เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
คุยเล่นจนเป็นเรื่อง: รวมบทสัมภาษณ์ของนักเรียนเขียนเรื่อง 2019 และ 2022อ่าน-คิด-เขียน
ตามเสียงไป คงไม่เสียใจ
  • บทสัมภาษณ์โดยนักเรียนเขียนเรื่อง จากรายวิชา "ศิลปะการเขียนร้อยแก้ว" ปีการศึกษา 2564
    อ่าน-คิด-เขียน เป็นพื้นที่เผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ของเหล่า content creator ฝึกหัดก่อเรื่องสร้างภาพ จากอักษรฯ จุฬาฯ มาร่วมชมและแชร์คอนเทนต์หลากรส หลายอารมณ์ไปกับเราได้เลยค่ะ  เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้ทาง line official เพื่อมิให้พลาดคอนเทนต์ที่น่าสนใจจากเหล่านักเรียนเขียนเรื่องจากอักษรฯ จุฬาฯ  โดยคลิกลิงก์เพื่อเพิ่มเพื่อน https://lin.ee/CMxj3jb หรือเพิ่มเพื่อนทางไลน์ ID โดยค้นหา @readthinkwrite2559  ได้เลยค่ะ

              ชวนฟังบทเพลงชีวิตท่อนหนึ่งของ ‘ปิยพล บุนนาค’ นิสิตคณะรัฐศาสตร์ผู้ตัดสินใจที่จะ ‘ทุ่ม’ และ ‘เท’  ทุกอย่างที่มีให้กับการทำเพลงแร็ปเป็นเวลา 1 ปีหลังเรียนจบ


    “Hip Hop คือชีวิต คือเพลงที่ฟังในการใช้ชีวิต เพื่อที่จะเป็นตัวเรา เป็นชีวิตของเรา” 

    – ปิยพล บุนนาค-


              หากเปรียบชีวิตคนเราเป็นบทเพลง โลกใบนี้คงมีหลายพันล้านเรื่องราวที่ถูกเรียบเรียงออกมาเป็นบทเพลงซึ่งมีความพิเศษแตกต่างกันไปเช่นเดียวกับบทเพลงของ ‘ปิยพล บุนนาค’ แร็ปเปอร์จากคณะรัฐศาสตร์ที่มีความพิเศษในแบบฉบับของเขาเอง บทสัมภาษณ์นี้จะพาคุณไปฟังท่อนหนึ่งของบทเพลงนั้นซึ่งเต็มไปด้วย ‘เสียง’ อันเป็นเอกลักษณ์ของปิยพลที่เปล่งออกมาทั้งในฐานะนิสิตคณะรัฐศาสตร์และในฐานะศิลปินฮิปฮอปที่กำลังจะเริ่มก้าวเข้าสู่วงการอย่างเต็มตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

              ‘ปิยพล บุนนาค’ เป็นนิสิตภาคการเมืองการปกครองชั้นปีที่ 4 จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาเคยติดอยู่ในห้วงจังหวะชีวิตที่เต็มไปด้วยความลังเลและความกังวลเกี่ยวกับอนาคตและการตัดสินใจของตนไม่ต่างจากใครอีกหลายคน คำถามที่ฟังดูง่ายสำหรับคนถามอย่าง จบไปจะทำอะไร’  จึงเคยเป็นคำถามที่ยากสำหรับคนตอบอย่างปิยพลเช่นกัน จนกระทั่งถึงวันที่เขาตัดสินใจกับตัวเองได้แล้วว่าจะทุ่มเททำเพลงเป็นเวลา 1 ปีเพื่อออกอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกกับกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในสิ่งเดียวกัน

