เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SOMEHOW A แคะED นิยายน้องกี้
รีวิว #ผมเก็บคุณชายตกอับได้หนึ่งคนครับ 1-2
  • ว่าด้วยเรื่องราวของหนึ่งดาวทะยานฟ้า หนึ่งคนร่วงหล่น และหลากหลายความรู้สึกที่โผบิน

    ชื่อเรื่อง ผมเก็บคุณชายตกอับได้หนึ่งคนครับ / You're My Wonderwall / 七芒星
    นักเขียน มู่กวาหวง / Mu Gua Huang / 木瓜黄
    ผู้แปล ปราณหยก
    สำนักพิมพ์ EverY
    ปีที่พิมพ์ 2022
    จำนวนเล่ม 2 เล่มจบ

    content warning
    ableist language, slightly child neglect

    ** มีสปอยเล็กน้อย

    ผมเก็บคุณชายตกอับได้หนึ่งคนครับ เป็นนิยายธีม slice of life น้ำดีประจำปี 2022 ที่อาจเล็ดลอดสายตาผู้คนไปเสียเยอะ หลาย ๆ คนได้ยินชื่อคงอดคิดถึงซีรีส์เกาหลี หรือนิยายรักวุ่น ๆ ของแจ่มใสในยุคก่อนหน้านี้ไม่ได้ ประจวบกับหากพลิกเล่มหนังสือไปจะเจอกับคำเรื่องราวกวน ๆ ของสองชายหนุ่มนาม ลู่เหยียน นักร้องนำวงร็อคผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และเซียวหัง คุณชายปากจัดที่เนรเทศตัวเองออกมาคลุกฝุ่นคลุกดิน ที่ประจันหน้ากันในสถานการณ์เข้าใจผิดแต่ดันต้องมาอาศัยร่วมชายคาซะนี่ ! ต้องบอกว่าคำโปรยนี้ทำหน้าที่ได้ไม่เลวเลยทีเดียว ถ่ายทอดออกมาได้เหมาะสมกับสไตล์นิยายรอมคอมที่มีเสียง ตึ่งโป๊ะ ส่งผ่านออกมาทั้งเรื่องจริง ๆ

    นิยายอบอุ่นหัวใจเรื่องนี้จะพาผู้อ่านก้าวเดินไปตามเส้นทางระหกระเหิกที่แสนสุข กระดากอาย ขำร่า และเป็นจริงจนน่าตกใจไปพร้อม ๆ กับสองตัวละครหลักอย่างนุ่มนวลตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมเพรียงไปกับบทบาทของวงร็อคใต้ดินอย่าง VENT ของลู่เหยียน และวงพี่วงน้องอีกมากมาย รวมถึงตัวละครสมทบอย่างผู้ร่วมอาศัยในหอพักตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ที่มาช่วยเสริมเรื่องราวให้น่าสนใจขึ้นด้วยเช่นกัน

    ชีวิตที่ฉายผ่านองค์ประกอบรอบข้างอย่างแนบเนียน

    เหตุการณ์หลักในนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เขตซย่าเฉิง เขตเมืองของกลุ่มคนระดับล่างที่เอาชีวิตรอดวัน ๆ ไปอย่างปากกัดตีนถีบ ภาพความแร้นแค้นนี้ได้หยิบยืมการมีอยู่ของโซนเจ็ด โดยเฉพาะอาคารหมายเลขหก ยูนิตที่สามที่โดนบริษัทรื้อถอนมาตามรังควานจนสภาพการเป็นอยู่ของคนอาศัยเหลวแหลกไม่มีชิ้นดี และหลุมหลบภัยที่เป็นสถานที่แสดงออกถึงตัวตนของกลุ่มผู้รักในเพลงร็อค ทั้งไม่เข้าร่องเข้ารอยกับสภาพสังคมตามขนบ มาขับเน้นอัตลักษณ์ของคนโซนเจ็ด และความมุมานะบากบั่นทว่ามืดบอดท่ามกลางแผ่นฟ้าครามที่กว้างใหญ่เช่นนี้ แต่ใช่ว่าผืนฟ้าจะต้องโดนฉาบทับด้วยสีดำไปตลอดเสียหน่อย ทุกคนต่างไม่ยอมแพ้ที่จะดิ้นรน และประดับประดาสีดำด้วยความสว่างแห่งความหวังวันแล้ววันเล่า นิยายเรื่องนี้ได้ทำหน้าที่เสมือนกล้องโทรทรรศน์ที่เฝ้ามองไปยังดวงดาวเจ็ดแฉกดวงหนึ่งที่สุกสกาวอย่างไม่ย่อท้อภายใต้ความมืดมิดนั้น และดวงดาวที่แสงไม่เคยมอดดับ ที่ว่าก็คือลู่เหยียน ส่วนเซียวหัง คือคนที่เฝ้ามองคนนั้นจนสายตาพร่างพราวไปกับความเจิดจรัสอันไม่สิ้นสุดนั่นเอง

    เมื่อมีแสงสว่าง คนจึงมีความหวัง และเมื่อคนมีความหวัง คนก็จะผลักดันให้เกิดแสงสว่างต่อ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ ลู่เหยียนมอบความเชื่อใจที่หนักแน่นให้กับเซียวหัง และเซียวหังก็ส่งความมั่นใจแสนล้ำค่าให้ลู่เหยียนต่อเช่นเดียวกัน

    เส้นทางของทั้งสองจะล้มลุกคลุกคลานต่อไป หรือแข็งแกร่งจนมีอำนาจพลิกกลับชะตาชีวิตนั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของผู้อ่านที่จะมารับรู้ด้วยตัวเองแล้ว

    ดวงดาวเจ็ดแฉกที่แสนโชติช่วงนี้ยังคงสามารถเปล่งประกายชัชวาลสู่สายตาคนไทยได้มากยิ่งกว่านี้ สำหรับบางคน นิยายเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องราวที่คล้อยให้ผู้อ่านพยักหน้าตาม เป็นมุมมองใหม่ที่ผลักดันชีวิต เป็นการนั่งข้าง ๆ แล้วบอกว่าไม่เป็นไร หรือบ้างอาจเป็นยูโทเปียแสนหวานที่ฉุดดึงผู้อ่านออกจากสังคมที่แสนเหนื่อยล้า อย่างไรก็ตาม ผู้อ่านย่อมรับรู้เนื้อหาในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป หนึ่งคนอ่าน ย่อมสร้างอีกหนึ่งแขนงใหม่ของการรับรู้ เช่นนั้นแล้ว ใครที่สนใจก็มาร่วมเฝ้ามองว่าลู่เหยียนกับเซียวหังจะสามารถ "VENT" ได้ดั่งชื่อวงของลู่เหยียนได้หรือไม่กันค่ะ <3 เย้



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in