“Now when he heard this, he said, 
“It is not those who are well who need a doctor, 
but those who are sick.”
‭‭Matthew‬ ‭9:12‬ ‭CSB‬‬

---

เราไม่ได้รู้สึกถึงความสบายดีในชีวิตของเราแต่ละวันเลย
ความรู้สึกพวกนี้มันก่อให้เราเกิดความ suffering ในชีวิตอย่างมาก

เราในฐานะลูกพระเจ้า ทำไมถึงยังคงเจ็บป่วย?
ทำไมถึงยังเศร้า ทุกข์ ทรมานกับการมีชีวิต
ทั้งที่ไม่ควรจะเป็น

เมื่อนั่งลง สำรวจชีวิตตัวเอง
มีอะไรที่เราไม่ได้นำออกมาวางต่อหน้าพระเจ้า?
ไม่ได้นำออกมาอธิษฐาน



12.12.2020
มาระโก1:29–34
บทเฝ้าเดี่ยววันนี้พูดเรื่อง "พระเยซูทรงรักษาโรค"
เนื้อหาพูดถึงการรักษาโรคแม่ยายของซีโมน พระองค์วางมือแตะต้องรักษาเธอ และหลังจากนั้นก็มีคนมาคนเจ็บป่วยมาให้พระองค์รักษา

สำหรับเราเอง เรารู้ดีว่า พระเยซูไม่ได้รักษาแค่เพียงโรคทางกายเท่านั้น
แต่ทรงรักษาโรคทางใจด้วย และเราต้องการอย่างมาก เพื่อให้พระองค์แตะต้องรักษาใจของเรา


ถ้าย้อนกลับไปอ่านสิ่งที่เขียนเอาไว้
เรามีแต่ก้อนมวลแห่งความเศร้า
ไม่รู้ว่าชีวิตจะเศร้าอะไรหนักหนา
ทั้งที่จุดที่ยืนอยู่ตอนนี้มีแต่สิ่งที่ดี คนที่ดี เรื่องราวที่ดี ให้กอดเก็บอยู่เต็มไปหมด

แต่ตัวเราเองกลับคว้าเอาแต่สิ่งที่เป็นขยะ ; 
บังคับตัวเองให้จมอยู่กับความมืดมน กล่าวโทษ สงสารตัวเอง และวางตัวเองให้อยู่ในจุดที่ได้รับความเห็นใจตลอดเวลา ทั้งๆที่เกลียดการได้รับความสงสาร แต่กลับพาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น ! — ทั้งๆ ที่อยากออกมา แต่ก็เหมือนออกมาไม่ได้กลายเป็นปัญหาที่พอกพูน เป็นเชื้อเพลิง เป็นวัตถุดิบให้เชื้อแห่งความเศร้าขึ้นฟูใหญ่โตเกินกว่าความเป็นจริง


ภาวะอารมณ์ที่ไม่ได้รับการระงับ
เป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ทำให้ทุกเรื่องเกินจริง

การมองเห็นอารมณ์
การรับรู้อารมณ์ได้เป็นเรื่องดี
แต่ ต้องไม่ให้อารมณ์นำหน้า

สำหรับเราแล้ว พฤติกรรมแบบนี้มันชวนป่วย
เป็นนิสัยป่วยๆ ที่ทำร้ายตัวเองซ้ำๆ
ไม่ต่างอะไรกับการเหยาะยาพิษลงในน้ำซุป
เจือจาง ไม่ตายทันที แต่ก็เป็นพิษและเลยคร่าชีวิตลงไปทีละน้อย 

พิษที่แอบแฝงมากับความอบอุ่นจากถ้วยซุป

---

jesus spoke to them again
" i'm the light of the world. Anyone who follows me'll never walk in the darkness but'll have the light of life " 
John 8:12



หลังจากที่วิ่งวนอยู่ในกระแสความมืดมนของชีวิตมาหลายวัน ทำให้ชีวิตตกอยู่มิติของอำนาจมืด ; กายอยู่ในโลกแห่งเนื้อหนัง แต่จิตวิญญาณกำลังหลงไปและไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน


ถ้อยคำนี้ ก็มาเตือนสติว่า
' เฮ้ยยยย ถ้าแกเป็นลูกพระเจ้าเป็นของพระเยซู แกไม่ใช่คนของความมืดนะ ! เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? '

อืมใช่ นี่เรากำลังโดนหลอก
ถ้าไม่ใช่ซานที่กำลังหลอก ก็เป็นเราเองนี่แหละ ที่หลอกตัวเอง !


ว่าคนอย่างเราไม่เหมาะกับความสว่าง
ไม่สมควรได้รับความรัก...


บทเฝ้าเดี่ยววันนี้ ชวนให้ตอบสนองว่า
จะพาใครมาให้พระเยซูรักษา...
คำตอบก็คงเป็น 'ตัวเอง'
เพราะเมื่อฉันยอมรับว่าตัวเองกำลังเจ็บป่วย กำลังเจ็บปวด กำลังแบกชีวิตอย่างหนักอึ้งฉันขอมอบทุกอย่าง ไว้ที่พระเยซู ผู้พร้อมจะแบกรับทั้งแทนฉันผู้ที่จะทำให้มีความหวัง ในชีวิตต่อไปได้ ในโลกใบนี้ ในเวลาที่ยังเหลือ 
ฉันอยากมีชีวิตที่แข็งแรง เป็นอยู่ในความจริง
ไม่ใช่ความคิดหรืออารมณ์ 
ขอให้ตัวเราเองและคนที่เรารักมีชีวิต จิตใจ และวิญญาณ ที่มีสุขภาพดี — อาเมน
ฉันขออธิษฐานทูลขอสิ่งเหล่านี้จากพระเยซู ไม่ใช่พระอื่น
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าทรงกำเนิดขึ้น มีชีวิตอยู่ ตายเพื่อรับบาป ถูกฝังไปแล้วสามวัน และฟื้นขึ้น เรื่องนี้ทำให้ฉันตระหนักเสมอว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเดียวและยิ่งใหญ่เพียงใด ที่มีอำนาจเหนือความตายและเพราะพระองค์ทรงฟื้นขึ้น ทรงมีชีวิตอยู่และฉันอธิษฐานขอให้หายดี ขอต่อพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์