เราต้องทนทำงานแบบนี้ไปอีก 1 เดือน เหรอ?!
เราได้มีโอกาสไปเป็นพนักงานที่ร้านเครื่องดื่มแห่งหนึ่ง
โดยมีหน้าที่คือ ทำเครื่องดิื่ม ล้างจาน เก็บโต๊ะ ถูพื้น ซักผ้า และดูแลความเรียบร้อยของร้าน
ในทุก ๆ วัน 6 วัน ต่อสัปดาห์ เวลาในการทำงานทั้งหมด คือ 10 ชั่วโมง และจะได้พัก 1 ชั่วโมง
และกฎของร้านในขณะทำงานคือ ห้ามนั่งพัก!
วันแรกที่เราเริ่มงานเราแทบอยากลาออกมันซะเดี๋ยวนั้น เราไม่ชอบงานบริการเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับบุคลิกที่เงียบ ๆ ขรึม ๆ การยืนอยู่หน้าร้านเจอผู้คนมากหน้าหลายตาก็ดูจะผิดที่ผิดทางเอามาก ๆ
เพราะนอกจากการมาทำงานหน้าร้านจะไม่ใช่หน้าที่ของเราตั้งแต่แรกแล้ว มันยังเหน็ดเหนื่อย และกินพลังงานชีวิตในการพยามยิ้ม และทำตัวสดใสตลอดทั้งวัน เพราะแน่นอนว่าคงไม่มีลูกค้าคนไหนอยากจะเห็นพนักงานหน้าบูดหรอก จริงมั้ย (แค่เราอาจจะลืมตัวทำหน้างอไปแล้วน่ะสิ..)
เวลาเดินไปอย่างเชื่องช้าในช่วงเช้าที่คนไม่ค่อยจะเยอะเท่าไหร่ แต่พอตกเย็นเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วรู้ตัวอีกทีก็เป็นเวลาสี่ทุ่มที่อาจจะยังมีลูกค้าที่เพลิดเพลิน ติดลม กับบรรยากาศยามค่ำคืนและเครื่องดื่มเย็น ๆ และถึงคราวที่เราจะต้องเก็บร้าน ยกเก้าอี้ ปิดเพลงคลาสสิกที่เปิดคลอมาทั้งวัน แล้วเลือกเพลย์ลิสตามใจชอบของพนักงาน ที่ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาเดียวที่พวกเราได้มีอิสระ บ้างขอเพลงที่ฮิตในติ้กต่อก บ้างก็เปิดเพลงป็อบที่ชอบจากทั้งศิลปินไทยและเทศ เมื่อเสร็จภารกิจก็แยกย้ายกันกลับบ้าน บ้างก็กลับรถเมล์ รถไฟฟ้าบีทีเอส หรือมอเตอร์ไซต์คู่ใจลัดเลาะผ่านใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร
แม้จะเป็นเวลาสี่ทุ่มหรือจวนจะห้าทุ่ม ชีวิตในเมืองใหญ่ไม่เคยเงียบเหงาลงไปแม้แต่น้อย ยังมีผู้คนรอรถไฟฟ้าแม้จะบางตาแต่ก็ไม่เหงาอย่างแน่นอน จวนจะเที่ยงคืนเรากลับมาถึงห้องพักกับสภาพเท้าที่ชาและระบมมากจากการยืนทำงานต่อเนื่อง แม้จะใส่รองเท้าที่ดีมากแล้วก็ตาม ในบางวันก็ต้องเอาน้ำแข็งมาแช่เท้ากันไป ในบางครั้งก็รู้สึกท้อใจว่าทำไมชีวิตเราถึงได้น่าสงสารขนาดนี้นะ แต่เอาน่ะ บางทีมันอาจจะเป็นบททดสอบให้เราเติบโตและอดทนไปอีกขึ้นหนึ่งก็ได้
ผ่านไปสองอาทิตย์แล้วล่ะ เราก็ทำงานได้คล่องขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ แต่ถ้าถามว่าชอบไหมก็ยังเป็นคำตอบเดิมว่า ไม่นะ ไม่ได้ชอบ แค่ต้องทำไปก่อน ก็อยากจะได้เงินเดือนนี่หน่า...
แต่พอได้มาคิดดี ๆ เราได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างจาการมาทำงานบริการ ทั้งระบบหรือกฎจากฝั่งนายจ้าง และรู้สึกเห็นใจพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่ทำงานบริการเป็นอาชีพหลัก ที่ต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ แลกมากับเงินเดือนที่คิดเท่าไหร่ก็ยังไม่คุ้มกับแรงที่ลงไปด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็ตั้งใจทำงานกันสุด ๆ
ข้าน้อยขอคาราวะ! แต่จะดีกว่านี้นะถ้าคนที่กำลังเป็นเจ้าของกิจการทั้งหลายได้มาอ่านโพสนี้
งานหน้าร้านคืองานที่พนักงงานต้องเจอลูกค้าแบบถึงเนื้อถึงตัวที่สุด เป็นภาพสะท้อนของบริษัทที่ชัดเจนที่สุดมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ดังนั้นถ้าคาดหวังงว่าเขาจะทำตัวดี ใส่ใจลูกค้า ก็กรุณาดูแลจิตใจพวกเขาบ้าง อาจจะเป็นสวัสดิการดี ๆ เงินโบนัส การปรับเงินเดือน หรือซื้อน้ำซื้อขนมมาฝากกันบ้างก็คงจะดีมาก ๆ เลยล่ะ
.
ส่วนตัวฉันอีก 10 วันฉันจะได้เข้าออฟฟิศแล้ว
.
//แต่ที่ได้ฟังมาก็มี culture แปลก ๆ ในองค์กรด้วยล่ะ
เอาไงดีเรา เตรียมหางานใหม่เลยดีไหมเนี่ยยยยยย//
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in