“พี่ขอโทษนะที่ต้องมารบกวนเวลาพักของน้องๆ แต่ที่พี่มาในวันนี้ เพื่อที่ว่าเราจะมาจับสายรหัสกัน” เสียงฮือฮาเกิดขึ้น ผมเองก็เพิ่งตื่นจากการนอนในคาบเคมี พี่ๆมอหกสายหนึ่งยืนอยู่กันรอบห้องจนเต็มพื้นที่ไปหมด ข้างหลังผมก็เป็นพี่ผู้ชาย แล้วเพื่อนหายไปไหนกันหมด
“ตาน้องแล้ว” พี่คนหนึ่งสะกิดผม ผมลุกออกไปที่หน้าห้อง พี่เค้าบอกให้ผมจับฉลากแล้วก็แนะนำตัว บอกโค้ดที่ผมจับได้
“ผมชื่อโอเซฮุน ได้โค้ด... พี่ชื่อกระต่ายมีลักยิ้ม?”
“คนต่อไป”
“หนูชื่อลู่หาน ได้โค้ดว่า... พี่หล่อๆ พี่หล่อ พี่น่าตาดีๆ พี่หล่อๆ”
“เฮ้ย!น้อง พี่รหัสฝากพี่มาบอกว่า พี่รหัสน้องกับของน้องคนก่อนหน้าอ่ะเป็นแฟนกันนะเว้ย” พี่ผู้ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้น ผมนี่อึ้งเลยครับ
ใครก็ได้บอกผมทีว่าผมกับลู่หานได้พี่รหัสที่เป็นแฟนกัน บังเอิญเกินไปแล้ว ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะเสร็จ เวลาพักหมดลงพอดี ผมคงต้องหิ้วท้องไปจนกว่าจะถึงเย็น แต่โชคดีที่ครูคาบต่อไปให้เวลาอีกยี่สิบนาทีไปพัก ผมก็เลยลงไปซื้อนมกับขนมปังมากินเพราะคิดว่าน่าจะอิ่มที่สุด
การเรียนจบลงไปอีกวันพร้อมการบ้านอีกตามเคย ผมเดินออกมารอรถที่ท่ารถประจำทาง เสียงเจี๊ยวจ๊าวทางขวามือดังขึ้นพร้อมผู้หญิงสองคนกับผู้ชายอีกหญิง ถ้าผมมองไม่ผิดคงจะเป็นลู่หานกับแบคฮยอนแต่ผู้ชายที่เดินตามมาข้างหลังผมไม่รู้จัก
“โอ๊ะ! ลู๊งงงงงง ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ” เธอเห็นผมด้วย
“รอรถ แล้วลู่จะไปไหนกัน”
“อ๋อ ไปเรียนพิเศษอ่ะ” เธอบอก “ไปก่อนนะลุง บ๊ายบาย” ลู่หานโบกมือให้ผมพร้อมรอยยิ้ม ผมโบกมือตอบแต่เธอหันกลับไปก่อน น่าเสียดาย
ผมกลับมาถึงบ้านในเวลาต่อมา แม่ยังคงเฝ้าอยู่หน้าร้านกับป้าๆเช่นเดิม การบงการบ้านเอาไว้ก่อน ตอนนี้ผมต้องออนเฟสและเล่นเกมส์ ไหนๆวันนี้ก็วันศุกร์แล้วหนินะ
ขณะที่ผมกำลังรัวเกมส์อย่างเมามันส์ เสียงแจ้งเตือนจากเฟสดังขึ้น พร้อมข้อความจากคนแปลกหน้า
คริสฟ้อหล่อเฟี้ยว
ผมอ่านข้อความที่ถูกส่งมา ผมจะเล่าคราวๆให้ฟังแล้วกันนะ เจ้าของข้อความที่ส่งมาถึงผมเป็นพี่รหัสของลู่หาน เขาบอกผมว่าห้ามบอกเธอเด็ดขาด ผมเองก็เออออไปตามน้ำ และพี่เค้าก็ให้คำใบ้เพิ่มเกี่ยวกับพี่รหัสของผม เขาบอกแค่ว่า
‘ถ้าเจอพี่ที่ไหน น้องก็จะเจอพี่รหัสน้องที่นั้น’
เรื่องที่จะเจอกับพี่คริสมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกนะ แต่ผมยังไม่เคยเห็นหน้าพี่เค้าเลยน่ะสิ ดูจากทามไลน์ในโปรแกรมสีน้ำเงินเข้มแล้ว ผมรู้ได้เลยว่าพี่เค้าเพิ่งเปิดเฟสมาใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แถมรูปโปรไฟล์ยังเป็นการ์ตูนตัวอัลปาก้าอีกต่างหาก
