“ปัง! อึบ! ปัง! ปัง! ปัง! เหวี่ยง! ปัง! อึบ! ปัง!”
เสียงตะโกนของรุ่นพี่ดังขึ้นโดยรอบ ผมเองก็เดินผ่านแถวยิมพอดี หลีดของโรงเรียนยังคงซ้อมอยู่ พี่อี้ชิงรุ่นพี่ของผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ถัดออกมาอีกนิดเป็นเฮียคริส หลังจากที่มีการรวมสายรหัสเป็นที่เรียบร้อย ผมกับรุ่นพี่ก็สนืทกันขึ้นทุกวัน แต่ไม่ใช่พี่อี้ชิงนะ เป็นเฮียคริสแทนตามประสาผู้ชายอ่ะนะ ลู่หานเองก็ดูสนิทกับพี่อี้ชิงพอสมควร
นี่ก็ใกล้งานกีฬาสีของโรงเรียนมากแล้ว ห้องของผมรับหน้าที่กองเชียร์ ดูแลทั้งเรื่องสแตนเชียร์ เรื่องหลีด เป็นงานหนักพอสมควรสำหรับเด็กมอสี่อย่างพวกผม ผมเองไม่ได้ยุ่งเท่าพวกสาวๆเพราะเป็นนักกีฬาวิ่ง วันๆเอาแต่ซ้อมอย่างเดียว บางวันก็มานั่งอยู่ที่กองเชียร์ของสี ลืมบอกไป สีของผมเป็นสีชมพู มุ้งมิ้งเหลือเกิน แถมยังต้องเสียเงินซื้อเสื้ออีก ก็ดีตรงที่ว่าซื้อเป็นเสื้อรุ่นสกรีนชื่อตัวเองไปเลย
“มานั่งทำไมตรงนี่เซฮุน ไม่ไปซ้อมวิ่งต่อล่ะ หื้ม?” พี่อี้ชิงเดินเข้ามาหา
“พี่อี้อ่ะ ผมเหนื่อยหนิ”
“ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว ฝากน้ำให้น้องเฮียด้วย อันนี้ก็น้อง” พี่คริสยื่นน้ำชาเย็นเจี๊ยบให้ผมสองขวด
“โอเคเฮีย งั้นไปก่อนนะครับ”
ผมลุกมายืดเส้นยืดสายก่อนจะออกตัววิ่ง ผ่านกองเชียร์ทุกสีมายังสีของตัวเอง ผมเห็นลู่หานยืนเต้นอยู่กับน้องๆประถม ผมหางม้าของเธอสะบัดไปมา มีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าหวานชวนน่ามอง
“ลู่!”
“อ้าวลุง มีไรอ่ะ”
“พี่คริสให้เอานี่มาให้” ผมยื่นน้ำให้เธอ “เฮียฝากเราเอามาให้ลู่อ่ะ”
“ขอบจะ...”
“เซฮุน! เราตามหานายแทบแย่ มีคนจะสารภาพรักอ่ะ มานี่ๆ” โบรัมตะโกนขึ้นและลากผมออกไป นี่ผมยังไม่ทันได้พักเลยนะ แถมลู่หานก็ดูเหมือนจะพูดอะไรศักอย่างกับผมด้วย ยัยนี่ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย
ผมโดนลากมาที่ห้องซึ่งมีแค่มินอาอยู่คนเดียว ผมเดินเข้าไปตามแรงดันจากโบรัม สถานการณ์ดูอึดอัดยังไงชอบกล ผมเดินไปหยุดตรงหน้าเธอพร้อมใบหน้าที่มีแต่ความสงสัยและความอยากรู้
“มีอะไรกับฉันหรอมินอา?”
“คือว่า... เราชอบเซฮุนมานานแล้วนะชอบมาตั้งแต่อยู่มอสาม ชอบมากด้วย ช่วยรับรักเราด้วยนะ” ผมยืนนิ่ง ผมจ้องดวงตาคู่ตรงหน้า ความอ้อนวอน ขอร้องอยู่ในดวงตาคู่นั้น และผมก็คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้จึงตอบตกลงไปแบบนั้น...
