เรื่องย่อ
Finch และ Violet เจอกันครั้งแรกบนหอระฆัง Finch เกลี้ยกล่อมไม่ให้ Violet กระโดดลงมาฆ่าตัวตายเพราะโศกเศร้ากับการจากไปของพี่สาว และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทั้งคู่ Finch ชวน Violet ท่องเที่ยวไปตามสถานที่สำคัญๆของ Indiana เพื่อส่งเป็นงานโปรเจคที่โรงเรียน และนั่นทำให้พวกเขาได้รู้จักโลก ชีวิต และความรักมากขึ้น
มีสปอยล์
ตัวละคร
“สมจริง เข้าใจยาก มีทั้งนิสัยที่น่ารักและน่ารำคาญ”
Finch เป็นตัวละครที่มีหลายบุคลิกมาก และเปลี่ยนไปเรื่อยๆตลอดทั้งเรื่อง แต่จะยังคงความเจ๋ง ความแปลก ความไม่เหมือนใคร ความ Finch ไปเรื่อยๆจนจบ ซึ่งจุดนี้เองที่น่ารัก เราชอบที่คนแต่งทำให้ Finch ดูมาจากดาวดวงอื่นได้โดยไม่ใช่ในความหมาย Freak หรือ Weirdo แบบที่เพื่อนๆด่า คือ Finch น่าเอ็นดูกว่านั้น และดูเหมือน Violet จะคิดเหมือนเรา
อย่างไรก็ตาม เรารำคาญนิสัย Finch อยู่บ่อยๆ รำคาญที่จนตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่า Finch ตอน Asleep เป็นยังไง แบบหายตัวไปงี้เหรอ? รำคาญที่เขามองว่าตัวเองอยู่คนเดียวบนโลก รู้นะว่าสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรคไบโพล่าร์ ต่างๆนานา มันจะมีทั้งช่วงที่ปกติ ช่วงกระตือรือร้น ช่วงที่ดิ่ง เชื่อเถอะว่าเรามีเพื่อนที่เป็นแบบนั้น แต่การกระทำของ Finch ไม่ได้มีเหตุผลมารองรับ (หรือ convince เราได้) ว่าทำไมเขารู้สึกเช่นนั้น ทำไมพอ Violet จะช่วยแล้วถึงหนีไป เอาจริงๆเราก็พยายามทำความเข้าใจเต็มที่ว่า Finch รู้สึกว่า have no choices แต่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมาได้ดูแปลกประหลาดมาก ไม่ใช่ว่าผู้เขียนอยากให้เราเข้าใจ และมองผู้ป่วยเป็นคนปกติทั่วไป และเห็นอกเห็นใจเหรอ? รู้สึกเหมือนเธอถ่ายทอด Finch ออกมาไม่ค่อยดี
เราก็ไม่ได้อยากจะรู้สึกต่อต้านอะไรขนาดนี้ แต่ยิ่งอ่านยิ่งแบบ...อ้าว วดฟ...เข้าไม่ถึงระบบความคิดจริงๆ ผู้เขียนเหมือนไม่เข้าใจตัวละครเลย เราเลยพลอยเข้าไม่ถึงความสมเหตุสมผลในบางจุดไปด้วย โดยเฉพาะท้ายๆของเรื่องนี้ แต่ถ้าพูดเรื่องความสมจริง เราคิดว่าทั้งอารมณ์ที่แปรปรวน การ obsessed กับการฆ่าตัวตายและอื่นๆ ถือว่าสมจริงเลยทีเดียว อ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ไกลตัว
Violet เป็นนางเอกที่เราไม่รู้สึกว่านางมีเสน่ห์อะ T v T เป็นการตัดสินที่รุนแรงแต่เราเห็นแบบนี้จริงๆ มีงี่เง่าด้วย โทษตัวเองหมดทุกเรื่อง เอาจริงๆรู้สึกว่านางน่าจะซึมเศร้ามากกว่า Finch อีก แต่ไม่ปฏิเสธว่าท้ายๆเรื่องสงสารนาง ชีวิตเจอแต่เรื่องแย่ๆ และนางก็พยายามเต็มที่แล้ว สิ่งที่เรายอมนางคือนางรัก Finch มาก รักที่ตัวตน Finch โดยไม่แคร์อะไรเลย นางดูพร้อมจะทุ่มเทเพื่อคนที่รัก
สรุปแล้ว ตัวละครเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องสลับกันไปเรื่อยๆ ทำให้ได้รู้ความคิด ความรู้สึกของตัวละครเกือบตลอด (ยกเว้น Finch ที่บทบรรยายกระโดดไปกระโดดมา โฮว เข้าถึงยาก) แต่ถามว่าตกหลุมรักไหม เราเซย์โนทั้งคู่ ไม่ใช่ไทป์เราแฮะT w T ไอ้จุดที่เราน่าจะชอบอย่างเวลาที่ Finch และ Violet ตอบโต้กันเป็นประโยคในหนังสือต่างๆก็ไม่ชอบซะงั้น (บางทีก็ตีความยากอะ) เลยกลายเป็นรีบอ่านผ่านแทน...