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาเช้ากว่าที่เคยจะเป็นเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องสายรหัส พอส่องกระจกเห็นหน้าของตัวเองก็ผงะไปนิดนึง ใต้ตาบวมคล้ำจากการอดหลับอดนอน ผมคิดมากเรื่องนี้เกินไปแล้ว
“มึงไปอดหลับอดนอนจากไหนมาวะ ตาหยั่งกะหมีแพนด้า” จงอินทักขึ้นเมื่อผมก้าวเข้ามาในห้อง
“เล่นเกมส์ดึกไปหน่-”
“จงอิน ยืมวิชาฟิสิกส์หน่อยสิ” ลู่หานเดินมาหน้าตาตื่น “เหลืออีกสามข้อเอง ขอยืมหน่อยได้มั้ย”
“ลู่ยืมเราป่ะ” ผมพูดออกไป อันที่จริงผมก็ค้างอีกไม่กี่ข้อเหมือนเธอนั้นแหละ โม้ไว้ก่อนแล้วกัน
“ไหนลุงเอามาดูดิ๊” เธอแบมือรอสมุด ผมค้นเอาสมุดวิชาฟิสิกส์ยื่นให้เธออย่างเต็มใจ ลู่หานรับไปเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา “มันก็ค้างเท่ากันอ่ะ ลุงขี้โม้ จงอิน ยืมหน่อยนะ นะๆๆๆๆ”
จงอินยิ้ม มันหยิบสมุดการบ้านส่งให้เธอ ผมเองก็ยังไม่เสร็จก็ต้องไปขอลอกชาวบ้านเค้าเอา ด้วยฝีมือการลอกของผมทำให้เสร็จภายในไม่กี่นาที ผิดกับลู่หานที่นั่งลอกอยู่พร้อมบ่นเวนดี้ที่เอาแต่เดินไปเดินมาเพื่อแต่งหน้าให้เป๊ะก่อนไปเข้าแถว
ผมเบนความสนใจไปทางกลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งคุยเกี่ยวกับฟุตบอลแมทช์เมื่อคืนนี้ แจ็คสันคุยอย่างออกรสเกี่ยวกับทีมในดวงใจของตน มาร์คเองก็โต้กลับในทีมโปรดของตน ผมนั่งฟังอยู่เงียบๆไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร เพราะไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่
“ไอ่ฮุน กูไม่กระจ่างเรื่องมึงกับสาวแว่นนะ” จู่ๆคนที่ผมไม่อยากเจอหน้าก็มาจ้ะเอ๋อยู่ตรงหน้า ประโยคสั้นๆกล่าวเป็นประเด็นร้อนในกลุ่มไปในทันที
“มึงไปรู้อะไรมาไอ่ยองโฮ”
“ก็เรื่องไอ่ฮุนกับลู่หานอ่ะดิ”
“กูบอกแล้วไงว่าเพื่อนกัน มึงจะอะไรกับกูนักหนาวะ”
“ถ้ากูเชื่อมึงก็โง่ละ คนอย่างมึงพูดแทนตัวเองว่าฉันกับคนอื่นที่ไม่สนิทตลอด ลู่หานก็ไม่ได้สนิทอะไรกับมึงขนาดนั้น แต่มึงแทนตัวมึงว่าเรา มันดูพิเศษกว่าคนอื่น”
มันก็จริงอย่างที่ไอ่ยองโฮพูด แต่เพราะเหตุผลที่ผมเคยบอกคุณไปแล้ว ทำให้ผมไม่กล้าที่จะเปิดเผย เราสองคนยังต้องอยู่ด้วยกันไปอีกสองปีต่อจากนี้ ผมไม่อยากให้ความสัมพันธ์อันน้อยนิดของผมและเธอต้องอยู่ในภาวะติดลบ
“กล้าๆหน่อยดิวะไอ่ฮุน กูว่าคนนี้โอเคเลยสำหรับมึง” จงอินเชียร์
“ช่าย กูเห็นด้วย ลู่หานสวยจะตายไป” จงแดเสริม
พวกมึงถามเค้าก่อนมั้ยว่าชอบผมรึเปล่า?
