ตอนแรกที่เรามีอาการคือประจำเดือนมากระปริบกะปรอยเป็นมานานมากแล้วอ่ะ ซักปีนึงได้ ด้วยความรำคาญเลยไปหาหมอนารีเวชที่รามา ตอนจองคิวเราทำบัตรผู้ป่วยใหม่แล้วก็จองคิวในแอพของรามาเลยโดยจองตรวจนอกเวลาเพราะขี้เกียจลา เราก็เลือกวันที่ได้เลยว่าอยากตรวจวันไหน หลังจากจองประมาณ3 วันก็ได้คิวละ โดยเราต้องเข้าไปเช็คในแอพของรามาเรื่อยๆเพราะมันชอบออกจากระบบบ่อย 

ครั้งแรกที่พบหมอที่ผู้ป่วยนอกนารีเวช หมอก็ซักประวัติว่าเป็นมานานหรือยัง นู่นนี่นั่น แต่เราไม่เคยจดบันทึกเลยว่าประจำเดือนมาวันไหนบ้างอ่ะ หมอเลยให้กลับไปจดบันทึกมาก่อน 3 เดือนว่าประจำเดือนมาวันไหน ใช้ผ้าอนามัยกี่แผ่น  แล้วหมอก็ให้เลือกว่าจะทำอัลตราซาวน์ทางหน้าท้องหรืออัลตราซาวน์ทางก้นถ้าทำทางก้นหมอทำให้วันนี้ได้เลย แต่เราเลยเลือกทำทางหน้าท้อง ? หมอก็นัดวันมาทำเป็นอีกวันซึ่งนานมากกก กว่าจะได้คิว รู้สึกเป็นเดือนเลยแหละ พอได้ผลก็นัดพบหมออีก พอผลออกมาก็พบว่าไม่มีอะไรระหว่างนั้นหมอก็ดูที่เราจดประจำเดือนมาด้วย หมอก็บอกว่าเรายังอายุน้อยอยู่เลย ไม่น่าจะใช่มะเร็ง มันน่าจะมีอะไรผิดปกติแหละ น่าจะเป็นติ่งเนื้อแต่ไม่ร้ายแรง ที่จริงหมอก็อยากให้เราอัลตราซาวด์ทางก้นแหละ จะได้แน่ใจ แต่เราเขิลล หมอเลยบอกว่าอ่ะ หมอลองให้ฮอร์โมนไปกินนะ เผื่อหาย แต่หมอว่ามันน่าจะไม่หายหรอก 

เราเลยนัดคิวผ่าตัดส่องกล้อง หมอก็บอกว่าราคาประมาณ 3-4 หมื่นนะ เราเลยย้ายไปใช้สิทธิประกันสังคม หมอก็นัดตรวจเลือดแล้วก็เอ็กซเรย์ปอดก่อนผ่าตัด แต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวเลยนัดหมอผ่าตัดอีก 3 เดือนข้างหน้า แล้วหมอแผนกผู้ป่วยนอกนรีเวชก็จะส่งเคสเราไปให้ทีมผ่าตัด ของเราที่นัดหมอคืออีกนานนนเลยกว่าจะผ่าเค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวค่อยโทรมานัดวันเราตอนใกล้ๆจะผ่าแล้วกันนะ เราก็ โอเคค่า

แล้วหมอก็นัดมาอีกที อันนี้ไม่แน่ใจว่าหมอนัดมาติดตามผลอะไร แต่ได้ตรวจกับหมออีกคน หมอเค้าก็บอกว่าอัลตราซาวน์ทางก้นดีกว่า จะได้แน่ใจไปเลย แล้วเราก็ทำใจอยู่นานมากกว่าจะตอบตกลง แต่พอทำแล้วก็พบว่ามีติ่งเนื้ออยู่จริงๆด้วย

แล้วหมอก็นัดเราครั้งนึงเป็น telemed คือตรวจทางไกลโดยหมอจะโทรมา แต่ตอนนั้นเราเทหมอ ? ไม่ทันรับสายอ่ะ เราเลยโทรกลับไปที่แผนก แล้วก็เล่าๆๆว่าอย่างนี้ๆนะ พี่พยาบาลก็นัดให้ใหม่ แล้วเราก็บอกไปว่ายังไม่ได้เลือกวันผ่าตัดด้วย เค้าก็ประสานงานกับแผนกผ่าตัดให้ คุณหมอก็โทรมานัดวัน หลังจากนั้นอีกวัน พยาบาลก็โทรมาอธิบายรายละเอียด การเตรียมตัว การตรวจโควิด การกินยา ต้องมาเซ็นแล้วก็นับเอกสาร ใบนัดต่างๆ 

ตอนคุยกับคุณหมออ่ะ คือบางทีเราเดินทางอยู่ก็ไม่ทันรับ พอเราโทรกลับ หมอก็รับสายเราด้วย ประทับใจมาก หลังจากนั้นพอใกล้ๆวันผ่า หมอก็โทรมาขอเลื่อนวันเพราะว่าห้องไม่ว่าง เราก็โอเคๆไม่ได้อะไรเพราะของเรามันก็ไม่ได้ร้ายแรงอ่ะเนอะ แล้วพยาบาลก็โทรมารีเช็ครายละเอียดต่างๆอีกที

Day 2 - สองวันก่อนผ่าตัดเราก็ไปตรวจโควิด ระบบที่นี่ดีมากเลยนะ ทุกอย่างเป็นระบบแล้วก็รอคิวไม่ได้นานมากด้วย ทั้งตรวจเลือด เอ็กซเรย์ ตรวจโควิด 