เนื้อเรื่อง
"น่าเบื่อ มีพีคช่วงท้ายแต่ก็ยังน่าเบื่อ กระนั้นก็เหมาะจะทำเป็นหนังอย่างยิ่ง"
สาเหตุที่เราอ่านได้ช้า เป็นเพราะตัวเนื้อเรื่องล้วนๆ ลิสต์ค่ะลิสต์
1. น่าเบื่อ
เรื่องดำเนินไปอย่างราบเรียบ เอื่อย ช้า ฉากที่ควรจะขำ ตลก เรากลับไม่อิน ได้แต่หัวเราะแหะๆ น่าเบื่อถึงขั้นที่ว่าเราต้องให้กำลังใจตัวเองก่อนอ่าน แล้วอ่านทีต้องอ่านเยอะๆจะได้จบไวๆ เปิดดูว่าเหลือกี่หน้างี้ T_T
จะมีสนุกเอาก็ท้ายๆเรื่อง ตอนนั้นพลิกไปมา ลุ้นว่าตกลง Finch จะอะไรยังไง แต่พอผ่านไปแล้วก็...อ้าว...แค่นี้เอง ไม่ค่อยจะเค้นอารมณ์เราได้เท่าไหร่ มีช่วงดีงามคือหลังจากที่ Finch ไม่อยู่แล้ว โอ้โหหหหหห น้ำตาซึม เพราะภาษาช่วงนั้นสวยงามมาก ชวนให้เราติดอยู่ในวังวนความโศกเศร้า การพลัดพรากจากลาซ้ำๆ
แต่ถามว่าร้องหนักไหม ไม่เลย แค่น้ำตาซึม รู้สึกว่าปากสั่นๆอยากจะร้อง แต่ก็ไม่ออกมา คงเป็นเพราะเรื่องนี้ให้ความรู้สึกหน่วงหนึบในใจมากกว่าเจ็บปวดจนระเบิดออกมาแบบ The fault หรือไม่ก็คงเป็นเพราะประเด็นโรคซึมเศร้าไม่ได้อิมแพคเราเท่ามะเร็ง ในขณะที่คนที่คุ้นชินกับภาวะนี้น่าจะอินเลยล่ะ (แต่ไม่แนะนำให้อ่านนะ มีนักรีิวิวคนนึงออกมาบอกว่าเรื่องนี้ดีลกับ depression issues ได้ไม่ค่อยดี เพราะว่า message ที่ออกมาเหมือนจะแนะนำให้ไปฆ่าตัวตาย หาทางออกให้ตัวเอง แบบนี้ จะเหมาะกับคนที่อยากเข้าใจผู้ป่วยโรคซึมเศร้า คนที่อยากฆ่าตัวตาย งี้มากกว่า)
2. ฉากกุ๊กกิ๊กที่แผ่วลงเรื่อยๆ
จังหวะเกือบจะดี แต่ก็ไม่ดี หลายทีเลย อ่านแล้วค่อนข้างขัดใจ ทั้งๆที่ตอนต้นเรื่องเขินอะ น่ารักไปหมด ยิ่งเห็น Finch หลง Violet ยิ่งเขิน แต่ว่าพอตอนหลังๆความรู้สึกทั้งคู่ก้าวกระโดดไปหน่อย ชวนให้ เอ๊ะ Violet นี่หล่อนไปชอบเค้าตอนไหน...
