เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
u , always ( Johnjae )cloudnine
I met you.
  •               Portlandder news

                02 oct. 2018

                การตายปริศนาของมิสไมเลอร์บรรณารักษ์ห้องสมุดของมหาลัยชื่อดังในพอร์ตแลนด์ อ่านต่อหน้า 19

     

    ผ่านมาราวสามอาทิตย์ภาพของผู้ชายในชุดโค้ทสีดำยาวยังคงไม่เลือนหาย ทุกครั้งที่มาห้องสมุดเขามักจะนึกถึงผู้ชายคนนั้นตลอด บรรยากาศรอบตัวชายคนนั้นแปลก เด็กหนุ่มไม่เคยพบชายที่มีบรรยากาศทั้งเศร้าหมองเยือกเย็น และนิ่งเงียบได้เท่าชายคนนี้  อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเจอหน้าครั้งต่อไปเขาคงจะสังเกตรายละเอียดของอีกฝ่ายมากกว่านี้

    แต่แจฮยอนก็ไม่เจอเคยผู้ชายคนนั้นในห้องสมุดอีกเลย

    เช่นเดียวกับที่เขาจะไม่มีวันได้เจอมิสไมเลอร์บรรณารักษ์สุดเฮี้ยบอีก

    เมื่อราวอาทิตย์ที่แล้วเด็กหนุ่มถูกเรียกไปสอบปากคำ เพราะวันนั้นเขาเป็นคนเดียวที่อยู่ในห้องสมุดนั่นจนเกือบจะถึงเวลาปิดที่โรงพัก แจฮยอนยังได้พบกับเด็กหนุ่มท่าทางเซ่อซ่าคนนั้นเลยคาดว่าคงถูกเรียกมาสอบปากคำเช่นเดียวกัน

    นายตำรวจผู้สอบปากคำเขาถามไปเรื่อยเปื่อย ดวงตาสีมืดของเขาจ้องมองเข้ามาในตาของเขาอย่างต้องการหาความจริง

    แจฮยอนตอบไปตามตรงว่าเขาไปอ่านหนังสือและอยู่จนเกือบจะถึงเวลาปิด เขาพบชายสองคนในห้องสมุดตอนสี่โมงในตอนที่เขาได้ยินเสียงแมวและพยายามค้นหามัน

    เขาบอกลักษณะของชายทั้งสองคนนั้นไป  คำให้การของเขาตรงกันกับเด็กหนุ่มอีกคน มีเพียงเรื่องเดียวที่เขาบอกว่าเขาพบชายหนุ่มในโค้ทสีดำที่เดียวกับที่เขาพบเด็กหนุ่มคนนั้น

    “คุณแน่ใจหรอว่าพบผู้ชายอีกคนที่นั่นด้วย”

    “ครับ” แจฮยอนตอบรับ “พร้อมๆกับเด็กคนนั้น พวกเขาอยู่ในล็อคหนังสือที่เดียวกัน แบบ ผู้ชายคนนั้นอยู่ใกล้ผมมากกว่าส่วนเด็กคนนั้นอยู่ไกลออกไปราวๆห้าสิบเมตรครับ”

    “คุณเจย์ คำให้การของคุณออกมาตรงกับแซม เด็กคนนั้นที่คุณเจอน่ะ” นายตำรวจเว้นวรรคแจฮยอนมองเห็นความสงสัยระคนหวาดกลัวจากนัยน์ตาเขา

    “แต่แซมบอกแต่เขามองเห็นคุณตอนที่คุณเรียกเขาเขาไม่ได้ให้การถึงชายอีกคนด้วยซ้ำ”

    “ผมจะลองไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูอีกครั้งขออย่าให้เป็นอย่างที่ผมคิดเลย”


     

           ผ่านมาแล้วราวสามอาทิตย์ การตายของมิสไมเลอร์ทำให้ห้องสมุดเงียบเหงาลงกว่าเคย ผู้คนต่างพากันหวาดกลัวในเรื่องแปลกๆจนพาลไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้ มันจะเป็นการตายที่ปกติถ้ามันไม่ได้ดันไปตรงกับวันที่พวกชาวเมืองเชื่อว่าเป็นวันที่ซาตานจะขึ้นมาจากขุมนรกไหนสักขุม  ตามตำนานเมือง

           เด็กหนุ่มไม่แปลกใจนัก ในช่วงใกล้เทศกาลฮัลโลวีนอย่างนี้คนก็เริ่มพูดกันไปต่างๆนานาว่าในห้องสมุดแห่งนี้มีตำนาน บ้างก็ว่าที่ตรงนี้เคยใช้เป็นที่อันเชิญสิ่งประหลาดสักอย่างที่แน่นอนว่าไม่ได้รับใช้พระเจ้า

            บางทีเขาอาจจะเป็นคนเดียวก็ได้ที่ไม่ได้สนใจตำนานงี่เง่านั่น

                      มันแบบ เฮ้ คุณ นี่ 2018

                      ที่จริงก็ยังมีคนมาแวะเวียนใช้บริการห้องสมุดอยู่บ้างแต่พอตกเย็น ไม่เกินสามโมง พวกเขาก็จะรีบเก็บของออกไป

                      “พระเจ้าฉันยังจะต้องเห็นของอุจาดตาพรรณนั้นไปอีกถึงเมื่อไหร่กัน”

                      มิสบรรณารักษณ์คนใหม่บ่นประจำเรื่องที่คนชอบพกของแปลกๆเข้ามาในห้องสมุดอย่างเครื่องรางที่ทำจากดวงตาของกบนั่นประไร – ของขายดีของร้านมิสตี้และของเหนือธรรมชาติ (Misty and Supernatural stuff) ที่กำลังดังช่วงนี้แหล่ะ

