เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
YOU / MELIPDA
DAY 4(afternoon) : HEARTBEAT
  •          ฝนตกจนได้
            ดีที่เต็นท์เป็นผ้ากันน้ำที่ทำให้เต็นท์ไม่ล้มและเราไม่เปียกไปเสียก่อน
           กลิ่นอายของสายฝนโปรยปรายและไอเย็นตกกระทบกับผิวสัมผัส แมวน้อยหลับอย่างไม่รับรู้รอบข้างและภายในเต็นท์มีแค่เราสองคนที่นอนหลบสายฝนบนผ้าปูที่นอนอุ่นนุ่ม แปงนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างๆผม ครึ่งหน้าของอีกฝ่ายจมไปกับความอ่อนยวบของฟู่ สายตายังคงสอดส่องมาทางผม
           “มึง...จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?” แปงถาม
           “แล้วจะให้กุพูดอะไรล่ะ?”
           ผมที่อยู่ในท่านอนคว่ำโดยมีหมอนอิงเพื่อเล่นซูโดกุในไอแพคฆ่าเวลา มีแสงจากโคมไฟเล็กๆเพื่อให้มองเห็น
           “ทำอยู่อะไรอะ?”
           “เล่นซูโดกุแบบ 9x9”
           “กุยังไม่รู้เลยว่าซูโดกุคืออะไร นี่มึงยังมีแบบ 9x9 อีก”
           “ก็มึงโง่ไง”
           “เออ ยอมรับ”
           แปงยัดตัวขึ้นมามองผม ก่อนจะเลือนสายตาไปในไอแพค ตารางตัวเลขที่ปรากฏอยู่ในนั้นสะท้อนผ่านดวงตาของแปงไป
           “โห ยากวะ ...มีแต่เลขเต็มไปหมดเลย”
           “กับมึง กุไม่แปลกใจหรอก”
           “กุแค่ไม่เก่งเลขปะละ”
           “ครับ พ่อคนเก่ง”
           ผมตอบประชดประชันไป เสียงฝนข้างนอกตกกระหน่ำไม่หยุด กลิ่นชื้นตกกระทบจมูกหนาแน่น ไม่รู้เวลาผ่านไปเนินนานเท่าไหร่ แปงยังคงจ้องกิจกรรมที่ผมทำอยู่อย่างนั้น หัวของอีกฝ่ายเอียงอิงมาทางผมจนเกือบจะซบไหล่
           “ทำไรอะ?”
          ผมขยับไหล่หนี
          “พิงไม่ได้เหรอ?”
          “ไม่”
          ผมส่งเสียงแข็งทว่าในใจสั่นไหว ผมแสร้งทำเป็นเล่นซูโดกุต่อเพื่อกลบเกลื่อนอาการใจเต้นปิดปกตินี่ แต่มันเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย ผมรู้สึกว่ามือสั่นเล็กน้อยแล้วการคำนวณเพื่อวางเลขแต่ละช่องก็เริ่มช้าลง หัวใจส่งเสียงดังโครมครามจนน่ารำคาญ
         ผมวางไอแพดลง ซบหน้าลงกับฟู่ รู้สึกตัวหนักอึ้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ แปงดูตกใจที่เห็นการกระทำอันกะทันหันของผม ผมเอามือทั้งสองข้างกุมหัวใจไว้ มันเต้นไม่ยอมหยุด ผมไม่ชอบเลย เพราะมันทำให้อกผมปวดและช่องท้องก็รู้สึกวูบวาบ
          “เวฟ มึงเป็นไร?”
          แปงเอื้อมมือมาสัมผัสไหล่ ก่อนจะเลือนมือมาสัมผัสที่แก้มขวาและที่หน้าผาก ผมตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกเลย หัวใจเจ้ากรรมก็สั่นสะเทือนรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
          “มึงไม่สบายเหรอ?”
          “เอามือออกไป...”

           อย่าจับนะ

           อย่าสัมผัสมากกว่านี้เลย ไม่อย่างนั้น...ผมต้องตายแน่ๆ

           ผมสับสน ผมไม่เคยเผชิญกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน...ไม่สิ ไม่ใช่ ผมจำมันได้ มันเหมือนตอนนั้น ตอนที่ครูนารายืนหน้าเข้ามาใกล้ ตอนที่เธอเอื้อมมือมาเช็ดนมที่เปื้อนริมฝีปากของผม
           แต่ตอนนี้กับตอนนั้นมันเทียบกันไม่ได้เลย ครั้งนี้มันรุนแรงกว่า จนผมจัดการกับมันไม่ถูก
           “เวฟ? มึงดูไม่โอเคเลยนะ”

           ก็เพราะมึงนั้นแหละ 
      
          ใบหน้าร้อนผ่าว แม้แต่ตัวของผมก็รู้สึกร้อนไปด้วย ผมนอนขดตัวเหมือนทารก กอดกุมร่างของตัวเองให้จมไปกับฟู่นุ่ม
          “เวฟ...มึงตัวร้อนนะ”
         สิ้นคำพูดนั้น ภาพตรงหน้าก็เลือนรางจางหายไป..

    01.

          “เวฟๆๆ”
          ผมพยายามเขย่าร่างเล็กที่นอนนิ่งอยู่บนฟู่ เจ้าตัวนอนนิ่ง มีเหงื่ออกที่หน้าผากและใบหน้าฉาบไปด้วยสีแดงของพิษไข้ ผมสัมผัสที่หน้าผากของอีกฝ่าย ตัวของเวฟร้อนเหมือนโดยไฟเผาไปทั่วร่าง ผมค่อยๆถอดแว่นออกจากหน้าของเวฟ ก่อนจะเอาผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างเล็กที่คดตัวหนาวสั่น
           ผมสังเกตเห็นว่าตั้งแต่มาถึงที่หัวหิน เวฟมักจะใส่เสื้อผ้าเนื้อนิ่มสบายๆและไม่ได้สวมเสื้อกันหนาวเลย พอ อากาศเปลี่ยนแปลงอาจทำให้อุณหภูมิร่างกายปรับตัวไม่ทัน
          “อือ...อึอ”
          “เวฟ?”
          ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ ได้ยินเสียงอีกฝ่ายร้องครวญอย่างทรมานจากพิษไข้ น้ำตาหยดเล็กๆไหลรินเปรอะเปื้อนผิวหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
          “…ทำไม ทำกับผมแบบนี้...”

          ฝันร้าย?

         “...อึด ..ครูนารา”
         ความสับสนและสงสัยโจมตีผมอย่างไม่ทันตั้งตัว

         ครูนารา...คือใคร?

         “..ผมรักครูนะ”
        หัวใจเหมือนถูกทิ่มแทง และอกก็ถูกทับถมไปด้วยมวลคลื่นที่ซัดโถมเข้ามา

    02.
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
luckmepeach (@luckmepeach)
แผลใจอ่ะเนอะ
aasai_ (@aasai_)
ตอนนี้ สงสารทั้งเวฟและแปงเลยย แปงงอย่าทิ้งเวฟไปนะ เวฟเปิดใจให้แกแล้วว
mook_kanokwan07 (@mook_kanokwan07)
โอ๊ยยยยหนู กับแปงความรู้สึกมันรุนแรงกว่าใช่มัย แปงจะเอาไงต่อเนี้ย อย่าทิ้งหน฿เวฟนะแก หนูเวฟเหมือนพร้อมจะแตกสลายได้ทึกเมื่ออะ โอ๊ยยยกอดหนูเวฟ