'อิมชางกยุน' คิดว่าชีวิตของเขาไม่เหมือนเบลล์ ตัวเอกในนิทานเรื่อง beauty and the beast ที่แม่ชอบเล่าให้ฟังแทบทุกคืนก่อนนอนเมื่อตอนยังเด็กๆหรอก
พ่อของเขาไม่ได้เป็นพ่อค้า แม่ของเขายังไม่ตาย บ้านของเขาไม่เฉียดคำว่ายากจนเลยสักนิด ตัวเขาเองก็ไม่ได้ชอบดอกกุหลาบสีแดง และที่สำคัญที่สุดมากกว่าทุกเรื่องที่กล่าวมา เขาไม่ได้เต็มใจที่จะเข้ามาอยู่ในปราสาทหลังใหญ่นี่เลยแม้แต่น้อย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชางกยุนรู้สึกว่าเขาช่างไม่ต่างอะไรกับเบลล์นั่นคือการที่ถูกกักขังให้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอสูรที่น่าเกลียดน่ากลัว
เปล่าเลย หน้าตาของ 'แชฮยองวอน' ไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวเหมือนกับอสูรหรอก แต่มันคือจิตใจของผู้ชายคนนั้นต่างหากที่ทำให้เขารู้สึกกลัวทุกครั้งที่ต้องเข้าใกล้
"จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?"
"ผมคิดว่าผมยืนอยู่ตรงนี้น่าจะสบายใจกว่าครับ"
"อิมชางกยุน"
"..."
"ถ้าฉันต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหานาย รับรองได้เลยว่าฉันจะไม่หยุดที่เต้นรำกับนายเฉยๆเหมือนทุกๆคืนแน่"
ถ้าเป็นเมื่อ 3 เดือนก่อนชางกยุนคงยืนนิ่ง ไม่หือไม่อือกับคำสั่งที่ได้รับจากผู้ชายตรงหน้า เผลอๆอาจจะกวนประสาทอีกฝ่ายด้วยการเดินหนีออกจากห้องโถงใหญ่ที่มีเพียงพวกเขาสองคนไปเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่ใช่กับตอนนี้ ตอนเขาเรียนรู้แล้วว่านั่นไม่ใช่แค่คำขู่
ฮยองวอนพูดจริงทำจริงเสมอ
ฝ่ามือแกร่งนั่นไม่ได้หงายขึ้นเพื่อรอให้เขาวางมือลงไปทาบทับอย่างที่เจ้าชายในนิทานมักจะทำเพื่อขอเต้นรำกับหญิงที่ตนหลงรัก หากแต่มันกลับพุ่งมากระชากข้อมือเขาอย่างแรงจนร่างทั้งร่างกระเด็นเข้าสู่อ้อมอกของเจ้าของแรงกระชากนั่นเต็มรัก
"คุณมันเอาแต่ใจ ถอยออกไปหน่อยผมอึดอัด"
"ฉันไม่ยักรู้ว่านายมีสิทธิ์ออกคำสั่งกับฉันตั้งแต่เมื่อไหร่"
"คุณ... อ๊ะ นี่! ใกล้ขนาดนี้ผมจะขยับตัวได้ยังไง"
"..."
"นี่คุณ ฟังผมอยู่หรือเปล่า ขยับออกไป-"
"เงียบสักที นายกำลังทำให้ฉันพลาดท่อนโปรดของเพลงนี้"
ชางกยุนถอนหายใจหนักๆจงใจให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่ทำไปก็เท่านั้นแหละ ฮยองวอนไม่เคยสนใจหรอกว่าเขากำลังไม่พอใจ หมอนั่นสนใจแค่ตัวเองเท่านั้นแหละ เขาทำได้เพียงขยับตัวไปตามการชักนำของอีกฝ่ายเงียบๆอย่างในทุกๆคืน
ตั้งแต่ชางกยุนโดนบังคับให้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลใดก็ไม่มีใครยอมปริปากบอกอะไรเขาสักคำ เขาถูกบังคับให้เต้นรำคู่กับแชฮยองวอนผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ทุกคืน ย้ำว่าทุกคืน แล้วเขาก็ไม่เคยเต็มใจทำมันเลยสักคืนเดียว
วันที่ทุกคนเดินทางมาส่งเขา แม่บอกเพียงแค่ว่าอยู่ที่นี่เขาจะมีชีวิตที่ดี จะมีความสุข จากนั้นทุกคนก็หันหลังเดินทางกลับไปโดยที่ไม่เหลียวมามองเขาที่ยืนน้ำตานองอยู่หน้าประตูบานใหญ่ของคฤหาสน์หลังนี้อีกเลย
เหอะ ไหนล่ะความสุขที่แม่ว่า นี่ผ่านมาแล้วถึง 3 เดือนตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่พาเขามาทิ้งไว้ที่นี่เขายังไม่เคยรู้สึกได้ถึงความสุขที่ว่านั่นเลยสักครั้ง
"ทำไมถึงขยับแบบนั้น เท้าเป็นอะไร?"
ชางกยุนหลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนสูงกว่า
คิ้วเรียวสวยบนใบหน้าคมนั่นขมวดมุ่น แววตาเฉยเมยต่อทุกสิ่งนั่นทำให้ชางกยุนไม่เคยเดาออกเลยว่าเจ้าของๆมันกำลังคิดอะไรอยู่
"เปล่าครับ ไม่ได้เป็นอะไร รีบๆเต้นให้เสร็จกันเถอะผมง่วงละ- โอ้ย!"
"ฉันถามว่าเท้าเป็นอะไร?"
"ผมจะเป็นไรแล้วมันใช่เรื่องที่คุณต้องมาเหยียบเท้าผมเสียเต็มแรงไหม!?"
"คนอย่างนายน่ะ ปริปากถามดีๆคงไม่ยอมตอบ"
"คุณนี่มัน...หึ่ย!"
ชางกยุนสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของคนตรงหน้า แล้วพาตัวเองมานั่งพักที่โซฟามุมห้องโถง มือเล็กบรรจงถอดรองเท้าหนังออกช้าๆ กัดปากกลั้นเสียงร้องด้วยความเจ็บจนกลัวว่าปากจะช้ำไปอีกที่ เขาเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ผู้ชายคนนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้ เขาจะเป็นอะไรก็แค่ปล่อยเขาไว้เฉยๆไม่ต้องมายุ่งไม่ได้หรือไง
ฮยองวอนเดินตามมาดูคนตัวเล็กที่นั่งลูบไล้หลังเท้าของตัวเองด้วยความเจ็บปวดอยู่บนโซฟา รอยแดงอาบทั่วทั้งเท้าเล็กๆนั่นไม่ใช่เพราะแรงกดจากเท้าของเขาที่ใช้ทดสอบสิ่งที่สงสัยไปเมื่อกี้แน่ๆ เขาเพียงแค่กดแรงลงไปเบาๆไม่มีทางที่ชางกยุนจะเจ็บจนร้องออกมาดังลั่นขนาดนั้นได้ ไหนจะท่าทางที่ขยับเก้ๆกังๆตั้งแต่เริ่มเต้นนั่นอีก นอกเสียจากว่าจะเจ็บมาก่อนอยู่แล้วแต่ไม่ยอมปริปากบอก
"สรุปว่าเป็นอะไร? แดงขนาดนั้นคงไม่ใช่เพราะฉันทั้งหมดหรอกมั้ง"
"ชั่งมันเถอะเดี๋ยวคงหาย แต่คืนนี้ผมขอพักได้ไหม ผมคงเต้นกับคุณไม่ไหวแล้ว"
"เพราะรองเท้าที่ตัดใหม่วันก่อนนั่นใช่ไหม?"
"..."
"ทำไมไม่บอก?"
"จะบอกให้ได้อะไรขึ้นมา คุณเคยสนใจด้วยหรือไง?"
"..."
"ผมบอกว่ายังไม่อยากเปลี่ยน คุณก็ยังให้ช่างมาวัดเท้าผม ตัดรองเท้าคู่ใหม่มาให้ผมแล้วเอารองเท้าคู่เก่าของผมไปทิ้งที่ไหนก็ไม่รู้ นั่นมันรองเท้าที่แม่ผมตัดให้นะ!"
"..."
"ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ทุกเรื่องที่ผมบอกคุณไม่เคยสนใจเลยว่าผมต้องการหรือไม่ต้องการ คุณก็ทำตามความต้องการของคุณอยู่ดี"
"ทีนี้จะปล่อยผมไปพักได้หรือยัง?"
"นายเต้นรำกับฉันยังไม่จบเพลง ฉันไม่อนุญาตให้นายไปพักตอนนี้"
"นี่คุณ! สาบานสิว่าคุณไม่เห็นรอยแดงนี่บนเท้าผม"
"ฉันไม่ได้ตาบอด"
"ถูก เพราะตาทั้งสองข้างของคุณยังใช้การได้ดี ดังนั้นคุณควรปล่อยให้ผมไปพัก เพราะ ผม เต้น ต่อ ไป ไม่ ไหว แล้ว!"
ฮยองวอนไม่สนใจเสียงตะโกนแง้วๆเหมือนลูกแมวหิวนมนั่น เขานั่งลงบนโซฟาข้างๆอีกคนแล้วถอดรองเท้าทั้งสองข้างของตัวเองออกก่อนจะลุกไปคุกเข่าตรงหน้าลูกแมวจอมดื้อแล้วบรรจงถอดรองเท้าอีกข้างที่ยังอยู่บนเท้าเล็กๆนั่นออกเช่นกัน
"นั่นคุณจะทำอะไร"
"..."