              ปิยพลเชื่อมาตลอดว่าการเป็นตัวเองให้มากที่สุดคือสิ่งที่ทำให้คนเรามีความสุขในการใช้ชีวิตมากที่สุดและเชื่อว่าทุกคนบนโลกล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง หลายครั้งที่สังคมและสภาพแวดล้อมเข้ามาเป็นตัวการสำคัญที่พัดพาให้คนเราออกห่างจากการเป็นตัวเองไปเรื่อย ๆ จนทำให้ผู้คนอยู่ห่างไกลจากความสุขมากขึ้นไปด้วย เขาจึงพยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดและไม่ลืมที่จะค้นหาตัวเองอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งนี้ของเขาจึงไม่ได้เป็นสิ่งที่เปิดโอกาสให้เขาได้เป็นตัวของตัวเองเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เขาได้เปล่งเสียงอันเปี่ยมไปด้วยความจริงของโลกและของตัวเองออกมาผ่านบทเพลงที่เขาแต่งขึ้น กลิ่นอายของความเป็นปิยพลจึงปรากฏอยู่ในความหลงใหลที่เขามีให้กับศาสตร์แห่งปรัชญาการเมืองและเสียงของดนตรีฮิปฮอปนั่นเอง


    เสียงของปรัชญาการเมือง

              เสียงคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปในโลก เสียงความคิด เสียงความเห็นเกี่ยวกับการเมืองและสังคมรอบตัวล้วนเป็นเสียงที่ดังขึ้นในใจของปิยพลมาเงียบ ๆ ตั้งแต่เขายังเด็ก การเติบโตมาพร้อม ๆ กับการหมั่นสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวทำให้ปิยพลไม่ลืมที่จะตั้งคำถามและหาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นอยู่เสมอ จนมาถึงวันที่ความสนใจนี้กลายมาเป็นคณะที่ใช่ที่สุดสำหรับเขา

              “เราโตมากับพ่อที่สนใจเกี่ยวกับการเมืองก็เลยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการเมืองมาตั้งแต่จำความได้แล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้ว่ามันอยู่กับเรามาตลอด ในวัยนั้นเรารู้สึกว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว แต่พอโตขึ้นเรื่อย ๆ เราก็เริ่มเข้าใจว่าการเมืองเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตของทุกคนเสมอ สิ่งที่เกิดขึ้นในโลก เกิดขึ้นในประเทศ เกิดขึ้นในการเมืองมันเลยเป็นอะไรที่ดึงดูดเรามาก ช่วงที่มานั่งทบทวนเลือกคณะเลยคิดกับตัวเองว่า ‘เรามีความรู้สึกกับคณะรัฐศาสตร์มากที่สุด ทำได้ดีที่สุด ชอบที่สุดแล้วก็ชอบมาโดยตลอด ทำไมไม่เลือกคณะนี้ไปเลยซักทีวะ’ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเข้าคณะรัฐศาสตร์ได้ง่าย ๆ แบบแทบไม่ต้องคิดหนักเลย”

              “ทีนี้พอเข้าคณะไปเราก็เลือกเข้าภาคปกครองต่อเพราะชอบ แต่ที่ชอบสุดคงต้องยกให้ปรัชญาการเมือง เพราะเราชอบในตัวมันเองอยู่แล้ว ด้วยความที่มันเป็นปรัชญา มันก็เลยยึดโยงและเข้าใกล้กับความเป็นจริงที่สุด เรารู้สึกว่านี่แหละคืออะไรที่ประเทืองปัญญาเพราะเราชอบวิเคราะห์ ชอบตีความทฤษฎีต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับความเป็นจริงซึ่งมันมีความเป็นไปได้ไม่รู้กี่ร้อยพันล้านอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อีกอย่าง เรารู้สึกว่าเรามีความสามารถที่จะวิเคราะห์ ตีความและถ่ายทอดอะไรออกมาในแบบที่เป็นตัวเราเองอยู่แล้ว เลยมั่นใจที่จะแสดงความเห็นออกไปและชอบที่ได้ทำอะไรแบบนั้น”

              ปรัชญาการเมืองจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนให้เห็นตัวตนของปิยพลและดึงความคิดของเขาออกมาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน กับใคร เมื่อไหร่ ปรัชญาการเมืองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ ถกเถียง และเปล่งเสียง เกี่ยวกับความจริงออกมาได้เสมอผ่านการใช้ตรรกะ ความคิดเห็นและความเป็นตัวของตัวเอง


