เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
July Free Writingpromptsนักเล่าเรื่อง
15th July 2021
  • ใครบ้างที่ชอบบอกว่าฉันควรจะทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วฉันไม่เชื่อ ไม่รู้สิ ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ ฉันกำลังเศร้า อาการซึมเศร้าของฉันมันกลับมาแบบตั้งตัวได้ แต่ก็เซไปแล้วหลายเมตร ฉันพิมพ์ข้อความพวกนี้พร้อมน้ำตาและน้ำมูกสกปรก ครั้งหนึ่งฉันเป็นเด็กที่วิ่งตามความฝันของตัวเอง ฉันไล่จับความฝันนั้นได้แค่ปลายก้อย ความฝันของฉันทำท่าจะหลุดลอยไปเหมือนลูกโป่งได้ทุกเวลา จนมาถึงวันนี้ที่เด็กคนนั้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเรียนรู้ว่าชีวิตของคนเราไม่ได้มัเพียงแค่หายใจเข้า หายใจออก ปละเดินตามฝันเท่านั้น มันมีทั้งสังคมรอบข้าง ธุรกิจ เงิน เศรษฐกิจ วันเวลา โรคระบาด และอะไรอีกหลายอย่างที่จะทำให้ลูกโป่งแห่งความฝันหลุดลอยไป วันหนึ่งที่เด็กคนนั้นถือความฝันแทบไม่อยู่ เธอโดนทุกสิ่งรอบตัวบีบบังคับให้เธอทำในสิ่งที่ไม่ได้ฝันไว้ มันทรมาน ทรมานจนถึงขั้นไม่อยากหายใจเข้า หายใจออกอีกต่อไป เด็กคนนั้นเดินไปที่ระเบียงชั้น 29 มองลงไปด้านล่าง ภาพตรงหน้าวูบไหวด้วยความหวาดกลัว เธอถอดรองเท้าและวางคู่กันอย่างเรียบร้อย ก่อนจะปีนระเบียงรั้วที่คอนโดกั้นเอาไว้ และปล่อยตัวลงมาตามแต่สายลมจะพัดพา เธอเลือกทิ้งความฝันและทุกสิ่งไว้ข้างหลัง เธอเหนื่อย เธออยากพัก เธอขี้เกียจแม้แต่จะหายใจ เธอคิดว่าเธอจะอยู่ไปทำไมถ้าไม่ได้อยู่กับความฝัน เธอไม่ได้คิดว่าลมหายใจเข้าออกท่ามกลางชีวิตที่ตื่นเช้าเบียดเสียดคนมากมายไปบริษัท ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ พักเที่ยงกินมาม่าเซเว่น กลับมาทำในสิ่งที่ไม่ชอบ กลับบ้านด้วยความอ่อนแรงในรถไฟฟ้าที่แออัด กลับมาหมดแรงเกินกว่าจะทำเศษเสี้ยวของความฝัน เธอคิดว่าลมหายใจนั้นช่างไร้ค่าสิ้นดี เธอจะอยู่กับลมหายใจนี้ไปทำไมกัน เธอไม่สับสนแล้ว น้ำตาที่ไหลออกมาเอื่อยๆไม่ยอมหยุดเหมือนลมหายใจ เลือดสีแดงนองกับพื้น เด็กผู้หญิงผู้เคยวิ่งตามความฝันไม่หายใจอีกแล้ว

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in