ปรี๊ดดดดดดด!!!
เสียงนกหวีดยามเช้าของทุกวันพุธทำให้มือที่กำลังจดการบ้านเป็นอันชะงัก ผมรีบคว้ารองเท้าหนังขึ้นสวมอย่างรีบร้อนผิดกับไอ่จงอินที่กำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่กับเวนดี้อย่างออกรส
“มึงเสร็จยังวะเพื่อนฮุน รองเท้าแม่งใส่ยากชิบหาย” จงแดเพื่อนร่วมเรียนนักศึกษาวิชาทหารบ่นกับผม
“เสร็จแล้ว หมวกมึงอ่ะ!? เชี่ย! เสื้อกูอยู่ไหน?” ผมมองหาเสื้อนอกที่ไม่รู้ว่าถอดวางไว้ตรงไหน ก็อากาศในห้องของผมมันอบอุ่นเกินไปจนผมเหงื่อแตกแถมยังเป็นคนขี้ร้อนอยู่ทุนเดิมมาก่อน
“เสื้อรด.ใครมาวางบนโต๊ะฉันเนี่ย” เสื้อสีกากีแกมเขียวถูกชูขึ้นเหนือหัว ลู่หานทำหน้าเบื่อเมื่อรู้ว่าเจ้าของเสื้อเป็นใคร เธอมองมาที่ผมก่อนจะปาใส่ หน้าผมนี่โดนเต็มๆ
“โต๊ะตัวเองมีทำไมไม่วาง ลุงนี่ทำไมชอบมาวางที่โต๊ะฉันวะ”
“อย่ารมณ์เสีย เดี๋ยวแก่เร็ว” หยอกวันละนิดจิตแจ่มใส
“ฮึ่ย! อีลุงงง” มือบางฟาดลงมาที่ต้นแขนผมสองสามที เห็นตัวเล็กแบบนี้แต่แรงเยอะใช่ย่อยเลยนะนั้นน่ะ ผมรีบสวมเสื้อจดกระดุม จงแดที่รออยู่ก่อนแล้วรีบเร่งผมใหญ่
“เร็วๆสิฟะ เดี๋ยวอั๊วซวยโดนทำโท้กอีก เฮียฟานยิ่งโหดสัดรัสเซียอยู่”
“กูเสร็จจริงๆแล้ว ป่ะ” ผมรีบลากไอ่จงแดลงมาจากอาคารชั้นสามมายังสนามฟุตบอลที่มีนศท.หลายคนกำลังยืนตามตำแหน่งของตน แล้วก็อย่างที่บอกว่าผมเป็นคนที่สูงที่สุดในบรรดาสมาชิกในแถว ตำแหน่งที่ยืนของผมคือหน้าแถวตรงกับรุ่นพี่นศท.ปีสองที่เป็นคอมแมนพอดิบพอดี
อะไรมันจะขนาดนี้!~~~~
“แถวไม่เรียบร้อย หมอบ!” รุ่นพี่ตรงหน้าตะโกนเสียงดัง ใครจะกล้าหื๋อล่ะครับ นศท.ปีหนึ่งทุกคนนอนหมอบลงกับพื้นหญ้าเขียวขจีท่ามกลางแดดประเทศไทยที่สามารถทอดไข่ดาวให้สุกได้
“จัดแถว!” ลุกหือกันขึ้นมาอย่างไวและจัดระเบียบแถวให้เรียบร้อยที่สุด โดยคนตัวสูงที่สุดอยู่หน้าและเตี้ยสุดอยู่หลัง จงแดโชคดีหน่อยที่มันไม่ได้สูงกระโด้งแบบผม ผมนี่สิต้องมายืนส่งสายตาปิ๊งๆให้รุ่นพี่คอมแมนที่มีฐานะเป็นพี่ในสายรหัสของผม
“ไอ่น้องฮุน มึงไม่ต้องมาส่งสายตาให้กู” รุ่นพี่พูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน
รุ่นพี่ใจร้าย!
ตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมต้องหักโหมเป็นอย่างมากในการนั่งลอกการบ้านที่ค้างคาหลายวิชา เพราะหนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านั่นมีการเข้าค่ายของนทศ.ทุกชั้นปี และเพื่อนผู้หญิงส่วนมากก็ดูจะรักพวกผมมากเป็นพิเศษ เรียนนำหน้าพวกผมไปหลายเรื่อง ภาระงานอีกเป็นตะกร้ารอให้พวกผมกลับมาสะสาง จะดีก็แต่ได้กินขนมจากพี่อี้ชิงที่ส่งมาให้ผมกับเฮีย แต่เฮียดูจะได้เยอะกว่าผมเป็นเท่าตัวเพราะลู่หานก็ส่งมาให้เฮีย ยังมีจิตใจเล็กๆซื้อขนมปังก้อนมาให้ผมแทะเล่น
‘เดี๋ยวลุงน้อยใจ ฝากขนมปังมาให้แทะเล่นก่อนแล้วกัน’ ลู่หานเขียนมาแบบนี้จริงๆ แต่ยังไงผมก็ชอบนะ ส่วนมินอาที่เป็นแฟนผมก็ส่งขนมมาให้ชุดใหญ่พร้อมจดหมายอีกหน้ากระดาษเพื่อบ่นว่าเธอคิดถึงผมขนาดไหน
ผมล่ะยอมใจจริงๆ
“เซฮุน~ ไปกินข้าวกัน” เสียงแสบหูตะโกนเข้ามาในห้องหลังจากที่ครูวิชาชีวะเดินออกไปแล้ว ผมละเอือมจริงๆนะที่เธอมาตะโกนปาวๆอยู่หน้าห้องโดยไม่เกรงใจใครสักคน ผมขอเมินเธอวันนึงแล้วกัน
“ลุง แฟนเรียกแล้วนะ” ลู่หานบอก
“ช่างมันเถอะ เราไม่อยากไป”
“ประจำเดือนไม่มารึไงลุง เหวี่ยงจังนะ” ใบหน้าหวานส่ายหัวเพราะเริ่มจะเอือมผม
“เหวี่ยงก็รัก รักเธอมากเกินใคร~” ผมต่อเนื้อเพลงลงไปพร้อมสายตากรุ้มกริ่มให้เธอ
พลัวะ!
หนังสือนิยายเล่มใหญ่ฟาดลงบนต้นแขนผมเต็มๆหนึ่งฉาด ใบหน้าหวานเริ่มแดงและพยายามที่จะหุบยิ้มตีหน้าขรึม
“หยุดเลยนะ จะไปกินข้าวแล้ว!” ลู่หานพูดขึ้นก่อนจะเดินไปลากแบคฮยอนและเวนดี้ออกไปด้านนอก และด้านนอกก็ยังมีบุคคลที่เรียกว่าแฟนตามจองล้างจองผ้างอยู่ บางที่ผมก็ควรที่จะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วล่ะ
“เซฮุน ลากเรามาทำไมตรงนี้ คุยตรงอื่นไม่ได้หรอ?” มินอาหันซ้ายหันขวามองอย่างไม่เข้าใจ
“คือฉันมีอะไรอยากจะบอกเธอน่ะ” ผมเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยต่อ “ฉัน...มีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
“จะขอเลิกกับเราใช่มั้ย?”
“...” ผมเงียบ
“ขอโทษเถอะนะ คิดว่าคนอย่างเราคบใครแล้วเลิกง่ายๆแบบนี้หรอ? เหอะ! ยัยนั่นมันมีอะไรที่เราไม่มีนายถึงไปชอบ นายอยากได้อะไรก็บอกสิ เราหามาให้ได้ทุกอย่าง”
“...”
“ถ้านายไม่ชอบเราแล้วจะมาตกลงคบกับฉันทำไม!?”
“...”
“...”
“เพราะฉันคิดว่าถ้ามีแฟนแล้วอาจทำให้ฉันเลิกคิดถึงคนๆนั้นไง! แต่มันไม่ใช่ ฉันไม่มีความสุขเลยเวลาต้องมาอยู่ต่อหน้าเธอ”
“...”
“แล้วก็อย่ามาพูดว่าจะหาอะไรมาให้ฉันอีกนะ ฉันไม่ชอบ! ฉันไม่ใช่แมงดานะเว้ยถึงต้องมาคอยขอให้ผู้หญิงซื้อของให้แบบนั้น!”
“ฮึก..”
“ขอโทษนะที่ต้องพูดแบบนี้ เราเลิกกันเถอะ”
ผมเดินออกมาโดยไม่หันไปดูเลยว่ามินอาจะร้องไห้หนักมากแค่ไหน ใครจะมองว่าผมมันเห็นแก่ตัวก็ช่าง แต่ผมรู้แค่ว่ามันสบายใจมากขึ้นที่ไม่ต้องมาทนอยู่กับอะไรแบบนั้น ในเมื่อมันไม่ใช่ ยังไงก็คือไม่ใช่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in