    เสียงของฮิปฮอป

              เสียงบีทหนัก ๆ ของเพลงฮิปฮอปดังขึ้นในห้องของปิยพลเป็นครั้งแรกในช่วงมัธยมต้นและดังขึ้นในใจของเขามาตลอดนับแต่นั้นเป็นต้นมา รู้ตัวอีกที เสียงของฮิปฮอปก็เข้าจับจองพื้นที่ในเพลย์ลิสต์และกลายเป็นเสียงที่ดังก้องในห้องของเขาอยู่เสมอจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป ความหลงใหลที่ปิยพลมีให้กับเพลงฮิปฮอปจึงสะสมมาเรื่อย ๆ และนำเสนอออกมาในรูปแบบของบทเพลงมากมายที่เขาตั้งใจทำขึ้น

              “เรารู้สึกว่ามันเท่ จังหวะและท่วงทำนองของดนตรีฮิปฮอปมันตรงกับเราสุด ๆ เลยรู้สึกว่ามันใช่ ยิ่งขึ้นปีหนึ่งยิ่งชัดเลย ฟังฮิปฮอปอย่างจริงจังมาเรื่อย ๆ จนได้มาเจอเพื่อน ๆ ที่ฟังฮิปฮอปเหมือนกันก็เลยได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น พอเข้าช่วงปีสองปีสามก็คือฟังจริงจังพร้อมกับเริ่มทำเพลงไปด้วยละ ซึ่งพอเรามาทำเพลง มันก็ยิ่งเป็นการส่งเสริมการฟังให้จริงจังมากขึ้นไปอีก ต้องฟังให้ลึก ฟังให้รู้ว่าคุณค่าของมันอยู่ตรงไหน พอเราฟัง เราก็ตั้งคำถามและใช้ปรัชญาในการหาคุณค่า หาความหมาย หาความจริงต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในบทเพลง”

         “สำหรับเราฮิปฮอปคือดนตรีประเภทที่เรียลที่สุด กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง กล้าพูดในสิ่งที่ดนตรีประเภทอื่นไม่กล้าซึ่งก็เป็นคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนของดนตรีฮิปฮอปและเป็นจุดที่เราชอบ”

              ปิยพลมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของดนตรีฮิปฮอปคือการพูดความจริงและถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุดซึ่งเขาเองก็อยากไปอยู่ในจุดที่ได้อธิบายความคิดของตัวเองออกไปโดยที่มีคนเข้าใจเขา เห็นตัวตน และเห็นความเจ๋งของเขาผ่านบทเพลงที่เขาแต่งขึ้นในสักวัน ด้วยเหตุนี้ จังหวะ เนื้อหา รวมไปถึงความเป็นอิสระในการแสดงความคิด แสดงตัวตน และแสดงความจริงจึงเป็นเสน่ห์ของความเป็นฮิปฮอปที่ไม่เพียงเข้ากันได้กับรสนิยมส่วนตัวของปิยพลเท่านั้น  แต่ยังสะท้อนความเป็นตัวเขาออกมาได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน


    เสียงของปิยพล

              ถึงแม้ว่าความหลงใหลที่ปิยพลมีให้ศาสตร์แห่งปรัชญาการเมืองและเสียงของดนตรีฮิปฮอปนั้นจะดูเหมือนเป็นสิ่งที่แยกจากกันไปคนละทางราวกับเสียงคนละโทน ปิยพลที่เป็นทั้งนิสิตคณะรัฐศาสตร์และศิลปินแร็ปที่หลงใหลในเสียงทั้งสองกลับมองต่างออกไป

