เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryFayathi Sorap
I'm vaccinated
  •      ฉันฉีดยา ตามระเบียบ เรียบร้อยแล้ว
         (ดัดแปลงจากกลอนของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ต้นฉบับคือ "ฉันอกหักตามระเบียบเรียบร้อยแล้ว..")


         เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานของเราได้รับการจัดสรรวัคซีนเข็มที่สามให้แก่บุคลากร เป็นแอสตร้าเซเนก้า(az)
         หลังจากที่พวกเราฉีดซิโนแวค(sv)กันไปคนละสองเข็มเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

         มีคำขู่พร้อมคำแนะนำหนาหูมากว่า azให้ผลข้างเคียงรุนแรงกว่าsvมาก พร้อมทั้งบอกว่า ยิ่งเด็ก ยิ่งแข็งแรง รับวัคซีนแล้วจะยิ่งป่วยหนัก น้องที่ฉีดวัคซีนแบบไขว้ เข็มสองเป็น az ก็บอกว่า หลังฉีด เธออาเจียนและไข้ขึ้น 
         โอเค ถูกเข็มฉีดยาจิ้มมาไม่รู้กี่รอบแล้ว แค่นี้ไม่ตายหรอก


         หนึ่งวันก่อนฉีด ยังทำงานปกติ ดื่มชาปกติ

         วันฉีด งดชา (ง่วง!) ทำงานครึ่งวัน กินยาแก้ไข้กับยาแก้แพ้อย่างละเม็ด(คราวที่แล้วโดนจับกินแก้แพ้เพราะมีประวัติแพ้ยา คราวนี้เลยกินไปก่อนซะเลย) จัดการข้าวเที่ยงแล้วจึงไปฉีดยา
         ....ไปซักประวัติ เจ้าหน้าที่บอกว่า งวดนี้เขาไม่อยากให้กินยาแก้แพ้เพราะมันกดอาการ (ไม่ทันแล้วค่ะ) จากนั้นก็ไปต่อคิวรอฉีดยา

         ณ วินาทีที่เข็มฉีดยาถูกจิ้มเข้ามาที่แขน
         'เอ คราวนี้ไม่เห็นเจ็บเลยแฮะ' จริงๆนะ เราว่าเข็มสองเจ็บกว่านี้อีก
         นั่งสังเกตอาการอีกครึ่งชั่วโมงแล้วกลับไปทำงาน


         นั่งทำงานไปจนเย็น
         "พี่ว่าพี่เริ่มตัวร้อนแล้วว่ะ" พี่สาวโต๊ะข้างๆเริ่มยกมือแตะหน้าผาก 

         ส่วนเรา 'ทำไมมันง่วงจังวะ' ได้แต่คิดในใจ แล้วส่ายหัว
         จริงๆเรารู้สึกเหมือนตัวเองตัวร้อนอยู่เหมือนกัน แต่ตอนที่ผลัดกันมาแตะตัวนั้นน่ะ พี่สาวบอกว่า "ตัวเธอไม่ร้อนนี่" ส่วนพี่เขาเริ่มตัวรุมๆละ
         "แสดงว่าพี่ยังเด็กอยู่ ส่วนหนูแก่แล้ว" ตอบไปแบบมึนๆ พี่แกก็เถียงว่า ไม่ใช่ม้างง

         ขับรถกลับถึงบ้าน ตกดึก...ปวดหัวมากก สุดท้ายซัดพาราฯ แล้วสลบ


         วันต่อมา
         ที่ทำงานเต็มไปด้วยเสียงโอดโอยโวยวายของผู้ที่เพิ่งถูกเข็มฉีดยาทิ่ม ไข้ขึ้นกันหลายคนเลย 
         "เอ้า ป่วยมั้ย" พี่สาวโต๊ะข้างๆหันมาถามเรา
         "ง่วง!!! และหนักหัว" 
         "เฮ่ย พบคนแก่ 1 อัตรา" พี่แซว

         พี่ชายตัวโย่งเดินเข้าห้องทำงานมา โดนถามคำถามเดียวกัน
         "ผมไม่เห็นเป็นอะไรเลย" ตอบหน้าตาเฉยมาก
         "เอ้า เจอคนแก่อีก 1 อัตรา"
         ...สรุปว่าทั้งชั้นมีคนแก่ทั้งสิ้นสามอัตรา...

         ถึงไข้จะไม่ขึ้น แต่วันนั้นทั้งวันทำงานเหมือนเพิ่งกินยาแก้แพ้(ชนิดที่กินแล้วง่วง)บวกมีใครนั่งบนหัว มันง่วงและหนักหัวมาก!! แต่คงจะไม่มีใครว่าใคร เพราะวันนั้นทุกคนที่ฉีดยาดูเหมือนจะมีอาการกันเกือบหมด
         วันสองวันนับแต่นั้นนั่นแหละ ทุกคนจึงเริ่มดีขึ้น
         ว่าแต่ ทำไมเราเพิ่งปวดแขนมากขึ้นหลังจากฉีดไปสองสามวันหว่า? (พี่สาวบอกว่า เธอความรู้สึกช้า) 

         แล้วเรากับพี่ชายร่างโย่งก็โดนแซวว่า
         "ภูมิ(คุ้มกัน)จะขึ้นมั้ยเนี่ย สองคนเนี้ยย"

         นั่นทำให้พี่ชายร่างโย่งแอบสงสัยขึ้นมาเบาๆว่า "นี่เขาฉีดแอสตร้าให้ผมจริงๆรึเปล่าเนี่ย??"



