไหร่
"เริ่มใหม่...กันได้มั้ยฝานจื่อ" จื่อหยางเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย
"หมายถึงอะไร"
จื่อหยางเม้มริมฝีปากก่อนที่จะเอ่ยคำพูดสุดท้ายออกมา
"ฉันขอโทษ"
"...."
โลกใบนี้เหมือนหยุดหมุนไปชั่วขณะ
ได้ยินเพียงแค่เสียงเข็มนาฬิกาบนผนัง
ได้ยินเพียงแค่เสียงลมที่กระทบกับหน้าต่าง
ได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายใจที่แผ่วเบาของอีกฝ่าย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ที่ทั้งสองคนมองหน้ากัน
สายตาทั้งสองคู่จดจ้องซึ่งกันและกัน
"เมี้ยว"
นั่นไม่ใช่เสียงปู่ฝาน
แต่เป็นเสียงของเจ้าแมวสีเทา มันกระโดดออกจากอ้อมแขนของปู่ฝาน
โลกกลับมาหมุนต่อไปอีกครั้ง
"เริ่มใหม่อะไรกันจื่อหยาง"
"........"
'ใจคอก็จะโกรธกันแบบนี้ไปเรื่อยเลยอย่างนั้นเหรอ?'
จื่อหยางไม่ได้พูดออกไป ความเงียบจึงเป็นคำตอบสุดท้าย
"นายก็เป็นหยางเกอของฉันมาตั้งนานแล้ว"
ดูเหมือนว่าตอนนี้เมฆหมอกสีเทาที่ปกคลุมพวกเขาทั้งสองคนกำลังจะหายไปเสียแล้ว
------------------------------------------------------------------
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด บ้าจริง
ขอบคุณน้องเหมียนคู่สิคะ! แมวเหมียวสื่อรัก วร้ายยยยยยย
ไม่รู้ว่าเขากลับมาคุยกันยังไง เลยโมเมเอาเองม่างเรย แต่ฉากไก่กามาก ควรไปลาออกจากการเรียนนิเทศ เขียนอิหยังก็บ่รู้ ฮือ #กดเคาะเว้นบรรทัดสิคะแล้วนิยายคุณจะยาวขึ้น
เอาจริงแค่อยากเขียนออกมา แต่พอได้เขียนแล้วก็คือกาก เฮ้อ
จริงๆอ่ะ เหตุเกิดฟิคสั้นก็คือ...จากการที่ท้ากัปตันว่าแน่จริงก็เอาขึ้นที่ 1ในเวยป๋อ ให้ได้สิ
สรุปกะคือ.........
ค่ะ หนูไม่ท้าแล้วก็ได้
หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการอ่านนะคะ ขอบคุณค่า <3 ให้อภัยในความกากด้วย ที่เรียนวิชาแลงเกวจฟอร์คอมมูนิเคชั่นไปคือยังไม่สามารถเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ /พนมมือกราบอาจารย์และทุกคน
แต่เพราะชาวเรือมันน้อย ผลิตได้ก็อยากจะผลิตออกมาค่ะ แอแอแอ บัยส์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in