วันนี้ไม่เหมือนวันก่อนๆที่ผมเคยทำ ผมต้องเดินไปส่งมินอาที่รถรับ-ส่งนักเรียนที่เธอขึ้น ผมต้องเดินไปซื้อขนมเป็นเพื่อนเธอ ผมไม่ได้มองเพื่อนคนนั้นของผม ผมไม่ได้ทักเพื่อนคนนั้นก่อนกลับบ้าน ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่เคยทำกับเธอคนนั้น เหมือนมีอะไรขาดหายไปกับการมีแฟนคนแรกของผม
มินอาเป็นผู้หญิงร่างเล็กที่ตัวเล็กกว่าลู่หานและเจ้าเนื้อกว่า เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีทีเดียวเลยล่ะ เรียนเก่ง พูดจาไพเราะน่าฟัง เป็นลูกนายกในท้องถิ่นนี้ ตอนนี้ผมยังไม่เห็นข้อเสียของผู้หญิงคนนี้เลย ผมกับเธออาจจะคบกันได้นานกว่าที่ผมคิด
“เรากลับก่อนนะเซฮุน คืนนี้เราจะทักไปหานะ”
“อืม บาย” ผมยิ้มให้เธอก่อนจะเดินออกมา
พอกลับมาถึงบ้าน ผมทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนเพื่อที่จะได้เล่นเกมส์และแม่จะได้ไม่ตามมาบนทีหลัง ทันทีที่ผมออนเท่านั้นแหละ ไอ่เพื่อนๆของผมก็กระหน่ำคำถามใส่ผมเรื่องที่ผมเป็นแฟนกับมินอา
มึงไปเป็นแฟนกันตอนไหนวะ?
รีบเล่าให้พวกกูฟังเลยไอ่ฮุน
มึงแน่ใจนะ ที่เป็นแฟนกับมินอาน่ะ
.
.
แล้วลู่หานที่พวกกูเชียร์ล่ะ มึงเอาเค้าไปไว้ไหนวะ?
นั้นสินะ ผมเอาลู่หานไปไว้ที่ไหนกัน...
ผมมาโรงเรียนในเช้าวันใหม่ พอผมวางกระเป๋าปุ๊บ เหล่าเพื่อนผมก็ล้อมผมไว้พร้อมคำถาม ราวกับว่าดารากับกลุ่มนักข่าว จงอินและจงแดไม่เห็นด้วยที่สุดในการมีแฟนของผม มันไม่แปลกตรงไหนหนิ
“ลู่หานรู้มั้ยเรื่องที่มึงเป็นแฟนกับมินอา?” จงอินถามขึ้น
“รู้มั้ง กูไม่รู้”
“กูอยากเตะก้างคอมึงจริงๆ ไอ่ฮุน”
“นี่หลบไปหน่อยได้มั้ย มายืนมุงอะไรกันตรงนี้เนี่ย” บุคคลมาใหม่ทำให้พวกผมเงียบกันโดยไม่ได้นัดหมาย ลู่หานยืนเท้าสะเอวรอให้ฝูงชนสลายตัวไปจากที่นั่งของเธอ ก่อนจะวางกระเป๋าลงและไม่ลืมยิ้มให้ผมน้อยๆก่อนจะเดินไปที่อื่น จะรู้เรื่องผมรึยังนะ
ระหว่างนั่งเรียนในห้อง ผมก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไรจากลู่หาน เธอยังยิ้มและคุยกับผมเหมือนปกติแต่มันเริ่มมีระยะห่างระหว่างเราเพิ่มขึ้น ทีละนิดๆ ไม่ใช่แค่ผมที่รู้สึก เหล่าเพื่อนของผมก็ด้วย
สองอาทิตย์ถัดมา งานกีฬาสีถูกจัดขึ้น ห้องของพวกผมต้องตื่นมาแต่เช้าเพื่อดูความเรียบร้อยอีกครั้ง มีบางส่วนที่ไปดูแลความเรียบร้อยของขบวน ผมเองถูกมินอาติดแจ แทบจะไปไหนไม่ได้ถึงได้ก็ต้องไปกันเป็นปาท่องโก๋ และแน่นนอน ผมไม่มีโอกาสได้ทักทายลู่หานเลย ลู่หานเองเอาแต่เดินดูความเรียบร้อยช่วยคนอื่นๆ
น้องๆประถมเริ่มทยอยเข้ามาที่เต็นต์เพื่อมาร่วมกิจกรรมและมาดูขบวนพาเหรดที่กำลังจะมา เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆทำให้ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของผมบ่นออกมาเพราะรำคาญ ผิดกับอีกคนที่กำลังเต้นไปเต้นมาอยู่กับเด็กๆอย่างร่าเริง วันนี้ลู่หานถักเปียมาด้วยหล่ะ เหมือนตอนประถมเลย
“เซฮุน”
“เซฮุนคะ”
“โอเซฮุน!”