3. ภาษาและสารพัดศัพท์ยาก
เราไม่ค่อยถูกจริตกับภาษา Jennifer Niven เลย ตั้งแต่ holding up the universe แล้ว ฮืออออ เขาก็ออกจะเขียนดี มี quote สวยๆเยอะ แต่ไม่อิมแพคเรายังไงไม่รู้
ศัพท์ยากที่ว่า ก็ไม่ได้ยากนะ (...อ้าว) แค่เพราะเป็นศัพท์ที่ไม่ค่อยเจอ เป็น terms ที่ใช้เรียกรถ เรียกภูเขา เรียกศาลเจ้างี้ .... แบบต้องเปิดอ่านเพื่อจะได้จินตนาการภาพออก ในเรื่องเน้นท่องเที่ยวใช่มะ แล้วพอศัพท์เยอะๆขี้เกียจเปิด ก็เลยกลายเป็นคิดภาพไม่ออก หมดสุนทรีย์ไปอีกประเด็น
รวมๆแล้ว นิยายเรื่องนี้เน้นหดหู่ หน่วง หม่น แต่ทำได้ไม่ดีเท่าที่เราคาดไว้ แต่ก็เรียกน้ำตาจากคนอ่านมานักต่อนัก
สุดท้าย คาดหวังจะได้เห็น All the bright places เป็นหนัง เพราะถ้าเราได้เห็นฉากต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวอย่างชัดเจน ได้ดูแบบซับไทย ได้เห็น Finch และ Violet ตัวเป็นๆ น่าจะชอบเรื่องนี้มากขึ้นเยอะเลย ตื่นเต้นมากด้วยที่จะได้เห็น Elle Fanning ในบท Violet เป็นเรื่องที่เหมาะกับสร้างเป็นหนังมากกว่าเป็นหนังสือนะในความคิดเรา
ความรู้สึกส่วนตัว
ผิดหวัง อาจเพราะเราไม่ได้ดีลกับประเด็น depression เป็นการส่วนตัว เขาเองก็ถ่ายทอดออกมาได้ไม่สะอาดตาสะอาดใจยังไงไม่รู้ ชอบแค่ facts เรื่องความตายแบบต่างๆ สำนวนคนเขียนไม่ตรงจริต แถมทั้งเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ซึ่งพอไม่เห็นภาพแล้วมันไม่อิน กิมมิคก็ไม่เด่นชัด ถ้าเทียบกันแล้วเรื่องนี้คล้ายๆดึงมู้ด โทน และสไตล์ต่างๆมาจากหลายๆเรื่อง เลยไม่มีอะไรที่ shock เรา
กระนั้นก็ยอมรับว่าท้ายๆหนังสือเขียนได้ดีมาก ดีจนให้อภัยครึ่งเรื่องแรกได้หมดเลย มันดิ่งมาก หม่นมาก มีแต่คำว่าทำไมๆๆๆอยู่เต็มหัว จนอยากให้ทุกคนไปสัมผัสเอง
เช่นเดิมคือถึงเราจะไม่ชอบเล่มนี้ แต่เราคิดว่ามันมีคุณค่ากับใครสักคน มีอีกมากมายที่อ่านแล้วชอบ ยกเป็นเล่มโปรด ไม่อยากให้ตัดสินจากรีวิวนี้ว่าไม่ควรอ่านนะ รสนิยมเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล หนังสือใดๆก็ล้วนสร้างแรงบันดาลใจ หรือมีิอิทธิพลบางอย่าง กับเราในทางใดทางหนึ่ง
อ่านจบแล้ว เราไม่ได้รู้สึกรักชีวิตมากขึ้น แต่รู้สึกเข้าใจคนที่เห็นการฆ่าตัวตายเป็นทางออกมากกว่า ทำให้เราไม่ตัดสินใครล่วงหน้า และไม่ตัดสินใครจากมุมมองตัวเอง
หวังว่า Finch จะยังวิ่งอยู่ในโลกสักใบ โลกที่เหมาะกับนายมากกว่าที่นี่นะ
- ilysm.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in