Day 1 - หนึ่งวันก่อนผ่าตัวคุณหมอวิสัญญีก็โทรมาหาเรา ว่าวันพรุ่งนี้จะมีวางยาสลบด้วยนะ แล้วก็ถามรายละเอียดอาการที่เราเป็นว่าเรามีอาการยังไง เป็นมาเท่าไหร่แล้ว ก็อธิบายเค้าไป

คืนก่อนวันผ่าเราก็อมยาที่รามาส่งมาให้ เป็นยาขยายปากมดลูก เราทานตอนก่อนนอนซึ่งมันมีผลข้างเคียงคือหลังจากทานเสร็จเราหนาวสั่นมากเลย แล้วก็มีเลือดออกทางช่องคลอดตอนเช้าวันผ่าด้วย ซึ่งเราพึ่งรู้ว่ามันมีผลข้างเคียงด้วย อ่าา อันนี้ไม่มีใครบอกเลย 

D - Day พอเราไปถึงห้องผ่าตัดเค้าก็ให้เราฝากของมีค่าที่ญาติ เปลี่ยนรองเท้าเสร็จพี่เจ้าหน้าที่ก็ให้เราเปลี่ยนแมส แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า เค้าให้เราเข้าไปรอที่ห้องเตรียมผ่าตัด แล้วก็มีพยาบาล มีคุณหมอทีมผ่าตัด คุณหมอทีมวิสัญญีแวะเวียนเข้ามาถาม เข้ามาติดตามรายระเอียดของเรา รู้สึกดีมากเลย แบบอุ่นใจ พอคลายกังวลไปได้บ้าง พอใกล้ถึงเวลาคุณหมอวิสัญญีก็มาเปิดเส้น เพราะเราต้องให้ยานอนหลับผ่านทางเส้นเลือด

และแล้ววว ก็ถึงเวลา 9.00 น. เจ้าหน้าที่ก็เข็นเราเข้าห้องผ่าตัด ตอนนั้นกังวลมาก ก ไก่ล้านตัว ? พอเข้าไปถึงห้องผ่าตัดเราก็เปลี่ยนเตียง แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ล้อมหลายคนมาก สองคนช่วยเราถอดแขนเสื้อ ติดอุปกรณ์ที่แถวๆหน้าอก รัดที่วัดความดันที่แขนข้างหนึ่ง อีกข้างมีที่หนีบนิ้ว (ขออนุญาตเรียกแบบบ้านๆค่ะ ฮ่าๆ) แล้วก็ขออนุญาตรัดแขนเรากับเตียง เป็นท่ากางแขนอ่ะ เผื่อเราทำแขนตกระหว่างหลับ คุณหมอวิสัญญีก็เข้ามาแนะนำตัว แล้วก็เอาสายออกซิเจนมาใส่ตรงจมูก พอเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยปุ๊บ หมอก็บอกว่าหมอฉีดยานอนหลับเข้าเส้นแล้วนะ ถ้าง่วงก็หลับได้เลย พอพูดจบประโยคนี้ปุ๊บอีกสองวิหนังตาเราก็หย่อนปั๊บ เราเลยหลับไปเลย 

หลังจากนั้นก็ตื่นมาในอีกประมาณ 1.30 ชม.ให้หลัง เราอยู่ในห้องคล้ายๆห้องที่รอก่อนผ่าตัด ซึ่งเป็นห้องรวม มีพยาบาลมาเรียก เรารู้สึกว่าหนังตาหนักมากก็พยักหน้าไปแบบมึนๆจำไม่ได้แล้วว่าเค้าบอกว่าอะไรบ้าง ฮ่าๆๆ ที่ประทับใจอีกอย่างคือหลังผ่าตัดจะมีพยาบาลประกบแต่ละเตียงเลย คอยฟอลโลว์เรา พอเราตื่นเค้าก็เอาน้ำมาให้เราทาน ถามว่าปวดท้องมั้ย ก็หายาแก้ปวดมาให้ หลังผ่าตัดมันจะมีอาการปวดท้องหน่วงๆเหมือนประจำเดือนมาก แต่ขอลงความเห็นว่า ปวดมากกว่าตอนประจำเดือนมาเยอะเลย 

แล้วนี่ก็ปวดท้องปัสสาวะมาก แต่สภาพตอนนั้นคือลุกไม่ไหวจริงๆ พยาบาลก็เอาถาดเหล็กมารองให้ แล้วก็เอาที่กั้นมาปิดให้เรียบร้อยเลย ผ่านไปซักพักนี่ก็เริ่มปวดปัสสาวะอีกแล้ววว ก็เลยบอกพยาบาล เค้าเลยตามให้ว่าญาติเรามาหรือยัง จะได้ให้เราเปลี่ยนชุดกลับได้เลย เค้าก็ถามว่าเดินไหวมั้ยคะ เอารถเข็นหรือเปล่า ซึ่งแน่นอนว่าเอา ฮ่าๆๆ คือถึงจะเดินไหวแต่ยังมึนมากๆอยู่เลย

ระหว่างที่เราผ่าตัดเสร็จแล้วแต่ยังหลับอยู่เค้าก็ให้ญาติไปติดต่อเรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องค่าใช้จ่ายนี่เค้าจะให้เรามัดจำไปก่อนส่วนหนึ่งก่อนผ่าตัด แล้วหลังผ่าก็ค่อยชำระส่วนที่เหลือ

สรุป การรักษาที่รามาครั้งนี้ถือว่าประทับใจมากๆ คุณหมอที่เราเจอตั้งแต่แรก คุณหมอทีมผ่าตัด พยาบาล ทุกคนพูดจาดี แนะนำดี ใจดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณทุกๆคนมากๆ แต่แอบติงนิดนึงตรงที่ไม่บอกผลข้างเคียงของยาขยายปากมดลูก ?

- THE END -

ปล. ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบ ฮ่าๆๆ