"นี่! ปล่อยผมนะ จะอุ้มผมไปไหน!?"
"อยู่เงียบๆบ้างได้ไหม ฉันล่ะสงสารกล่องเสียงของนายจริงๆ"
"คุณก็ปล่อยผมสิ!"
"ก็จะปล่อยอยู่นี่ไง จะหยุดโวยวายได้หรือยัง?"
ฮยองวอนวางคนที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขาลงกลางห้องโถงใหญ่ หากแต่ไม่ได้วางลงบนพื้นอย่างที่เจ้าตัวต้องการ เขาวางเท้าเล็กๆทั้งสองข้างลงบนหลังเท้าที่ใหญ่ของเขาแทน แขนแกร่งกระชับเอวบางเข้าหาตัวเพื่อกันลูกแมวจอมดื้อกระโดดหนีไป ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดจนไร้ช่องว่าง คางเล็กๆนั่นแทบเกยอยู่บนอกแกร่งทันทีที่เจ้าของมันเงยหน้าขึ้นมามองเขา
ชางกยุนก้มหน้างุดซ่อนแก้มที่เริ่มขึ้นสีและแววตาขลาดเขิน
"คุณจะทำอะไร ปล่อยผมนะ มะ มันใกล้เกินไป"
"นายต้องเต้นรำกับฉันจนกว่าเพลงจะจบ จบเหมือนทุกๆคืน เพราะฉันไม่ชอบหยุดเต้นกลางคัน ถ้าเท้านายเจ็บจนขยับไม่ไหวก็ยืนบนเท้าฉัน ฉันจะขยับเอง นายแค่อยู่นิ่งๆไม่ทำตัวต่อต้านก็พอ"
"ตะ แต่-"
"ชู่ว เงียบได้แล้ว ฉันจะฟังเพลง"
ลมที่ผ่อนออกมาเบาๆจากริมฝีปากหนาๆนั่นทำเอาหัวใจชางกยุนาสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นี่มันบ้าอะไร ฮยองวอนเป็นบ้าไปแล้วหรือไง ทำไมถึงได้...
ชางกยุนยอมเต้นรำต่อโดนไม่ค้านอะไรอีก จริงๆเขาเพียงแค่ยืนเฉยๆปล่อยให้ฮยองวอนขยับตัวไปตามจังหวะเพลง แขนแกร่งที่โอบประคองอยู่ที่เอวทำเอาเขาไม่กล้าหายใจแรงๆ แถมยังรู้สึกได้ถึงริมฝีปากหนาที่เฉียดหน้าผากไปมาอย่างแผ่วเบาทำให้เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองอีกคนว่ากำลังทำหน้ายังไงอยู่ นี่มันใกล้เกินไป ใกล้เกินไปแล้ว
หลังจากเต้นรำจนจบเพลงฮยองวอนก็ยังไม่ยอมปล่อยให้เขาได้เป็นอิสระ หมอนั่นอุ้มเขามาส่งถึงห้องนอน บรรจงวางเขาลงบนเตียงราวกับว่าทะนุถนอมเขานักหนา แถมยังทิ้งท้ายประโยคที่ทำให้เขานอนตาค้าง หลับไม่ลงตลอดทั้งคืน
"ฉันทำทุกอย่างก็เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับนาย"
"..."
"รองเท้าคู่เก่านั่นนายใส่จนพื้นมันสึก ฉันกลัวว่าตะปูที่ใช้ตอกส้นรองเท้าจะตำเท้านายเข้าสักวัน ถึงได้สั่งให้ช่างตัดคู่ใหม่มาให้ ถ้านายหัดสังเกตสิ่งรอบตัวบ้างนายจะเห็นกล่องสีแดงในตู้เก็บของของนาย ฉันให้คนเอามันไปทำความสะอาดแล้วเก็บลงกล่องนั่น ไม่ได้เอาทิ้งไปอย่างที่นายกล่าวหา"
"..."
"เพราะฉันรู้ว่ามันสำคัญกับนาย"
"..."
"ทีนี้จะเลิกเข้าใจผิดคิดว่าฉันไม่สนใจได้หรือยัง...หืม เจ้าลูกแมวจอมดื้อของฉัน"
จะมีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เสียงเต้นของหัวใจของเขาดังเบากว่าเสียงเพลงยามที่ต้องเต้นรำด้วยกันอีกในคืนพรุ่งนี้
เพราะชางกยุนกลัวเหลือเกิน กลัวว่าฮยองวอนจะได้ยินเสียงหัวใจไม่รักดีที่มันกำลังเต้นรัวโดยมีสาเหตุมาจากผู้ชายที่เขาตราหน้าว่าเป็นอสูรร้ายคนนั้น
- 끝 -
- Talk -
รวมมาไว้ในนี้ให้อ่านได้ง่ายขึ้นแล้วน้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in