              สองอย่างนี้มันอาจจะดูขัดแย้งในมิติที่มันนำไปสู่สายงานในอนาคตที่ไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยก็จริง แต่สุดท้ายโดยรวมเรารู้สึกมันส่งเสริมกันนะ การเป็นเด็กรัฐศาสตร์คือส่วนหนึ่งในตัวตนของเรา ซึ่งมันก็ไปส่งผลถึงเนื้อหาของเพลง การออกแบบสิ่งที่เราต้องการจะถ่ายทอดไปจนถึงกระบวนการทำงานของเราด้วย เราชอบเรื่องการเมือง รู้เรื่องการเมือง สนใจเรื่องการเมือง เพลงที่เราทำออกมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงเกี่ยวกับการเมือง เช่น เพลงสะท้อนสังคม เพลงที่สอดแทรกการวิจารณ์การเมือง หรือเพลงที่สื่อถึงสิ่งที่เราคิดเกี่ยวกับความจริงทางการเมืองอะไรแบบนี้”

              “ในแง่ของบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบในฐานะศิลปินกับนักรัฐศาสตร์ก็น่าจะต่างด้วยเหมือนกัน ศิลปินอย่างเราบางทีก็ทำผลงานไปเพื่อจรรโลงจิตใจตัวเองบ้าง สะท้อนสังคมบ้าง ก็คือทำไปตามที่เราคิดและพูดในสิ่งที่เราอยากพูด แต่ในเชิงรัฐศาสตร์มันจะมีเรื่องความถูกต้อง เรื่องจรรยาบรรณต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้น บางทีสิ่งที่เราต้องการจะพูดในฐานะศิลปินอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในฐานะนักรัฐศาสตร์ก็ได้ มันอาจจะขัดกันตรงนี้ แต่ในมุมมองของเรา จุดประสงค์ของทั้งสองอย่างก็เหมือนกันอยู่ดีนะ นักรัฐศาสตร์คือคนที่ศึกษาเรื่องการเมืองโดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาสังคมและการเมืองให้ดีขึ้น ศิลปินเองก็เช่นกัน เราทำเพลงออกมาเพื่อจรรโลงจิตใจคนฟังไปพร้อม ๆ กับการกระตุกให้เขาฉุกคิดหรือเห็นปัญหาต่าง ๆ สุดท้ายแล้วจุดประสงค์ก็คือการทำให้สังคมมันดีขึ้นเหมือนกัน เพียงแค่ใช้คนละวิธีเท่านั้นเอง

    “สำหรับเราความเป็นรัฐศาสตร์มันไม่ใช่แค่การใส่ชุดนิสิตมาเรียน เรียนจบแล้วก็คือจบ แต่เป็นกระบวนการคิด การมองโลก มองสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น การที่เราเลือกเส้นทางของศิลปินมันไม่ได้เป็นการทิ้งอีกเส้นทางหนึ่งเลย รัฐศาสตร์มันยังอยู่ในตัวเราเสมอ”

              เสียงของปรัชญาการเมืองที่เขาหลงใหลจึงประสานรวมเข้ากับเสียงของฮิปฮอปได้เป็นอย่างดี เสียงทั้งสองเสียงนี้ดังก้องอยู่ในตัวของปิยพลมาตลอดและจะเป็นส่วนหนึ่งของปิยพลเสมอ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในบทบาทของศิลปิน นักรัฐศาสตร์ หรือบทบาทใดก็ตาม


    เสียงแทรก

              เมื่อปิยพลตัดสินใจเลือกเดินตามเสียงของบีทดนตรีฮิปฮอปแล้ว ก็ไม่แปลกที่จะมีเสียงจากทั้งภายนอกและภายในดังแทรกขึ้นตามมาและรบกวนเขาอยู่เรื่อย ๆ ระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นเสียงของคนอื่นหรือเสียงคำถามที่ดังขึ้นมาในใจของเขาบ้างเป็นครั้งคราว

         “ถามว่าคิดเรื่องมุมมองของสังคมบ้างไหม ก็คิดนะ แล้วมันก็มีคนใกล้ตัวเช่นญาติหรือเพื่อนที่พูดไม่ดีใส่เราจริง ๆ แบบมาแนะนำให้เป็นอย่างนู้นเป็นอย่างนี้แทน แต่เราก็ไม่ได้สนใจ ไม่ได้แคร์อยู่แล้วว่าเขาจะมารู้สึกกับเรายังไง เพราะคนพวกนั้นไม่ได้มีผลอะไรกับเป้าหมายของเราเลย”

