“คุณจะเชื่อไหม ถ้าผมจะเล่าให้คุณฟัง?”
“ผมกับภรรยารู้จักกันได้อย่างไร?”
“คุณอยากฟังไหม? มาสิผมจะเล่าให้คุณฟัง”
ผมกับภรรยาไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวเราไม่เคยเจอหน้าหรือตัวกันเป็น ๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เราสองคนเป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊คตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่รู้จักเธอด้วซ้ำ ไม่เคยคุยกัน แต่ที่เป็นเพื่อนกันทางเฟสบุ๊คได้เพราะเธอเป็นเพื่อนของเพื่อนผม
ครั้งแรกที่ผมเห็นเธอในเฟสบุ๊คยอมรับเลยว่าใจผมละลายมากเพราะเธอเป็นคนน่ารัก แต่ตอนนั้นผมคงคิดอะไรไม่ได้เพราะผมมีแฟนแล้วและเธอก็น่าจะมีแฟนเช่นกัน ผมทำได้เพียงแค่แอบชื่นชมเธอเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ผมมักจะเห็นเธอชอบโพสต์ข้อความบ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามประสาเด็กวัยรุ่น บางครั้งก็โพสต์ลงรูปตัวเองบ้างซึ่งผมก็จะเข้าไปกดไลน์ข้อความหรือรูปที่ผมชื่นชอบ
“อ๋อ ลืมบอกไปครับ ผมกับภรรยาอายุห่างกัน 12 ปี”
เวลาผ่านไปนานหลายปีจากการเป็นเพื่อนกันทางเฟสบุ๊คทำให้ผมรู้ว่าเธอชอบถ่ายรูปมากและรูปที่เธอถ่ายก็ออกมาสวยแทบทุกรูป ผมยังคงแอบชื่นชมเธอเงียบๆ ไม่ได้เข้าไปคุยส่วนตัวหรือคอมเม้นท์อะไรทั้งนั้น ยังคงกดไลน์ข้อความหรือภาพที่ชื่นชอบเหมือนเช่นที่เคยทำ
จนวันหนึ่งเธอบินกลับมาอยู่เมืองไทยช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเลิกกับแฟน ผมเห็นเธอโพสต์ข้อความและรูปบ่อยมาก โดยเฉพาะรูปของเธอเห็นวันละหลาย ๆ โพสต์ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าอยากจะรู้จักเธอแบบจริงจังสักทีผมตัดสินใจรวบรวมความกล้าเข้าไปกดไลน์ทุกโพสต์ของเธอ จากนั้นก็เริ่มเข้าไปคอมเม้นท์ยิ่งผมยิ่งเห็นรูปเธอเห็นกิจวัตรประจำวันที่ไทยมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผมชอบเธอมากขึ้น แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจหรอกว่า เธอมีแฟนหรือยังแต่เอาเถิดความรักบางทีก็ไม่ต้องการความเป็นเจ้าของ แค่ผมแอบชื่นชมเธอแบบนี้ก็ได้
ผมตัดสินใจจะเข้าไปคุยกับเธอในอินบ็อกซ์ แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าไปคุยก็เห็นเธอโพสต์ภาพของเธอนั่งอยู่บนเครื่องบินเดินทางกลับซิดนีย์เสียแล้วหัวใจผมแทบสลายเสียใจที่ไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ว่าจะเข้าไปทักก่อนเธอเดินทางก่อนกลับผมไม่ลังเลรีบเข้าไปเมนท์โพสต์นั้นทันที
“ถึงซิดนีย์หรือยังครับ ขอให้เดินทางปลอดภัย” ผมภาวนาขอให้เธอตอบ
“ถึงแล้วค่ะขอบคุณมาก”เธอตอบกลับมา
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นว่าผมจะต้องคุยกับเธอให้ได้มากกว่านี้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in