เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SOMEHOW A แคะED นิยายน้องกี้
รีวิว #ปฏิปักษ์คู่บัลลังก์ 1-2
  • ความรักมิอาจลดทอนให้เหลือเพียงแค่เรื่องราวระหว่างคนสองคนได้
    และซูซื่ออวี้ก็คงคิดเช่นนั้น


    ชื่อเรื่อง ปฏิปักษ์คู่บัลลังก์ / 君有疾否
    นักเขียน หรูซื่อหว่อเหวิน / Ru Shi Wo Wen / 如似我闻
    ผู้แปล เจ้าเจิน
    สำนักพิมพ์ Rose
    ปีที่พิมพ์ 2023
    จำนวนเล่ม 2 เล่มจบ

    content warning
    death, torture, violence

    ** ไบแอสซูซื่ออวี้ค่ะ 5555555

    สองคน สองอุดมการณ์ต่างโดนกระแสชะตาชีวิตพัดพามาให้หมายปองใจกัน
    จะมีฝ่ายหนึ่งยอมโอนอ่อน หรือต่างฝ่ายต่างยึดถือสิ่งสำคัญอย่างอุดมการณ์เสียมากกว่า

    ปฏิปักษ์คู่บัลลังก์ เป็นนิยายยุคพีเรียดที่พื้นเพเรื่องราวจับจ้องอยู่ที่การเมืองของราชสำนักเป็นหลัก ตั้งแต่การสืบคดีเพื่อราชสำนัก การจัดการความเรียบร้อยในราชสำนัก กระทั่งการขัดแย้งของความสุขส่วนตัวกับผลประโยชน์ของราชสำนัก ด้วยการดำเนินเรื่องที่กระชับจบใน 2 เล่มผ่านสองตัวละครที่ชาญฉลาด และเป็นหัวหอกสำคัญต่อการดำรงอยู่ของบ้านเมืองอย่าง ซูซื่ออวี้ ผู้ตรวจการดูแลงานตรวจตรา และฉู่หมิงอวิ่น ผู้บัญชาการควบคุมงานทหาร

    เดิมทีความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นเพียงสองฝ่ายร่วมงานและคานอำนาจซึ่งกันและกัน หาได้มีร่องรอยจะมาลงรอยหรือสนิทชิดเชื้อกันแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ต่างฝ่ายต่างมองว่าอีกฝ่ายเป็นเสี้ยนหนามที่เพียงกำจัดออกไปย่อมเสมือนขจัดภัยคุกคามออกไปได้ ทว่าวันหนึ่ง ยามเกิดเหตุฆาตกรรมกับขุนนางยศสูงในสำนัก ฉู่หมิงอวิ่นกลับเคลือบแคลงในตัวซูซื่ออวี้จากหลักฐานที่องครักษ์เงาของตนไปพบเข้า เพื่อที่จะเปิดโปงและลดอำนาจของฝ่ายซูลง ฉู่หมิงอวิ่นจึงตัดสินใจจะตามสืบความจริงผ่านการเข้าหาอีกฝ่าย และแสร้งประกาศว่าตนเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ทั้งยังหมายปองในตัวซูซื่ออวี้ หากจะว่าเป็นกรรมของพวกเควียร์เบทก็สมที เพราะสุดท้ายแล้ว ฉู่หมิงอวิ่นกลับมาลอบปลูกดอกรักร่วมกับซูซื่ออวี้เสียอย่างนั้น ทว่าน่าเศร้าที่ความรู้สึกส่วนตัวมิอาจลบเลือนความจริงที่ว่าอุดมการณ์ของทั้งสองไม่ลงรอยกันเสียแต่แรกแล้ว เช่นนั้น แม้ฝ่ายหนึ่งจะยินดีโอบกอดด้วยความรักที่มีอย่างไร แต่อีกฝ่ายจะแน่ใจได้จริง ๆ หรือ ? สถานการณ์ความรักในเรื่องนี้จึงเป็นเสมือนไม้กระดกริมหน้าผาที่ผู้นั่งทั้งสองด้านมิอาจคาดการณ์ได้เลยว่าจะเสียสมดุลร่วงหล่นไปเมื่อใด