              “เราเห็นว่ามันมีช่องทาง ตลาดมีสิทธิ์โต เลยคิดว่าโอกาสที่จะทำสำเร็จได้เนี่ยมันมี แล้วเราก็ทำไหว แล้วทำไมจะไม่ทำ ก็คิดแบบนี้ แต่ถามว่ามีสงสัยมีกังวลบ้างมั้ย ก็มีแหละ บางทีเราก็สงสัยกับการตัดสินใจของตัวเองนะ บางทีไปเจออย่างอื่นที่อยากลองทำดูก็จะแอบสงสัยกับตัวเองว่าฮิปฮอปเป็นสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดแล้วจริง ๆ หรือเปล่า อยากทำจริง ๆ หรือเปล่า แต่สุดท้ายคำตอบก็เหมือนเดิมคือมันใช่แหละว่ะ เราฟังอยู่ทุกวัน ทำอยู่ทุกวัน แล้วเราก็แฮปปี้ เรามั่นใจว่าเราน่าจะแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้ดีเหมือนกับที่เราพยายามทำมาโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนจุดที่เราสงสัยในความสามารถของตัวเองมันก็อาจจะมีบ้างเหมือนกัน แต่ไม่เยอะเท่าการสงสัยว่าตลาดจะเข้าใจสิ่งที่เราเป็นหรือเปล่า รสนิยมการฟังเพลงของคนไทยจะเข้ากับเพลงของเรามั้ยอะไรแบบนี้ ซึ่งเวลาที่มันเกิดความสงสัยแนว ๆ นี้ เราก็จะกลับไปคิดทบทวนปัจจัยทั้งหมดอีกทีนึงว่าเหตุผลอะไรทำให้เรามั่นใจแล้วตัดสินใจเลือกทางนี้ไปตั้งแต่นาทีแรก พอมาคิดว่าทุกอย่างยังอยู่ครบเหมือนเดิม ก็จบ เราก็เดินหน้าต่อ” ปิยพลเล่าถึงความกังวลและวีธีรับมือกับความคิดเหล่านั้นให้เราฟัง


    เดินทางไปตามเสียง

              เสียงของปรัชญาการเมืองและเสียงของฮิปฮอปจึงเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความจริงและเป็นเสียงที่สะท้อนตัวตนของปิยพลออกมาได้เป็นอย่างดีมาตลอดและเมื่อถึงจุดที่เขาค้นพบเสียงของตัวเองแล้ว ปิยพลก็เลือก 'ทุ่ม' ความคิด ความสามารถ ความพยายามทั้งหมดที่เขามีลงไป และ 'เท' ความลังเล ความกลัว ความกังวลทั้งหมดที่เขาเคยมีออกมาเพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงตามเสียงในใจของเขาที่ดังกลบทุก ๆ เสียงในขณะนี้

              การหาตัวเองให้เจอ เป็นตัวของตัวเอง และทำในสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ปิยพลเลือกใช้ในการกำหนดอนาคตและชีวิตของเขาเอง และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร อย่างน้อยเขาก็คงไม่เสียใจที่ได้ลองซื่อสัตย์กับตัวเองจริง ๆ และไม่เสียใจที่ได้ลองพยายามทำทุกอย่างเท่าที่เขาสามารถทำได้เพื่อเปล่งเสียงและถ่ายทอดความจริงทั้งของโลกของและของตัวเขาเองให้โลกได้รับรู้

              เพราะปิยพลเชื่อเสมอว่าการเป็นตัวของตัวเองนำมาซึ่งความสุข และอยากให้คนอื่นเป็นตัวของตัวเองเหมือนกันไม่ใช่แค่เขาเพียงคนเดียว

