เราเจอกระท่อมที่คาดว่าน่าจะเป็นบ้านของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่
หรืออาจจะเรียกว่าพ่อมดผู้ล่วงลับก็ได้
ให้ตายเถอะ เขาน่าจะเขียนใบมรณบัตรแจ้งไว้สักหน่อยนะ
"เจ้าควรไปพัก"
อัศวินพูดกับผม แต่ผมไม่ตอบ
ผมเหนื่อยเกินกว่าจะตอบ
ผมเหนื่อยเกินกว่าที่จะมีชีวิตอยู่...
พระอาทิตย์ลาลับไปนานแล้ว เช่นเดียวกับความหวังของผม
ผมจะมีความหวังได้อย่างไรเมื่อไร้สิ่งใดให้ยึดมั่น
'อยู่อย่างกล้าหาญและไม่ยอมแพ้ต่ออะไรทั้งสิ้น' น่ะเหรอ?
เรื่องขี้หมา
"เสียใจกับเจ้าด้วยนะ" อัศวินพูด "เดี๋ยวเราคงหาวิธีล้างคำสาปได้สักวัน" เขาพยายามให้กำลังใจ แต่นั่นยิ่งทำให้ผมหดหู่
ผมเข้าใจว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดูถูกหรือล้อเลียน เพียงแต่เขาเป็นแบบนั้น
เขาเชื่อแบบนั้น
แต่ผมไม่เชื่ออะไรอีกแล้ว
ภายในกระท่อมมืดสนิท
เราลืมที่จะจุดเทียน มีเพียงแสงจันทร์กระจ่างลอยผ่านระแนงไม้เข้ามาเท่านั้น
สายลมคืนนี้ช่างเย็นยะเยือก
หน้าต่างลั่นเอี๊ยดอ๊าด ราวกับเสียงโหยหวนของวิญญาณเร่รอน
"ฉันรักนายมาตลอด" ผมพูด ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเขากำลังทำหน้าตาแบบไหน
"เจ้าติดอยู่ใต้คำสาป..."
ผมมองเขาผ่านม่านขาวของผ้าขี้ริวที่ตากอยู่บนขื่อ
"อย่ามาดูถูกกันนะ" เสียงของผมแข็งกร้าว เช่นเดียวกับเมดูซ่าที่กำลังแช่แข็งเหยื่อ
"ฉันไม่ได้ถูกสาป ความรักของฉันไม่ใช่คำสาป"
ผมพยายามควบคุมไม่ให้เสียงสั่น
"ฉันรักนายแม้กระทั่งตอนที่ฉันลืมมันไปแล้ว..."
ลมพัดแรงขึ้นราวกับจะช่วยปลอบประโลม
มันกระแทกอย่างรุนแรง กรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด
ผ้าสีขาวที่กั้นระหว่างเราปลิวไสวพร้อมกับเมฆที่เคลื่อนผ่าน
ผมเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน
"นายจะปฏิเสธมันยังไงก็ได้...แต่อย่ามาดูถูกความรักของฉัน"
ผมเดินออกจากตรงนั้น
และหวังว่าเขาคงจะไม่เห็นน้ำตาที่แอบไหล
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in