เรากลับมาถึงโรงเรียนค่อนข้างเย็นแต่ไม่มาก ท้องฟ้าสีนุ่มนวลและแดดจากแสงอาทิตย์เริ่มเบาบาง รถบัสจอดที่หน้าโรงเรียนต่างคนต่างพากันลงจากรถ ผมพยายามจะช่วยเวฟถือกระเป๋า แต่ถูกเจ้าตัวปฏิเสธ เวฟบอกว่า “ตอนมาก็ถือได้ ทำไมตอนกลับจะถือไม่ได้” ผมจึงช่วยเขาอุ้มตะกร้าเจ้าแมวแทน
ต่างคนต่างย้ายตัวกลับห้องของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ผมแวะส่งโอมกับน้ำตาลตามลำดับ ส่วนปุณณ์ที่ช่วยถือของให้แคลร์ก็พาอีกฝ่ายไปส่งห้อง แจ็คกับโจต่างก็แยกย้ายกันเข้าห้อง กรกับมณก็ไม่รู้หายไปไหนกันสองคน
ผมมาถึงหน้าห้องของเวฟ เขาเปิดประตูค้างไว้เพื่อเก็บกระเป๋าเดินทางเข้าไปในห้องนอน ผมรออยู่หน้าห้องเพราะยังไม่ได้รับคำอนุญาต ในมือยังคงอุ้มตะกร้าของแมวน้อย ตอนนี้มันตื่นอยู่ ส่งเสียงร้องแหล่มเล็กพร้อมส่งสายตากลมใสมองขึ้นมาผ่านช่องว่างระหว่างฝาตะกร้า
“เอาแมวมา”
เวฟกางแขนพร้อมรับตะกร้า ผมส่งตะกร้าลูกแมวให้เวฟ เจ้าตัวเล็กส่งเสียงร้องอีกครั้ง
“...น่ารักเนอะมึง” ผมว่า พร้อมก้มหน้ามองลูกแมวที่อยู่ในตะกร้า
“อือ ...มึงอยาก เล่นกับมันไหม?”
เวฟหลบตาลง มือผอมๆลูบหลังคอเหมือนทำตัวไม่ถูก ผมนิ่งไปพักหนึ่ง ตอนนี้ทางเดินค่อนข้างมืดและโหวงเหวง หลอดไฟแสงสลัว ยิ่งแสงจากห้องด้านหลังทำให้ภาพตรงหน้าย้อนแสง ผมมองไม่ค่อยเห็นหน้าของเขา ตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าเวฟกำลังทำสีหน้าอย่างไร
“อาฮะ...” ผมตอบเสียงแผ่ว
“เข้ามาดิ จะให้อยู่ก่อนก็ได้” เวฟพูดก่อนจะเดินเข้าไปในพร้อมตะกร้า
อยู่ๆใจก็กระสับกระส่าย หัวใจผมสั่นรุนแรงมากกว่าครั้งอื่นๆก็ผ่านมา มันดังโครมครามจนรู้สึกปวดร้าวที่อก ผมไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่มือของผมก็สั่นด้วยเช่นกัน และรู้สึกประหม่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ยืนบื้ออยู่ทำไมวะ เข้ามาดิ”
“อ้อ อืม”
ผมก้าวเท้าเข้าไปในห้องของเวฟ
แต่กลับรู้สึกเหมือนค่อยๆก้าวเข้าไป...ใน
จักรวาลของเวฟเลย
เจ้าแมววิ่งว่อนไปทั่วทั้งห้องเหมือนกำลังตื่นเต้นกับบ้านใหม่ แม้แต่แรกๆจะทำท่าทางไม่ไว้วางใจ แต่พอผ่านไปสักพัก เจ้าตัวเล็กก็เริ่มสนุกสนานกับการสำรวจห้อง
ภายในห้องของเวฟเต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์ มีหนังสือคณิตศาสตร์จำนวนหนึ่งที่อีกฝ่ายกองสุ่มไว้เพื่อเป็นที่วางโคมไฟ ผ้าปูที่นอนสีเรียบ ห้องไม่ได้ถูกตั้งแต่งมากมายหนัก แต่ผมกลับรู้สึกประหม่าหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม เมื่อรอบๆข้างเต็มไปด้วย"เวฟ"
ผมมองเห็นตัวตนของเวฟจากสิ่งของรอบห้องภายในห้อง ทั้งผ้าปูที่นอนสีม่นนั้นห่อหุ้มเตียงที่เวฟใช้นอน พวกคอมพิวเตอร์ที่ถูกเวฟสัมผัสด้วยนิ้วเรียว เสื้อกันหนาวเก่าๆที่พายทิ้งไว้กับเก้าอี้นั่นเคยถูกเวฟสวมใส่ ทุกอย่างภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของเวฟ
เวฟกำลังจัดการเสื้อผ้าที่อยู่ในกระเป๋าเดินทาง ผมพึ่งนึกได้ว่าผมยังไม่ได้เอาของออกจากกระเป๋าเลย ข้างๆผมที่นั่งอยู่ปลายขอบเตียงของเวฟคือกระเป๋าเดินทางเน่าๆใบหนึ่งที่โป่งพองจากการยัดเสื้อผ้าลงไปแบบสิ้นคิด
“มึงไม่เอาของในกระเป๋าออกเหรอ?” เวฟถามโดยที่ยังหันหลังให้ผม เจ้าตัวดึงเสื้อผ้าออกมาจัดเรียง ทั้งเสื้อที่ต้องซักและเสื้อที่ไม่ได้ใส่แยกไว้คนละฝั่ง ก่อนจะจัดการเอาเสื้อที่ไม่ได้ใส่เข้าไปเก็บตู้เสื้อผ้า และเสื้อซักลงตะกร้าผ้า
“อ่อ..กุรอกลับห้องกุก่อนไง”
“รอทำไม? ทำตอนนี้เลยก็ได้”
เวฟว่าก่อนจะส่งสายตาไปทางกระเป๋าเดินทางของผม ชี้นิ้วไปทางมัน
“เอาเสื้อซักออกมาใส่ตะกร้าผ้ากับกุ พรุ่งนี้กุจะได้เอาลงไปซักทีเดียว”
“ออๆ ได้ๆ”
ผมเปิดกระเป๋าเดินทางซึ่งข้างในเน่าสุดๆ ทั้งเสื้อผ้าที่จับยัดอย่างไร้ระเบียบและอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆที่สะสมปนเปกับเสื้อผ้าที่พัดกันยุ่งเหยิง
“เออ...ขอเวลากุหน่อยละกัน” ผมพูดแบบอายๆ
เวฟถอดหายใจเฮือกใหญ่เหมือนหน่าย เขาเอื้อมมือไปคว้าผ้าเช็คตัวมาพาดไหล่ ก่อนจะเดินออกไปทางห้องน้ำ
“ถ้ากุอาบน้ำเสร็จเมื่อไหร่ ออกมามึงต้องจัดเสื้อผ้าให้เสร็จ เข้าใจไหม?” เวฟถามย้ำเหมือนออกคำสั่ง
“...ครับ” ผมตอบเสียงอ่อน
ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดดังปัง ต่อด้วยเสียงน้ำจากฟักบัว ทำให้อาการประหม่าของผมกำเริบอีกครั้ง...
เพราะกลิ่นสบู่...ที่มันลอยมาแตะจมูกผม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in