    และเราก็เชื่อว่า...เขาเองก็อยากให้ทุกคนเปล่งเสียงของตัวเองออกมา

              เหมือนกับเสียงบีทของดนตรีฮิปฮอปและ ‘เสียง’ อันเป็นเอกลักษณ์ของปิยพลที่กำลังดังไปทั่วห้องทำเพลงของเขา ดังไปทั่วบทสัมภาษณ์บทนี้ และกำลังรอวันที่จะดังไปถึงหูผู้ฟังมากมายในอีก 1 ปีข้างหน้านั้นด้วยเช่นกัน


    ติดตามผลงานเพลงของปิยพลได้ที่ Nothingtown Channel ทาง youtube.com


    © สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. 2558 เผยแพร่เพื่อประโยชน์ทางวิชาการเท่านั้น

    ผู้ให้สัมภาษณ์: ปิยพล บุนนาค
    ผู้สัมภาษณ์: ภาสกร บุญหงษ์
    เรียบเรียงบทสัมภาษณ์: วีรยา ชัยเจตน์สฤษฎิ์
    ภาพประกอบบทสัมภาษณ์: ภาสกร บุญหงษ์
    ภาพปก: pexels
    บรรณาธิการ: หัตถกาญจน์ อารีศิลป
    จัดหน้าและตรวจปรู๊ฟ: ณิชาภัทร จันทสิงห์
    ภาพประกอบเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์: ธมลวรรณ จิ้มลิ้มเลิศ


    ผลงานจากรายวิชา #ศิลปะการเขียนร้อยแก้ว ปีการศึกษา 2564 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565  #ห้องเรียนเขียนเรื่อง


    อ่าน-คิด-เขียน เป็นพื้นที่เผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ของเหล่า content creator ฝึกหัดก่อเรื่องสร้างภาพ จากอักษรฯ จุฬาฯ มาร่วมชมและแชร์คอนเทนต์หลากรส หลายอารมณ์ไปกับเราได้เลยค่ะ  เพิ่มเราเป็นเพื่อนได้ทาง line official เพื่อมิให้พลาดคอนเทนต์ที่น่าสนใจจากเหล่านักเรียนเขียนเรื่องจากอักษรฯ จุฬาฯ  โดยคลิกลิงก์เพื่อเพิ่มเพื่อน https://lin.ee/CMxj3jb หรือเพิ่มเพื่อนทางไลน์ ID โดยค้นหา @readthinkwrite2559  ได้เลยค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Sanymeida (@fb1180365478014)
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-2-4k-uhd-bd
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-4k-uhdbd
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-4k-uhdbd-1
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-4k-uhd-bd
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-4k-uhd-bd-1
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-4k-uhd-bd-2
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-uhdbd
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-bd
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-4k-uhd-bd-10
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-2-4k-uhdbd-bd
https://likefm.org/blog/redpopcornflix-3-4k-uhd-bd
https://likefm.org/blog/redpopcornflix-4k-uhd-interstellar
https://likefm.org/blog/redpopcornflix-4k-uhdbd
https://likefm.org/blog/redpopcornflix-4k-uhd-bd
https://likefm.org/blog/redpopcornflix-uhdbd-bd
https://likefm.org/blog/redpopcornflix-4k-uhd-bd-bd
https://likefm.org/blog/redpopcornflix-uhdbd
https://likefm.org/blog/redpopcornflix-4k-uhd-bd-1
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-uhdbdbonuslogo
https://ko-fi.com/miftahmalik88#galleryItemView
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-1984-4k-uhd-bd
https://ko-fi.com/miftahmalik88#galleryItemView
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/4k-uhd.html
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/4k-uhd_5.html
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-4k-uhd
https://techplanet.today/post/redpopcornflix-uhdbd-1
https://techplanet.today/post/4k-uhdbd-1
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/4k-uhdbd.html
https://techplanet.today/post/eternals-4k-uhd-bd-bd
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/eternals-4k-uhd-bd-bd.html
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/4k-uhd-bd.html
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/4k-uhd-bd_5.html
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/uhdbd_5.html
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/12-uhdbd.html
https://yahoomoviestw.blogspot.com/2023/01/top-gun-4k-uhd.html
https://mewe.com/i/hasbyalya
https://mewe.com/i/diggybeatz