เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (3)Chaitawat Marc Seephongsai
การเมืองสิ่งแวดล้อมฯ By นิตยา โพธิ์นอก
  • รีวิวเว้ย (1942) สุนทรพจน์ที่โด่งดังและทรงพลังที่สุดของ เกรตา ทุนเบิก ณ การประชุม UN Climate Action Summit 2019 ที่นครนิวยอร์ก ได้สั่นสะเทือนเวทีโลกด้วยถ้อยคำอันเจ็บปวดที่ว่า: "พวกคุณกล้าดียังไง ที่มาฝากความหวังไว้กับคนหนุ่มสาว พวกคุณขโมยความฝันและวัยเด็กของฉันไปด้วยคำพูดที่เลื่อนลอย" วาทะนี้สะท้อนช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์สิ่งแวดล้อม ที่เด็กหญิงคนหนึ่งลุกขึ้นเรียกร้องและต่อสู้เพื่อชีวิตของคนรุ่นใหม่ ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากการกระทำของคนรุ่นก่อนหน้า แม้ว่ามรดกที่คนรุ่นก่อนทิ้งไว้ให้เราจะเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การพัฒนาเศรษฐกิจ และนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยยืดอายุขัย ทว่าความเจริญเหล่านั้นมักมาพร้อมกับด้านตรงข้ามเสมอ เช่น วิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้น หรือปัญหาสุขภาพที่เกิดจากวิถีชีวิตภายใต้การพัฒนา การตั้งคำถามอันแหลมคมจากเด็กคนหนึ่งจึงมิใช่เพียงการตำหนิ แต่เป็นการ สั่นคลอนรากฐานความเชื่อและสำนึกรับผิดชอบ ของคนในยุคปัจจุบันต่ออนาคตของโลกอย่างแท้จริง  
    หนังสือ : การเมืองสิ่งแวดล้อมที่เมืองและประชาชนเป็นคนขับเคลื่อน
    โดย : นิตยา โพธิ์นอก
    จำนวน : 210 หน้า  
    .
    "การเมืองสิ่งแวดล้อมที่เมืองและประชาชนเป็นคนขับเคลื่อน" หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวขจองสิ่งแวกล้อมที่ทาบทับอยู่กับเมือง ที่ในปัจจุบันยากจะปฏิเสธว่าเมืองกลายเป็นแหล่งชุมชนพื้นฐานของสังคมมนุษย์ การขยายตัวของเมืองและการยกระดับสู่ความเป็นเมืองของชุมชนบรรพกาล (ชนเผ่า) ถูกท้าทายและยกระดับขึ้นเป็นเมืองที่รอการพัฒนาไปสู่เมืองที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในภายหน้า และด้วยการเติบโตในลักษณะของเมืองนี้เองที่เมืองต้องอาศัยการสูบทรัพยากรจากที่อื่น ๆ เพื่อมาหล่อเลี้ยงเมืองและคนในเมือง กระทั่งหลายหนมันนำไปสู่การล่มสลายของทรัพยากรและสิ่งมีชีวิตที่ถูกนำมาหล่อเลี้ยงเมือง โดยที่ "การเมืองสิ่งแวดล้อมที่เมืองและประชาชนเป็นคนขับเคลื่อน" บอกเล่าเรื่องราวของการเมืองสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นจากคำถามพื้นฐานว่า ทำไมหรือเหตุใกเราต้องสนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อม ? อีกทั้ง "การเมืองสิ่งแวดล้อมที่เมืองและประชาชนเป็นคนขับเคลื่อน" ยังฉายให้เห็นถึงพัฒนาการด้างสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับโลกและในสังคมไทย โดยในบริบาทของไทยหนังสือได้มีการบอกเล่าเรื่องราวของการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในไทยตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2500 กระทั่งถึงช่วงเวลาของรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2560 สำหรับเนื้อหาของ "การเมืองสิ่งแวดล้อมที่เมืองและประชาชนเป็นคนขับเคลื่อน" แบ่งออกเป็น 6 บทดังนี้
    .
    บทที่ 1 ทำไมทุกคนต้องสนใจสิ่งแวดล้อม
    .
    บทที่ 2 การเมืองสิ่งแวดล้อม
    .
    บทที่ 3 วิวัฒนาการการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม
    .
    บทที่ 4 การเมืองสิ่งแวดล้อมในมิติที่เมืองและประชาชนเป็นผู้ขับเคลื่อน
    .
    บทที่ 5 การขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมของเมืองและประชาชนในประเทศไทย
    .
    บทที่ 6 ทิศทางในอนาคตเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เมืองและประชาชนเป็นคนขับเคลื่อน
    .
    หนังสือเรื่อง "การเมืองสิ่งแวดล้อมที่เมืองและประชาชนเป็นคนขับเคลื่อน" เล่มนี้ เชื้อเชิญให้ผู้อ่านสำรวจประเด็นสำคัญยิ่งยวด ที่คนรุ่นปัจจุบันและอนาคตไม่อาจละเลยได้ นั่นคือความสัมพันธ์ระหว่าง เมือง ประชาชน และสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้ เนื้อหาจึงมุ่งตอบคำถามพื้นฐานว่าเหตุใดเราทุกคนต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งนำเสนอพัฒนาการและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะน้ำมือมนุษย์ และตอกย้ำว่า พลังของประชาชนก็สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกได้เช่นเดียวกัน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in