0.33 น.
คืนนี้
เหมือนฉันกำลังถ่างตา รออะไรบางอย่าง
ทั้งๆที่พิมพ์และคิดงานมาตั้งแต่เช้า
ทั้งๆที่ดูเหมือนเพลียเหลือเกิน
ทั้งๆที่ดูเหมือนสมองเหนื่อยล้า และ เริ่มฝ่อแล้ว
ฉันจุดบุหรี่อีกมวน หยีตา และขยี้มัน
แสบตาอีกแล้ว
อาการแบบนี้ทำยังไงก็ไม่หายซักที ไปหาหมอ
หมอบอกให้เลิกนอนดึก ให้เลิกสูบบุหรี่
ให้เลิกบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แต่ฉันคิดว่าหมอไม่เข้าใจ
หน้าจอยังคงว่างปล่าว
หลายครั้งหลายหน
ที่ร่างกายคอยย้ำว่าพอแล้วสำหรับเขม่าดำในปอด
พอแล้วสำหรับกาแฟไร้น้ำตาล สีดำ ขมปี๋
พอแล้วกับเบียร์ยามค่ำคืน และการตื่นอย่างสิงห์รถบรรทุก
แต่มันช่วยไม่ได้ที่ฉันหลงรักรสเมนทอลและกลิ่นลูกเชอร์รี่ ที่ซึมติดริมฝีปากและลิ้นของฉัน
ช่วยไม่ได้ที่กาแฟเพราะเราคู่กัน ไม่ได้คู่กับฉัน
ช่วยไม่ได้ที่ฉันไม่ชอบแดด
ช่วยไม่ได้ที่ฉันอยากจะแต่งงานกับเจ้าของบริษัทเบียร์ซักที่
ช่วยไม่ได้ที่ฉันเป็นคนขอบตาดำคล้ำเหมือนค้างคาว ค้างคืน
มันเป็นเรื่องที่ฉัน ช่วยไม่ได้
ขอโทษทีนะร่างกาย
ที่ฉันชอบ
คงอาจจะเป็นเพราะเหตุผลแบบนี้ ที่ทำให้หลับไม่ลงซักที
จริงๆ ก็แค่เอนตัว แล้วหลับตาก็น่าจะสิ้นเรื่องสิ้นราว
เพราะวันนี้ ตามันก็เรียกร้องจะ ปิด
หัวเรียกหาหมอน อยู่นานแล้ว
แต่ฉันก็ยังไม่เคลื่อนตัวไปจากหน้าจอ
ฉันนั่งทิ้งตัวไปบนพนักเก้าอี้ . .
น้ำหนักของตัวฉันที่กดลงบนเก้าอี้ สร้างมุมที่ทำให้ฉันเห็นภาพที่ต่างไป
คืนนี้ คืนที่ไม่มีแมลงมาบินกระแทกตัวอย่างบ้าคลั่งกับโคมไฟ
ไม่มีเสียงร้องโหยหวนหิวตลอดเวลาของสีชา
ไม่มีเสียงชักโครก เข้าห้องน้ำกระทันหันกลางดึก ของห้องข้างๆ
และตอนนี้ ไม่มีเสียงเพลงไหนที่ฉันอยากฟัง
แสงไฟสีส้ม ที่สาดส่องให้เห็นเพียงแค่โต๊ะทำงาน แป้นพิมพ์ และหน้าจอ
ควันบุหรี่ลอยอ่อยอิ่ง ราวหมอกสีขาวอยู่ด้านหน้า
ซึ่งเป็นที่ที่ตัดกับแสงไฟสีส้มจากโคมไฟ
มันดูคล้ายกับชายกระโปรงพริ้วสีขาวของสาวน้อยแรกรุ่นที่กำลังเต้นรำอย่างเคอะเขิน
อยู่กับชายหนุ่มที่ตนหลงรัก
แต่ฉันกลับไม่เห็นชายหนุ่มคนนั้น. .
สิ่งที่ฉันเห็น ดูไม่จริงเสียเหลือเกิน
ฉันหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง เพื่อพ่นออก
ฉันขยี้ตา . .
สวยดี . .
แค่อยากเห็นกระโปรงสีขาวของสาวน้อยล้อเล่นกับแสงไฟ ด้านหน้าอีก
อยากให้เห็นว่ามันเป็นจริง. .มีอยู่จริง
ฉันกำลังจะหายใจเข้า. ..
. .. ไม่เข้าใจตัวเอง
ก็. . .ยังไม่เข้าใจตัวเอง
ที่สายตากำลังหันไปมอง โทรศัพท์สีแดง ที่วางนิ่งอยู่ข้างตัว
ทั้งๆที่ฉันไม่ชอบคุยโทรศัทพ์ ไม่ชอบรับโทรศัพท์
แต่คืนนี้ ฉันกำลังรอบางอย่าง
คาดหวังบางอย่างให้ร้องเสียงดังเพื่อปลุกฉันจากภวังค์
. ..ที่ควบคุมไม่ได้นี่
ก็ยังไม่เข้าใจ.. .. .
ลมหายใจออกที่ทำให้ฉันต้องหยีตา
แต่แสงไฟสีส้ม สวยดี
02.45 น.
นั่งอยู่หน้าคอม
น้ำหยดลงบนขาที่ว่างเปล่า
ลิ้นกลับรับรส. .. ทั้งสองรู้สึก
เย็น. ..
ความรู้สึกเดินทางมาอย่างเงียบเฉียบ
เกิดความเงียบในหัว เกิดรอยยิ้มที่มุมปาก
ตอนนี้ฉันเปิดเพลงแล้ว เป็นแผ่นที่ฉันไม่ค่อยได้เลือกเปิดเท่าไหร่
มันก็รู้สึกดี กับเพลงที่เราไม่เคยเข้าใจความหมายของมันเลยในเวลากลางวันของวันที่แสนอึกทึก
เสียงเพลง This Life ที่ทุ้มต่ำ วังเวง ของ Chuck Loeb ให้ความหมายแห่งการดำรงอยู่กับฉัน
(ฉันนึกว่าเขาเล่นแต่กีต้าร์ลีด ที่ไหนได้. ..)
บทเพลงพาให้ฉันเคลิ้มไปกับการเต้นระบำของสาวน้อย
ดวงไฟสีส้ม
เบียร์
รสเมนทอล ที่ริมฝีปาก
และคืนเงียบ เงียบ เช่นคืนนี้
โทรศัพท์ดังขึ้น. .
ในเวลาที่ฉันไม่ได้รอ
คู่เต้นรำของเธอ. .
. ..แค่อยากให้เห็นว่ามันเป็นจริง. .มีอยู่จริง
03.33น.
โทรศัพท์โดนปิดลง วางนิ่งเงียบอยู่ข้างตัว
ใจของฉันเต้นแรง
ตาของฉันแสบ
แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่ว่างเปล่า
คืนนี้ เริ่มไม่เงียบเท่าไหร่แล้ว
ความคิดคลุ้มคลั่ง ทะลักสั่งการลงมายังนิ้วมือ
ในเวลาที่ฉันไม่ได้รอคอย
ฉันขยี้ตา. .
จริงๆนะฉันว่า หมอคงไม่เข้าใจ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in