จริงๆเราตั้งใจจะดูเรื่องนี้ก่อน the k2 ตอนนั้นเดาเอาเองว่าเนื้อเรื่องจะต้องทำให้ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล เลยตัดสินใจไปดูคุณบอดี้การ์ดก่อน ก็นะ พอได้ดูจริงๆ บทมันไม่ได้บิ๊วให้เราร้องไห้จะเป็นจะตาย แต่มันกลับทำให้เราอึดอัดแทบบ้าแทน
เราเห็นความรัก ความเห็นใจ ความเข้าใจ ของคนสองคนที่ได้รู้จักกันจากการที่ลูกสาวของทั้งคู่เป็นรูมเมท เราเชียร์ให้เขารักกันทั้งๆที่แต่ละฝ่ายมีครอบครัวอยู่แล้วนี่แหละ!! มันเลยเป็นความอึดอัดชนิดที่ หื้มมมม พอมีซีนแตะตัวกันเนี่ย เราพลอยรู้สึกผิดไปด้วย ฉากน่ารักที่ทำให้เรายิ้มก็กลายเป็นว่า เอ๊ะ นี่เราสมควรจะยิ้มไหม หรือยังไง
คิสซีนที่ดูโหยหากันและกันมันก็แบบจะยิ้มตามก็ยิ้มได้ไม่สุด จะฟินตามก็ไม่ใช่อ่ะ แกกกก นี่คือสิ่งผิดป่าววะ เออ เชียร์ให้เขารักกันแหละ แต่นี่ข้ามเส้นไปแล้วไม๊ เอ้า รู้สึกผิดแทนลูกผัวเขาไปอีก
เราเกลียดความบังเอิญซ้ำๆที่พระเอกพยายามถามนางเอกว่ามันคืออะไร ใจเราจะตอบแทนว่าพรหมลิขิต เราก็ไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้อีก เลยเถียงพระเอกในใจว่ามันก็แค่ความบังเอิญย่ะ!!! แต่นั่นแหละ เรากลับรักความอบอุ่นของพระเอกที่สุด ตอนเป็นพระเอกเรื่อง 20 again ก็รักเมียเขาเนาะ มาเรื่องนี้ก็ยังรักเมียชาวบ้านอีก 555555555 เวรกรรมอะไรของพี่เขาคะ จริงๆบทพระเอกเรามองว่าเขาไม่โอเคสำหรับเรา ปากบอกรักเมีย ขอให้เมียเชื่อในความรักของเขา แต่ใจวิ่งไปหาผู้หญิงอีกคน บทช่วงนั้นทำเราโมโหพระเอกไปเลย แต่เอาเข้าจริงถ้ามีผู้ชายแบบนี้หลงเข้ามาในชีวิตเราก็คงถอนตัวไม่ขึ้น คำพูดดีๆ กำลังใจดีๆ นี่แหละที่มันเติมเต็มกันและกันได้ และคนเราก็โดนหลอกลวงด้วยคำพูดแสนหวานด้วยเหมือนกัน อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัว :)
ลองเทียบกับฝั่งสามีนางเอกสิ ....ปากตะไกรแท้ แต่ตอนหลังเราร้องไห้ให้เค้านะ สงสาร ตอนที่ยังมีโอกาสก็ไม่เคยใส่ใจ ไม่คิดจะรักษาไว้ด้วยซ้ำ จะมาบังคับใจกันในเวลาที่อีกฝ่ายไม่เหลือความรู้สึกอะไรแล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ สิ่งไหนที่มีค่าก็ต้องรักษาไว้ดีๆสิ เราไม่ชอบคาแรคเตอร์นี้ที่เค้ามีความคิดแบบ "ฉันทำได้ แต่เธอจะทำเหมือนที่ฉันทำไม่ได้" ความเห็นแก่ตัวมันมีทุกคนน่ะแหละ ความเป็นมนุษย์แต่ละคนก็ต่างกันเนอะ แต่กัปตันพัคที่นึกถึงแต่ตัวเองก็ทำให้เราหงุดหงิดเวลานั่งดูเขาเล่นหูเล่นตากับสาวๆเหมือนกัน
