...
"บันทึกมึนๆ ที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับกีฬา 'ปากัวร์' กีฬาที่ไม่ทำอะไรนอกจากกระโดด เเละปีน
เเละก็กลับมากระโดดใหม่ ถามว่าฝึกไปเเล้วได้อะไร ได้เยอะเลยเเหละ"
...
ตอนที่ 08 : เราล้วนเป็นผลิตผลของสิ่งเเวดล้อม
ความสนุกของปากัวร์ไม่ใช่แค่การกระโดด
แต่เป็นการคิดว่าเราจะเล่นท่าไหนที่เราฝึกมากับสถานที่ไหน ตรงไหนได้บ้าง
เมื่อผมได้ลองย้ายที่ฝึกจากสวนสาทรที่มักไปประจำ ลองไปที่อื่นดู ความท้าทายก็เกิดขึ้นทันที สิ่งหนึ่งที่คนเล่นกีฬานี้จะมีกันหลังฝึกหรือเล่นไปได้สักพักคือชอบมองสิ่งของและสถานที่รอบตัวพร้อมกับจินตนาการว่าเราเล่นท่าอะไรกับมันได้บ้าง เราจะข้ามมันได้อย่างไร
ตอนผมไปเล่นที่สวนลุมแรกๆ บรรดาก้อนหินมีขนาดใหญ่กว่าและเยอะกว่าสวนสาทรหลายเท่า มีระยะแต่ละก้อนที่แตกต่างกัน การฝึกกระโดดที่สวนสาทรแทบไร้ประโยชน์
ผมต้องมาฝึกกระโดดในระยะที่ไกลกว่า แปลกกว่า หินบางก้อนก็มีมุมบิดเบี้ยวไม่เหมือนกัน ต้องเลือกวางเท้าให้ถูก วิ่งให้ถูก ต้องคิดใหม่หมดว่าจะสร้างทางวิ่งอย่างไรตามสไตล์ของตัวเอง
......
กีฬานี้ไม่จำกัดสถานที่
ถ้าผมไปเที่ยวทะเล แค่โขดหินก็สามารถสร้างทางวิ่งใหม่ๆ ได้แล้ว และทุกครั้งที่เดินทางและได้ลองเล่นในสถานที่ใหม่ๆ นอกจากผมจะได้ฝึกทักษะใหม่ๆ แล้ว ก็แทบไม่ต่างจากการเก็บประสบการณ์เลย
อย่างผมฝึกที่สวนสาทรมาเป็นปีๆ พอออกไปนอกสวนเท่านั้นแหละ กล้าๆ กลัวๆ ทั้งๆ ที่ระยะก็เท่ากัน แค่เปลี่ยนสิ่งของหรือสิ่งกีดขวางเท่านั้น
ผมไม่ต่างจากกบในกะลาที่ไม่เคยออกไปเจอโลกกว้างข้างนอก
การได้ออกเดินทาง เดินเล่น คิดทางวิ่งไปเรื่อยๆ ช่วยเสริมทักษะของผม เจอตรงนี้ก็เก็บตรงนี้ บางทีอาจเอาไปใช้กับที่อื่นก็ได้ ทักษะที่ว่าไม่มีวันเรียนรู้ได้หมดหรอกครับ เราล้วนเจอสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลาไปตลอดชีวิตอยู่เเล้ว
รูปตอนไปเล่นที่ตึกร้างเเถวบางนาครั้งเเรก เปิดประสบการณ์มากๆ :)
เหมือนกับการถ่ายภาพนะผมว่า ถ้าเอาแต่ฝึกจัดแสงอยู่ในสตูดิโออย่างเดียว เราสามารถบังคับแสงได้ จัดการทุกอย่างได้ตามต้องการก็จริง ก็จะเก่งอยู่เท่านั่นล่ะครับ
แต่ถ้าได้ลองไปถ่ายภาพข้างนอก จะเห็นว่ามันมีข้อจำกัดที่มากขึ้น แน่นอนว่าคุมแสงไม่ได้แล้ว สิ่งที่ทำได้คือเรียนรู้ว่าเราจะใช้แสงที่มีในช่วงเวลานั้นอย่างไรให้เกิดประโยชน์ที่สุด ให้ได้ภาพออกมาสวยที่สุด หรืออยู่ดีๆ ฟ้าดันครึ้มขึ้นมาดื้อๆ จะทำอย่างไร
ทักษะที่เราฝึกมาจะบอกเองว่าต้องทำอย่างไรต่อ ต้องปรับตัวแก้ไขสถานการณ์อย่างไร เเละเเน่นอนที่สุดเราจะมีประสบการณ์ มีทักษะที่มากขึ้นอีกขั้น
ปากัวร์ คือการเรียนรู้การเคลื่อนไหวจากธรรมชาติรอบตัว
รอบตัวผมมีกำแพง ผมก็ฝึกข้าม ผมข้ามกำแพงไปเจอราวเหล็กให้ปีน ผมก็ฝึกปีน เก็บทักษะทั้งหลายตามรายทางเพื่อต่อยอดและข้ามอุปสรรคในอนาคตที่ผมต้องไปเจอต่อ
เจสัน พอล นักกีฬาฟรีรันนิ่งของเรดบูล ให้คำนิยามกีฬานี้ไว้ว่า
“เราล้วนเป็นผลิตผลของสิ่งแวดล้อม”
โฉมหน้า เจสัน พอล นักกีฬาฟรีรันนิ่งระดับโลกชาวเยอรมนี
คงไม่มีใครเดินทางไปที่ไหนและคิดว่าจะบิดรูปถนนให้เป็นดั่งใจจะได้ขับรถตรงดิ่งถึงจุดหมายเลยหรอกใช่ไหมล่ะครับ ถนนล้วนสร้างตามรูปเขา ตามเส้นทางที่ควรจะเป็น และเราก็ขับไปตามนั้น
บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้มีทางเลือกให้กับเรามากมาย แต่เราเลือกจะผ่านมันไปอย่างไรนี่สิสำคัญกว่า
ปากัวร์บอกผมเสมอว่าทุกอุปสรรคปัญหามันมีวิธีแก้ไข มันมีวิธีก้าวผ่านไปได้ แต่ผมจะคิดหาทางผ่านมันออกรึเปล่า ผมจะเก็บทักษะประสบการณ์มามากพอไหม ผมจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหนที่จะข้ามมันไป
คงไม่ใช่ทุกคนที่อ่านบทความหรือหนังสือเล่มนี้จะเล่นกีฬาปากัวร์ แต่ผมอยากให้ลองนะครับ อาจไม่ใช่การหันมาเล่นกีฬานี้ แต่เป็นการลองออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่ท้าทายความสามารถของคุณ
ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เหตุการณ์ที่คุณออกไปเจอจะบอกคุณเองครับว่าคุณสู้มันไหวหรือเปล่า
และถ้าคุณสู้ไหว ก็ขอให้เก็บความดีใจ ความสำเร็จนั้นไว้ใช้เป็นพลังในการไปต่อข้างหน้า
เพราะคนเราเกิดมาไม่ได้มีเพียงอุปสรรคให้ข้ามหรือพิชิตแค่ไม่กี่อย่างหรอกครับ
......
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in