เรื่องย่อหลังปก เยว้อิง สาวใช้ประจำหอดอกบัว หอคณิกาเลื่องชื่อในย่านเริงรมย์ นางไม่ได้มีใบหน้างดงามดังเช่นคณิกาที่นางรับใช้ ซ้ำร้ายใบหน้ายังมีตำหนิปานแดงมาแต่กำเนิด นางใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงาของนายหญิงและคณิกานางอื่นๆ จนกระทั่งได้พบกับ ไป่ หวง ชายหนุ่มจากตระกูลขุนนางสูงศักดิ์
ด้วยสถานะทางสังคมที่แตกต่าง ทางเดินชีวิตของทั้งสองจึงไม่มีทางมาบรรจบกัน แต่แล้วชีวิตของพวกเขาก็พลิกผัน เมื่อทั้งสองเข้าไปผัวพันกับการตายของหญิงคณิกาชื่อดังนางหนึ่ง เมื่อความใกล้ชิดก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ทั้งสองจะฝ่าฟันอุปสรรคจากความต่างระหว่างชนชั้นได้อย่างไร เขาและนางจะเลือกยอมแพ้ต่อโชตชะตา หรือต่อสู้เพื่อหัวใจของตนเอง
คุยกันหลังอ่าน
เรื่องนี้อยู่ในกองดองของเรานานมากแล้ว นานในระดับที่เราเห็นหน้าปกของเรื่องนี้หลายรอบแต่ก็ไม่เคยคิดจะหยิบมาอ่านเลยสักครั้ง จนวันนี้นึกยังไงก็ไม่รู้ค่ะ หยิบมาอ่าน แล้วก็พบว่ามันดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก
บุปผาซ่อนจันทร์เป็นเรื่องของสาวใช้ของนางคณิกาในย่านเริงรมย์ เยว้อิง กับ คุณชายเจ้าสำราญคนหนึ่ง ไป่หวง เป็นความรักบนชนชั้นที่แตกต่างที่เล่าไปพร้อมกับการไขคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในย่านเริงรมย์ไปด้วย
ต้องบอกว่าจริงๆแล้วพลอตในส่วนของคดีฆาตกรรมไม่ค่อยเข้มข้นมากนัก แต่ก็นับว่าอ่านได้เพลินๆ มันไม่ใช่สไตล์ที่เน้นการไขคดีเป็นหลัก โดยหลักแล้วมันยังเป็นนิยายรัก
สิ่งที่เราชอบมากที่สุดของเรื่องนี้คือการเล่าความสัมพันธ์ของพระนางต่างหาก มันแบบมีความเล่าแบบนิยายอิโรติกฝรั่ง มันแบบว่าฮอตมาก มันละเมียดละไม มันแบบละเอียดอ่อนแบบที่รู้ว่าคนเขียนเป็นผู้หญิงแน่ แล้วก็ชอบความกลัวของนางเอก ชอบคาแรกเตอร์ดีไซน์ของพระนางที่ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทั้งไป่หวง ทั้งเยว้อิง ต่างมีเวลาที่หวาดกลัว ต่างมีปมในใจ รู้สึกขายหน้าได้ อับอายได้ และขี้ขลาดได้
ตอนจบของเรื่องนี้ก็ขายฝันอย่างเหลือเชื่อ (แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ เรื่องแบบนี้จะจบเศร้าได้ยังไง ถึงแม้เราจะรู้สึกว่าจบแบบเศร้าคงจะสมจริงมากกว่าก็ตาม)
พูดกันเรื่องภาษาบ้าง เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกตั้งแต่อ่านย่อหน้าแรกๆเลยว่า ต้นฉบับของเรื่องนี้ต้องไม่ได้มาจากภาษาจีน นอกจากคำพูดและภาษารวมถึงการบรรยายที่ให้กลิ่นว่ามันมาจากภาษาอังกฤษแน่ๆ (แค่การแทนตัวพระเอกว่า หวง ก็ดูเหมือนแปลมาจากนิยายภาษาอังกฤษมากแล้ว) รวมถึงการบรรยายฉาก โดยเฉพาะฉากอิโรติกระหว่างพระนาง เรารู้สึกว่ามันฝรั่งมากจริงๆ มันเหมือนเวลาสตีเว่น สปีลเบิร์ก กำกับเกชาอะ คือมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่านี่มันเป็นการเล่าจากคนที่เป็นโตมากับวัฒนธรรมตะวันตก
คือถ้าต้นฉบับเป็นภาษาจีนจริง ก็ต้องเป็นคนที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากมาจากวรรณกรรมภาษาอังกฤษ หรือไม่ก็มีวิธีการเขียนแบบนี้อยู่แล้ว เช่น ติงโม่ บางครั้งก็มีฟีลแบบฝรั่งๆบ้างเหมือนกันนะ
ด้วยข้อสงสัยนี้ เราพยายามค้นหาชื่อ จีนนี หลิน แต่หาไม่เจอ จนมาเจอว่าจริงๆเค้าชื่อ jeannie lin ต่างหาก แล้วก็ใช่จริงๆ ต้นฉบับของเรื่องนี้เป็นภาษาอังกฤษ (จริงๆชื่อภาษาอังกฤษก็อยู่ที่หน้าปกไง แต่เราไม่ได้มองน่ะ) แล้วก็หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุด บุปผาซ่อนจันทร์ หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ The Lotus Palace เป็นเล่มแรก เล่มที่สองคือ เร้นรักบุปผาหยก The Jade Empress ซึ่งเป็นเรื่องของหมิงยวี้ พี่สาวของเยว้อิงนั่นเอง จริงๆคนอ่านน่าจะเดาได้ตั้งแต่เล่มแรกแล้วว่า ถ้าหากว่าหมิงยวี้มีเรื่องของตนเอง พระเอกน่าจะเป็น อู๋ ไคเฟิง มือปราบอู๋นั่นเอง
เราเข้าไปดูในเวบของคนเขียนมา เรื่องนี้ยังมีภาคสาม ซึ่งก็คือ The Hidden Moon เป็นเรื่องของไป่เว่ยเว่ย น้องสาวของไป่หวง และ เกา นักฆ่าที่โผล่มาในเล่มแรกนั่นแหละค่ะ เราคิดว่าภาค The Hidden Moon ไม่มีแปลเป็นไทยมั้งนะ
สรุปแล้วเราค่อนข้างชอบ คิดว่าน่าจะได้อ่านเรื่องของหมิงยวี้แล้วมารีวิวให้ทุกคนฟังแน่นอนค่ะ
ปล.เรื่องนี้ไม่มี E-book และเห็นว่าเวบของนายอินทร์ Out of Stock แต่คิดว่ามือสองน่าจะยังหาได้นะคะะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in