บทนางเอกสำหรับเราดูอ่อนไหวไปนิด หลายๆครั้งที่นังไม่มีสติ ในหัวแบลงค์ไปเลย คิดอะไรออก มือไม้สั่น ซึ่งจริงๆคนเป็นแอร์มันต้องแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วในระดับหนึ่งป่ะคะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูดหรืออะไรก็ตาม เราเลยคิดว่าบทนางเอกหลายครั้งแสดงท่าทางที่ประหลาดๆ ไม่สมกับที่วางคาแรคเตอร์ว่าเป็นแอร์มาหลายปี หรือเพราะเป็นงี้เลยเลื่อนตำแหน่งช้ากว่าเพื่อนปะ
มีครั้งนึงมือสั่นดิ๊กๆๆต่อหน้าเมียพระเอก นี่เลยว่าคนจะเป็นชู้อ่ะแก ใจต้องกล้าหน่อย กลัวขนาดนี้อย่ามีชู้เลย กลายเป็นสนับสนุนให้พระนางเป็นชู้กันแบบกล้าแกร่งไปอีก
ในชีวิตจริงเราไม่สนับสนุนให้ใครเล่นชู้นะคะ ไม่ดี แฮ่
บทที่เราชอบที่สุดในเรื่องน่าจะเป็นเพื่อนนางเอก น่ารักมาก คอยซับพอร์ทนางเอกตลอด อาจจะเพราะรู้สึกผิดที่ไม่เตือนเพื่อนเรื่องผู้ชายก็ได้ 5555 เอาเข้าจริงทุกตัวละครหลักในเรื่องไม่มีใครดีพร้อมเลยนะ มันมีความเห็นแก่ตัวของแต่ละตัวละครที่แสดงออกมาแตกต่างกันไป เราชอบที่ได้เห็นความลังเลของแต่ละตัวละครในการตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อตัวเอง
เราชอบชื่อเรื่อง ความหมายเล็กๆของคำว่า Airport ที่นางเอกเมมชื่อพระเอกในโทรศัพท์ อันนี้เราว่าน่ารักดี on the way to airport มันก็คือเส้นทางที่จะไปสู่ซอโดอูใช่รึเปล่านะ พอคิดว่ามันมีความหมายแบบนี้เลยรู้สึกว่าน่ารักจัง
เรื่องนี้ มุมกล้อง ภาพ การตัดต่อ เราชอบหมดเลย ชอบมุมกล้องกับการตัดต่อซีนที่รินไวน์บนเครื่องมาก เป็นซีนที่ทำให้เราใจสั่นตาม ประทับใจที่สุดในเรื่องเลยมั้งซีนนี้
ตอนจบของเรื่อง [ย่อหน้านี้เหมือนจะสปอล์ยนะคะ ใครยังไม่ดูข้ามไปดีกว่า]... เราอยากรู้มากว่าถ้าทั้งคู่ตัดใจและยอมเริ่มต้นใหม่กับครอบครัวจะเป็นยังไง วินาทีสุดท้ายเราสงสารกัปตันพัคขึ้นมาจริงๆ แต่จบแบบนี้ก็ดีแหละ ยังไงทั้งสองครอบครัวก็มีเหตุให้ไปด้วยกันต่อไม่ได้อยู่ดี ถึงแม้จะไม่มีโดอูหรือซูอาโผล่เข้ามาในชีวิตของกันและกัน แต่เราก็ยังมองว่าการได้พบกัน เห็นใจกัน รักกันมันก็เป็นตัวเร่งให้ความสัมพันธ์จบลงง่ายขึ้นด้วย
เพราะทุกคนล้วนมีเหตุผลในการมาและจากไป
ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกแบบนี้มันอันตรายจริงๆ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in