ภายในเย็นวันนั้น ครูประจำชั้นของพวกเรามีการจับฉลากเลือกที่นั่งใหม่ เพราะมีครูที่เข้ามาสอนหลายท่านบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเราพูดมาก แน่นอนว่าไม่มีใครยอมย้าย ผมรู้สึกเหมือนเพื่อนในห้องกำลังทำสงครามน้ำลายกับครูอยู่
ครูบอกว่าเราจะต้องอยู่ด้วยกันแบบประชาธิปไตย ยอมรับเสียงข้างมาก แต่ตอนนี้ครูกำลังใช้ระบบคอมมิวนิสต์ ผมทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วเลยเก็บกระเป๋าและขนหนังสือใต้โต๊ะขึ้นมาวางเตรียมไว้
ลู่หานเองก็ไม่ได้ซีเรียสกับการย้ายที่ เธอนั่งมองคนอื่นเหมือนที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ ผมภาวนาขอให้ได้นั่งใกล้ๆกับเธอทีเถอะ สาธุ!
การจับฉลากเป็นไปด้วยความลุ้นระทึก ผมเองก็ลุ้น ผมรอจับเป็นคนท้ายๆ โต๊ะส่วนใหญ่ในบริเวรโซนหน้าถูกจับจองเกือบจะเต็มแล้ว แต่มีที่ข้างลู่หานที่ยังว่างอยู่ ตอนนี้จงอินกำลังจับ เขาได้เบอร์สามแปด ซึ่งมันไม่ใช่โต๊ะเบอร์เจ็ดที่ผมกำลังหมายตา
พอถึงตาผม ผมควานมือไปมาสามทีและหยิบฉลากขึ้นมา ขอให้ได้เบอร์เจ็ดเถอะนะ
“เชรด!” ผมได้เบอร์เจ็ดครับ ผมได้เบอร์เจ็ด
ผมวางฉลากคืน เดินไปเอากระเป๋าและหนังสือมายังโต๊ะใหม่ ข้างๆผมเป็นจีมิน สาวผมบ๊อบอกสะบึ้ม และอีกข้างเป็นลู่หาน
“ได้นั่งกะไอ่ฮุนเนี่ยนะ ฉันขอแลกที่ได้มั้ย” เจ๊นมโตบ่น
“พูดมากๆ แค่เดือนเดียวเอง”
“งั้นนายมานั่งที่ฉันได้ม่ะ นั่งข้างลูลู่ก็ยังดี”
“ไม่อ่ะ” ผมตอบทันที นานๆครั้งจะได้มีโอกาสนั่งใกล้กัน คิดๆดูแล้วนะ ผมจะได้นั่งอยู่ใกล้ๆเธอแค่หกแสนสามหมื่นสามพันหกร้อยวินาที ทุกวินาทีมีค่ามากสำหรับผม
จีมินเบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์ ผมเองก็ได้แต่นั่งลอยหน้าลอยตา มีความสุขจริงๆ
“ฉันดวงตกแน่เลยอ่ะถ้านั่งข้างลุง”
“ทำไมพูดงี้อ่ะลู่ เดี๋ยวแว่นแตกๆ”
“หยาบคาย! เดี๋ยวแม่เอาคัตเตอร์แทงแผลให้” มือเล็กหยิบคัตเตอร์ขึ้นมาเล็งที่แผลของผม นอกจากจะบ้าอปป้ามากแล้ว ยังเป็นโรคจิตอีก ยัยตัวเล็กเอ๊ย!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in