“ครับ มินอามีอะไรรึเปล่า เรียกฉันเสียงดังเชียว”
“ก็เซฮุนเอาแต่เหม่อหนิ เราเรียกเซฮุนตั้งหลายรอบแล้วนะ”
“ลุงงงง เตรียมแข่งวิ่งงงง” ลู่หานวิ่งมาพร้อมกับการแหกปากเรียกผมผ่านเสียงกลองดังๆที่กำลังตีอย่างเมามันส์
“โอเค ฉันไปก่อนนะ”
“ให้มินอาไปส่งข้างสนามมั้ยคะ”
“เร็วๆลู๊งงงงง เค้าจะแข่งกันแล้ว” ลู่หานกวักมือเรียกผมยิกๆ ทำให้ผมรีบลุกวิ่งไปหาอีกคนโดยทิ้งมินอาให้นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวเพื่อนของเธอคงมานั่งเป็นเพื่อน
“มัวแต่จีบกันอยู่นั้นแหละ ลำบากฉันนะรู้มั้ย” สาวผมเปียบ่น
“หึงเราอ่ะดิ”
“บ้า ใครจะไปหึงลุงกัน มินอาแฟนลุงสิจะหึงอ่ะ”
“นั้นสินะ งั้นก่อนแข่งขอรางวัลหน่อยดิลู่”
“แข่งให้ชนะก่อนเหอะลุง” มือเล็กๆดันหลังผมให้ไปรายงานตัวก่อนแข่ง “สู้ๆนะลุงงง”
ให้ทายว่าผมชนะมั้ย?
ได้ที่หนึ่งครับทุกคน เย้ๆๆ ตอนนี้ผมกำลังไปขอรางวัลจากลู่หานตามที่บอกไว้ก่อนแข่ง กิจกรรมจบลงพร้อมรางวัลมากมายกายกอง ตอนเย็นพวกเราช่วยกันเก็บทำความสะอาดเต็นต์ มินอากลับไปก่อนแล้ว เห็นบ่นว่าเหนื่อย เท่าที่ผมเห็นนะ มินอาเอาแต่นั่งอยู่ในร่ม ไม่เห็นจะได้ทำอะไรตรงไหนเลย
“ทุกคน มาถ่ายรูปกัน” จุนมยอนตะโกนเรียกเพื่อนๆในห้องให้มารวมตัวกัน บันทึกเป็นภาพความทรงจำที่ได้ทำอะไรร่วมกัน
“นี่ ลู่หาน รางวัลอ่ะ”
“ทวงกันมาตั้งแต่บ่ายแล้ว ไม่เบื่อรึไงลุง”
“ก็อยากได้รางวัลหนิ จากลู่เรายิ่งอยากได้”
“พูดจาอะไรเห็นใจแฟนลุงด้วย เดี๋ยวฉันก็โดนแฟนลุงแหกอกเอาหรอก” ลู่หานพูด มือเล็กดึงโบว์สีชมพูลายดอกซากุระยื่นให้ “อ่ะ รางวัล มีแค่นี้จริงๆ”
“ชอบอ่ะ ขอบใจสำหรับรางวัลนะ”
ฟอด
“ไอ่ลุงเซฮุน!!!”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in