         หลังจากฉีดมาสามเข็ม เราว่า การฉีดวัคซีนไม่น่ากลัว (เว้นแต่คุณกลัวเข็ม)

         วัคซีนโควิดแต่ละตัวก็ไม่น่ากลัว (เว้นแต่คุณแพ้วัคซีน) 

         ซิโนแวคไม่น่ากลัว ฉีดแล้วแค่ง่วงกับหิวขนม (พี่บอกว่า เธออยากกินเองรึเปล่า) 
         แต่มีคนที่ทำงานที่ฝังยาคุมกำเนิดแล้วไปฉีด ปรากฏว่าหน้ามืดเป็นลมไปเลย สุดท้ายไปนอนโรงพยาบาล สรุปว่าถ้าช่วงไหนรับยาคุมอยู่ไม่ควรฉีดช่วงนั้น
         อ่อ เป็นอยู่ไม่เกินสัปดาห์(ถ้าจำไม่ผิด)ก็หายเป็นปกติค่ะ แต่เล่นเอาคนรอบข้างตกใจอยู่ไม่น้อย

         แอสตร้าก็เช่นกัน 
         แต่เออ เมื่อวานพี่สาวบอกว่า ประจำเดือนเธอออกผิดปกติหลังจากฉีดวัคซีน ต้องรอดูอาการอีกวันสองวัน ถ้ายังไม่ปกติ ต้องหาหมอเพื่อดูละว่า มันเพราะอะไรกันแน่
         หรือจะแพ้วัคซีน???

         ไฟเซอร์ มีพี่สาวที่ทำงานผู้กำลังมีน้องไปฉีดมา เธอว่าก็ไม่เป็นอะไรนะ(แต่รู้สึกจะเสียค่าฉีด 1,500)
         ...ลูกสาวแม่บ้านก็ฉีดไฟเซอร์ รู้สึกจะหน้ามืดอยู่สองวัน จากนั้นก็ปกติดี

         โมเดอน่า มีพี่สองคนที่ทำงานซึ่งเป็นสามีภริยากันไปฉีดมา(เสียตังค์เหมือนกัน กี่บาทไม่รู้) พี่ผู้ชายไม่เป็นอะไร พี่ผู้หญิงปวดหัวเหมือนจะไข้ขึ้นอยู่วันสองวััน

         สรุปว่า คนส่วนใหญ่ที่ทำงานฉีดแล้ว มีอาการข้างเคียงอยู่บ้าง แต่ยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้


        ไม่มีหรอกวัคซีนกันติด จะโรคไหนก็ไม่มี มีแต่วัคซีนกันตาย
         แต่เข้าใจนะว่าบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีโรคประจำตัว กลัวการฉีดวัคซีน(เพื่อนเราก็เช่นกัน) เพราะถ้าแพ้วัคซีนขึ้นมาคงรุนแรงเอาเรื่องอยู่ เอาเป็นว่า ความเสี่ยงก็มีบ้าง อย่างไรก็ลองศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเลือกวัคซีนก็แล้วกัน 



         ส่วนเรา ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงไม่มีไข้ขึ้นรุนแรงเหมือนชาวบ้าน จะเพราะว่าปกติก็ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้วเลยไม่ป่วยรึเปล่าก็ไม่รู้(เดาล้วนๆ หลักการไม่มี) และภูมิคุ้มกันจะขึ้นหรือเปล่า...ก็ไม่ทราบได้ (ขี้เกียจไปตรวจ) แต่เราเชื่อในเรื่องธรรมชาติคัดสรร 
         คือว่า เราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดอยู่แล้ว ส่วนที่เหลือนั้นก็สุดแท้แต่โชคชะตา ถ้าเขาจะให้ตายเพราะโควิด อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี
         ...ถ้าโชคชะตาประสงค์ให้เรายังมีชีวิตอยู่ต่อไป เราก็จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ตามที่คนธรรมดาๆคนหนึ่งคนนี้จะทำได้
         ...ส่วนถ้าฟ้าบัญชาให้ถึงฆาต ก็จะน้อมยอมรับแต่โดยดี หวังแค่ให้จิตระลึกกุศลได้ก่อนตาย และมีแรงพอจะสวดมนต์ให้ตัวเองสักบทสองบท เผื่อจะได้ไปดี...



         แต่การที่สามารถพิมพ์เรื่องนี้ขึ้นมาได้ในตอนนี้ แสดงว่า ชีวิตยังได้ไปต่อ... :)

         อย่างน้อยก็ยังได้โอกาสมาเขียนเล่าเรื่องวัคซีนจากประสบการณ์ตรง เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านได้บ้าง ไม่มากก็น้อยล่ะนะ


         รักษาสุขภาพและดูแลตัวเองกันดีๆนะทุกคน 

         ส่วนสถานะของเราตอนนี้นั้น : 

         I'm vaccinated. ;) 
         (ฉันได้รับวัคซีนแล้ว)


         ขออัพเดตอะไรสักนิด ณ ตอนที่กำลังพิมพ์อยู่เนี่ย (16.11.64 เวลา 14.13 น.) เรารู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวัคซีนหรือเปล่า แต่หากใช่...
         ...เราคงเป็นพวกความรู้สึกช้าจริงๆนั่นแหละนะ...


         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่

         https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html

         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
          สวัสดีค่ะ
         
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in