Pairing : #ชนรินทร์ (อ่านว่า ชะ-นะ-ริน)
WARNING : นี่คือฟิคสลับโพของเรือ #แด๊ดดี้ของฮันเบะ หรือ #บุตอม และมีการเล่นประเด็นtransgender ด้วยนิดหน่อย เบาๆ ถ้าไม่โอเคก็รีบปิดฟิคนี้ไปเลย อันนี้แต่งสนองนี๊ดเฉยๆฮะ ;-;
หนึ่งคืนของใครหลายๆ คน มันดูเหมือนจะหมดไปไว รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว
แต่หนึ่งคืนของผม มันช่างแสนยาวนานเหมือนตลอดกาล เมื่อผมได้พบกับ ' เธอ '
ผมนั่งพิงเก้าอี้ ในมือของผมถืือโทรศัพท์ มีเพียงแค่หน้าผมที่สะท้อนออกมา ทุเรศชะมัด.. สิ้นสุดประโยคนี้ ผมก็ยกแก้วดื่มเหล้าในมือ การอกหักมันเป็นเรื่องที่แย่มากๆ มันทำให้เศร้าได้ขนาดนี้เลยหรอ คนเราต้องดื่มเพื่อให้ลืมกันขนาดนี้เลยหรอ เมาและกลับบ้านไปนอนสลบเหมือด ตื่นขึ้นมาเจอกับความจริงอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอ.. ผมอยากจะเลิกทำอะไรแบบนี้แล้ว
เหงาชะมัด..
"ขอโทษนะคะ"
เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมา หลังจากที่เธอเซมาจนต้องใช้ไหล่ของผมเป็นที่ยึดตัวให้เดินได้ทรงตัวอีกครั้ง เสียงของเจ้าหล่อนทำให้ผมตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ในมือของเธอถืออะไรบางอย่าง ผมมองเธอที่นั่งลงบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ เธอดื่มไวน์แดงไปในรวดเดียวจนผมรู้สึกใจหาย เธอคงไม่ต่างกับผมในตอนนี้ เจ็บปวดเหมือนกัน..
ผมมองเธอที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เธอขยับตัวให้สะดวกตัวอยู่บ้างเป็นระยะ สาวชุดดำ กับผมยาวเกือบถึงกลางหลังของเธอ ผมควรจะทำยังไงกับเธอดี ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่น่าดีเท่าไหร่
"บุรินทร์ เมื่อไหร่จะพอซักที"
"เงียบไปเถอะน่า.."
"เธอควรเลิกได้แล้วนะ คบมากี่คนๆ ก็มานั่งแบบนี้เหมือนเดิมตลอด"
"ฉัน..."
"กลับบ้านได้แล้วบุรินทร์"
"อย่าเรียกชื่อนั้นอีกสิ ฉันชื่อยุพินนะ.."
ผมนั่งฟังเสียงของบาร์เทนเดอร์กับสาวคนนั้นกำลังเถียงไปมาอยู่ ผู้หญิงคนนั้นที่ผมเดาว่าชื่อบุรินทร์ ลุกขึ้นเดินออกไปที่ระเบียงข้างนอกของบาร์ ผมลุกขึ้นยืนเพราะผมอยากกลับบ้านแล้ว แต่อีกใจก็บอกให้กลับไปหาผู้หญิงคนนั้น ผมยืนมองเธอที่กำลังเท้าคางก้มมองอะไรสักอย่างในมือ ผมหายใจเข้าลึกๆ และเดินไปหาเธอข้างนอก
บุรินทร์ก้มมองโทรศัพท์ หน้าจอเปื้อนไปด้วยน้ำตา ผมของเธอปิิดบังไม่ให้เห็นว่าตอนนี้เธอทำกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ ผมยืนมองอยู่ห่างๆ ผมไม่รู้ว่าควรจะเรียกเธอด้วยชื่อไหนดี แต่ผมก็ต้องตกใจเมื่อเธอปาโทรศัพท์ลงพื้นและทรุดลงไปนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น ผมไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องทำแบบไหน ผมยืนมองเธอที่กำลังร้องห่มร้องไห้ ผมก้าวขาลงไปนั่งข้างเธอ ก่อนจะเรียกชื่อเธอออกมา
"ยุพิน.."