                      เด็กหนุ่มได้แต่เห็นด้วยอยู่ในใจ

                      ของอย่างนั้นก็อุจาดตาจริงๆนั่นแหล่ะโดยเฉพาะลิ้นกบน่ะนะ

     


                      แจฮยอนชื่นชมพ่อกับแม่เรื่องการมองหาที่อยู่อาศัย เมืองเล็กๆแห่งนี้มีเสน่ห์และความเป็นตัวเองหลายอย่างความเชื่อประหลาดกับเทศกาลประหลาดที่เขาว่ามันก็มีสีสันดี ยามฤดูใบไม้ร่วงยิ่งทำให้เมืองที่แสนเงียบ(ในสายตาคนนอก) นี้ดูลึกลับมากขึ้นอีกเท่าตัว

    เขามีบ้านหลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักเป็นที่ที่ค่อนข้างจะเงียบสงบ มีเพื่อนบ้านไม่กี่คนที่อยู่ละแวกนี้คงเพราะมันไม่มีรถสาธารณะผ่าน หากจะอยู่ก็ต้องเป็นคนที่มีรถหรือยานพาหนะอื่น

                      แจฮยอนมีจักรยานเป็นเพื่อนคู่ใจ

                      จักรยานคุณปู่สุดคลาสสิคไม่ได้ดูเด่นเพราะสีสันฉูดฉาดแต่เป็นเพราะความคลาสสิคของมันต่างหากที่เขาชอบ

                      ทางกลับบ้านปกติต้องเงียบเหงามีเพียงรถยนต์สัญจรผ่าน แต่วันนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงหวีดร้องของรถไซเรนและกลุ่มผู้คนที่ล้อมรอบเส้นรั้วสีเหลืองสลับดำ ด้านในเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ห้อยตราบัตรต่างๆ เด็กหนุ่มจอดจักรยานไว้ไม่ห่างมากนัก ขณะที่เดินเข้าไปใกล้กลุ่มผู้คงที่รายล้อมเส้นแบ่งเขตสีเหลือง


                      “เอ่อเจ้าหน้าที่ฮอบส์คะ การเสียชีวิตในครั้งนี้เป็นไปได้ไหมว่าเป็นการฆาตกรรมไม่ใช่อุบัติเหตุ”

                    “ผมทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้แน่ชัดว่าเป็นการฆาตกรรมนะครับ เราคงต้องตรวจสอบหลักฐานอื่นต่อไป


                     เด็กหนุ่มละสายตาออกจากนักข่าวสาวผมบลอนด์กับนายตำรวจหนุ่ม กวาดสายตาไปทั่วก่อนจะไปหยุดลงที่ใครบางคนที่ทำให้เขาตัวแข็งทื้อ

                      ร่างสูงใหญ่นั้นยังสวมโค้ทสีดำสนิทเช่นเคยครั้งนี้เขาพิงร่างกายของตัวเองไปกับขอบเสาสีขาวต้นใหญ่ มือข้างหนึ่งปล่อยลงข้างลำตัวอีกข้างล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อข้างเอว

                      ใบหน้าของเขาค่อนข้างเรียวจมูกโด่ง ริมฝีปากรูปกระจับ ทั้งหมดทั้งมวลนั่นล้วนทำให้ชายคนนั้นดูดียิ่งกว่าชายคนไหนที่แจฮยอนเคยพบเจอหากแต่ท่าทางของเจ้าตัวดูเบื่อหน่าย ชายคนนั้นจ้องไปที่กลุ่มคนเงียบๆ อยู่นานไม่ได้ขยับตัวไปไหนราวกับรออะไรบางอย่าง

                      แจฮยอนขยับไม่ออก

                      เด็กหนุ่มทำเพียงสำรวจชายที่ยืนห่างออกไปเงียบๆ

                      ผมสีดำสนิทของชายหนุ่มพลิ้วไหวเมื่อถูกลมพัดล้อมรอบกรอบใบหน้าที่นิ่งเงียบนั่น กลิ่นอายความแปลกแยกแผ่ออกมาล้อมรอบตัวของเขาด้วยเหตุอะไรไม่รู้เด็กหนุ่มรู้สึกว่าชายที่กำลังพิงร่างกายกับเสาอยู่นั้นเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้เป็นสิ่งที่แปลกแยก ไม่เข้าพวกกับทั้งเขาเองและกลุ่มคนที่มุงดูการเคลื่อนย้ายร่างกายที่เสียหายของผู้เสียชีวิต

                      แต่ก็บอกไม่ได้ว่าทำไมชายหนุ่มตรงหน้าถึงไม่เข้าพวก

                      ดวงตาสีแอมเบอร์กับจังหวะขยับใบหน้าช้าๆนั่น - บ้าเอ้ย อย่าหันมาเชียวนะ เด็กหนุ่มตะโกนก้องในใจ กำลังคิดว่าจะหันหน้าหนีดีหรือไม่ในเมื่อชายตรงหน้าอาจจะแค่ขยับตัวเปลี่ยนท่า และเขาเองก็ยังอยากมองท่าทางนั้นต่อ

                      แต่พระเจ้าไม่เข้าข้างเขาดวงตาสีแอมเบอร์นั่นกวาดมองไปรอบๆ มันมาหยุดที่เขาแวบหนึ่ง ทำให้เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะก่อนจะเคลื่อนไปที่อื่นราวกับไม่พบสิ่งผิดปกติ ก่อนชายคนนั้นกลับไปอยู่ในท่าทางอย่างเดิม

                      แจฮยอนถอนลมหายใจออก

                      โอเคตอนนี้เขาขยับขาไม่ออกแล้ว

                                 

                

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in