    ผู้ตรวจการซู และซูซื่ออวี้

    ผู้ตรวจการซูที่ว่ากันว่างานย่อมเป็นงาน เอาจริงเอาจังจนมิอาจหักงอ ซื่อตรงกับหน้าที่ เข้มงวดกับทุกอย่าง แม้กระทั่งความรู้สึกจนเป็นที่ลือกันหนาหูว่า ผู้ตรวจการซูเป็นผู้ที่ไม่รู้จักความรัก เสมือนก้อนหินก้อนหนึ่ง กระทั่งฉู่หมิงอวิ่นเองก็คิดเช่นนั้น แต่ซูซื่ออวี้เล่า เป็นเช่นนั้นจริงหรือ ?

    แต่ไหนแต่ไรมา ผู้คนนั้นรับรู้เพียงว่าเขาเป็นคนที่มีเพียงระนาบเดียวที่แสนดาษดื่น ยิ่งเมื่ออุปนิสัยของซูซื่ออวี้ที่ปฏิบัติกับใครก็ไม่มีข้อแตกต่าง ทั้งยังห่างเหิน แล้วจะมีกี่คนกันที่สามารถสัมผัสถึงความเว้าแหว่งหรือมากเกินไปในจิตใจของซูซื่ออวี้ได้ จิตใจดวงนั้นที่ตัวตนที่โดนปกปิดด้วยข้อจำกัดทางตระกูลและอุดมการณ์อาศัยอยู่ ตัวตนที่เพียงอยากจะเฝ้ามอง และห่วงคะนึงอยู่ที่ไกล ๆ

    ความรัก และอุดมการณ์

    ทางด้านฉู่หมิงอวิ่นกลับประสบกับไข้ใจที่ไม่อาจแก้ไขได้มาก่อนนานแล้ว ว่ากันว่าเขาเข้าหาซูซื่ออวี้ก่อนด้วยหมายจะปลิดอำนาจของอีกฝ่ายทิ้ง ไฉนการเดินทางพบหน้าอยู่เรื่อยไปกลับทำให้ความรู้สึกดี ๆ นั้นก่อร่างสร้างตัวจนทำให้ฉู่หมิงอวิ่นก็ประสบกับกำแพงใหญ่ที่มีชื่อว่า 'อุดมการณ์' มิต่างกับซูซื่ออวี้เสียได้ กลายเป็นความลังเลครั้งใหญ่ที่ฉุดรั้งฉู่หมิงอวิ่นอยู่ร่ำไป

    เนื่องจากทั้งสองมิได้มีฐานะเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาที่หากใคร่จะรักใครก็มิอาจส่งผลเสียต่อบ้านเมือง แต่ทั้งสองคือขุนนางยศสูงผู้เป็นดั่งเสาเข็มสองขั้วสำคัญของราชสำนัก หากเป็นเช่นนี้ ยังมีใครที่ปรารถนาจะไขว่คว้าในความรักจนทอดทิ้งอุดมการณ์แสนสำคัญของตนหรือไม่

    สุดท้ายแล้ว ความรักแสนหวานเคลือบขมที่ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกันนี้จะดำเนินไปในทิศทางใด หากแม้ทั้งคู่จะรู้สึกตรงกัน แต่แล้วอย่างไรในเมื่อต่างคนต่างไม่ได้หมายปองในสิ่งเดียวกันแต่เริ่มแล้ว สภาพความรักแสนระหกระเหินนี้จึงอาจบรรยายได้ดั่งข้อความที่ว่า

    "...ทว่าเจ้าเป็นฝันที่ไม่อาจร้องขอ เพียงได้อาวรณ์ความสุขในห้วงฝันล้วนเพียงพอแล้ว"


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in