เจ้าของชื่อค่อยๆ เงยหน้าหันมาหาผม ใจของผมแทบอ่อนฮวบลงไปเมื่อได้เห็นใบหน้าของเธอ ดวงตาของเธอที่เอ่อไปด้วยน้ำตาสบกับดวงตาของผม เธอพุ่งเข้ากอดผมในทันที ผมตกใจที่เธอทำแบบนั้น แต่ในเมื่อสถานการณ์แบบนี้ที่เธอต้องการใครสักคน ผมได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นของเธอ ผมก็ต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ ผมกอดเธอเอาไว้ ผมเข้าใจดีกับสิ่งที่เธอสื่อโดยไม่ต้องพูด
ผมพยุงร่างที่สูงกว่าผมหลายเซนขึ้นมาที่รถของผมเอง หลังจากที่ได้ปลอบกันไปยกใหญ่ ผมขออาสาที่จะไปส่งเธอที่ห้องของเธอเอง ถ้าปล่อยให้เธอกลับคนเดียวคงจะเป็นอันตรายต่อตัวเธอแน่ๆ
"ขอบคุณนะ.."
"ไม่เป็นไรครับ.."
"ชื่ออะไรหรอ"
"อะตอมฮะ"
ผมขับรถออกไป การสนทนาที่เกิดขึ้นบนรถได้เงียบลงไป ต่างคนต่างถามไถ่กันไปเป็นระยะๆ ถึงผมจะฟัังไม่รู้เรื่องว่าเธอพูดอะไร ผมก็ทำเป็นเข้าใจไปก่อน เมื่อไปถึงคอนโดของเธอ ผมก็พยุงเธอขึ้นไปที่ห้องของเธอ มีบางครั้งบางคราวที่ยุพินก่นด่าใครสักคนที่ผมเดาว่าเป็นแฟนของเธอที่พึ่งเลิกไป ผมพาเธอเข้าห้องไปหลังจากที่เธอยื่นคีย์การ์ดให้ผมใช้เข้าห้อง เธอเริ่มมีอาการจะอ้วกออกมาด้วยการส่งเสียง ผมรีบพาเธอไปห้องน้ำในทันที ผมนั่งมองเธอที่กำลังนั่งกอดชักโครกอยู่ ผมหัวเราะอยู่น้อยๆ กับท่าทางของเธอ ผมถือวิสาสะลูบแผ่นหลังของเธอให้เธอปล่อยออกมา ผมก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเธอดึงวิกผมออก ทำให้ผมได้เห็นผมที่แท้จริงของเธอ ผมกดชักโครกและหยิบผ้ามาเช็ดริมฝีปากของเธอ เธอเงยหน้ามามองผม เธอหลับตาลงเหมือนจะหลับกลางอากาศ ผมรีบหยิบสำลีและโทนเนอร์มาเพราะลบเครื่องสำอางค์บนใบหน้าของเจ้าหล่อน
มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าของเธอ ส่วนอีกมือค่อยๆ เช็ดเครื่องสำอางค์ออก นิ่มจัง..
ผมคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยกับใบหน้าของอีกคนในตอนนี้ที่สะอาดเกลี้ยง ผมพยุงเธอขึ้นไปนอนบนเตียง เธอลืมตาขึ้นมา ผมกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่เธอกลับลุกขึ้นนั่งมองหน้าผม
"อะตอม รับได้หรอที่พี่เป็นแบบนี้" เธอถามออกมา ผมเข้าใจดีว่าเธอกำลังเมาอยู่ ผมคลี่ยิ้มออกมา ผมรู้ดีว่าเธอเป็นอะไร
"ครับ แค่พี่เป็นตัวของพี่ ผมก็โอเคแล้ว"
..ผมเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ผมขยับขึ้นไปนั่งบนเตียงใบหน้าผมขยับเข้าไปใกล้กับใบหน้าของเธอ ปลายจมูกของเราชนกันจนสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจของเธอ เราทั้งคู่เงียบกันอยู่นาน ผมขยับมือของตัวเองไปสัมผัสมือของเธอ มือของเรากุมประสานกัน ผมยกมือขึ้นมา และเธอก็ยกมือขึ้นมาทาบกับมือของผม ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาเลย มีแต่เพียงเสียงของลมหายใจและหัวใจที่เต้นระรัวยามเมื่อสบตากัน
"ผมรักพี่นะ"
มันเป็นคำบอกรักที่ผม.. ที่ผมอยากให้เธอได้สบายใจเมื่อตอนนี้เท่านั้น ผมรู้ตัวว่าผมทำอะไร ..
เราทั้งคู่ก็ต่างแตกสลายจนไม่สามารถเอาเศษใจที่เหลือมารักใครได้อีก เหนื่อยเกินพอแล้ว ขอแค่หนึ่งคืนเท่านั้นที่จะไปโอบกอดเพียงกาย แต่ไม่ใช่ใจ
แค่นี้ก็พอแล้ว..
และพรุ่งนี้เช้า เราก็จะหายไป
(จบ.)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in