กลับมาเขียนหลังจากถึงไทยได้เดือนกว่าๆแล้ว ช่วงเดือนที่สองของทริปเรายุ่งมากจนแทบไม่มีเวลาเขียนจริงจังบวกกับไม่มีไฟในการเขียน ตอนนี้อยู่ๆก็กลับมามีไฟเฉย ตั้งใจจะเขียนให้จบให้ได้เลย
ที่ญี่ปุ่นจะมีช่วงวันหยุดยาวที่เรียกว่า Golden Week ซึ่งอยู่ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งปกติแล้วจะหยุดเพียง 4-5 วัน แต่ปีนี้พิเศษตรงที่ได้หยุด 10 วัน เพราะจักรพรรดิญี่ปุ่นสละบัลลังก์ มีการเปลี่ยนศักราชใหม่จาก เฮเซ เป็น เรวะ
April 27 Kawasaki
Kawasaki เป็นเมืองที่เรามารอบที่สองแล้ว ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟจากบ้านของเรา จุดประสงค์หลักของการมาที่นี่คือ มากินราเมงเผ็ดเจ้าดังที่เคยมากินเมื่อสองปีที่แล้ว แถมที่นี่ยังมีย่านการค้าให้เดินดูของเต็มไปหมด ของราคาไม่แพงด้วยเมื่อเทียบกับในโตเกียวที่แพงหูฉี่ ช่วง Golden Week มีร้านเสื้อผ้าหลายร้านในห้างที่ลดราคา เราเดินดูนานมากแต่สุดท้ายก็ซื้อมาแค่กระโปรงยีนราคา 2000 เยน เดินจนถึง 6 โมงครึ่งก็กลับ
April 28 Odaiba
เป็นที่ๆชอบมาเที่ยวที่สุด มาญี่ปุ่นสามรอบก็มาที่นี่ทุกรอบ Odaibaเป็นเมืองที่เรารู้สึกว่าต่างจากที่อื่นๆในโตเกียวมากๆ มันมีความตะวันตกอย่างบอกไม่ถูก การจะเดินทางมาเกาะนี้ต้องอาศัยการนั่งรถไฟไร้คนขับ Yurikamome มา มีแต่คนต่อแถวขบวนหน้าสุดของรถเพื่อที่จะเห็นวิวระหว่างที่โดยสาร เราก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน
เกาะนี้เป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น อยู่ติดอ่าวโตเกียว มี Rainbow Bridge ที่คล้ายกับสะพาน Golden Gate Bridge ที่ชายหาดมีทั้งคู่รักและครอบครัวที่พาเด็กมาเล่น
มีเทพีเสรีภาพจำลองตั้งอยู่โดดเด่น เคยถ่ายรูปตรงจุดนี้ลงสตอรี่ไอจีหลอกว่าอยู่นิวยอร์กไปสองรอบแล้ว 555555
วันที่เราไปมีเทศกาล 4 งานจัดขึ้นที่นี่ มี Oktoberfest เทศกาลเบียร์ที่คนเมาจนหน้าแดงแจ๋ตั้งแต่หัววันเยอะมาก Meat Festival ที่มีหลายร้านมาตั้งบูธขายเนื้อวัวราคาแพง Pudding Festival อยู่บริเวณหน้าห้าง และ Hawaii Festival ที่มีการแสดงการเต้นของฮาวายมาให้ดู มีเสื้อผ้าแนวฮาวาย(ที่ไม่ใช่เสื้อฮาวายสับปะรดแบบไทย)มาขายเต็มไปหมด
แต่ไฮไลท์ของวันนี้อยู่ที่วิวตอนกลางคืนของโอไดบะ เป็นสิ่งที่ทำให้เราละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ อยากนั่งดูวิวที่นี่ไปจนถึงดึก อากาศเย็นๆบวกกับวิวแบบนี้เป็นอะไรที่ลงตัวมาก สามารถมองเห็น Tokyo Tower ที่อยู่ห่างไปอีกได้ด้วย
April 29 Harajuku& Tokyo Rainbow Pride
ตั้งใจจะมางาน Tokyo Rainbow Pride ซึ่งเป็นงานสำหรับ LGBTQ Community ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
งานจัดที่ Yoyogi Park ระหว่างทางเราก็เดินผ่านสวนที่มีเด็กเล่นบับเบิ้ลที่คุณลุงคนนี้เปนคนทำ เป็นภาพที่ดูแล้วทำให้ยิ้มตามเลย เรายืนถ่ายรูปตรงจุดนี้ 15นาทีได้
หลังจากนั้นก็เดินไปตรงที่จัดงาน ทุกคนจัดเต็มกับการแต่งตัวมาก ดูแล้วก็อิจฉากับ confidence ของพวกเค้า พวกเค้าแสดงตัวตนของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่เลย ในงานมีทั้งคนญี่ปุ่นและต่างชาติ ตอนแรกเราอยากได้แทททูธงสีรุ้งมาแปะตรงแก้ม แต่พอมาคนเดียวแล้วก็เขินๆเลยไม่กล้าเดินไปขอที่บูธต่างๆ แต่แค่เดินดูบรรยากาศก็เพียงพอแล้วแหละ
หลังจากนั้นก็ไป ศาลเจ้า Meiji เป็นที่ๆมากี่รอบก็รู้สึกดี ต้องเดินเข้าไปประมาณ10นาทีก่อนกว่าจะถึงตัวศาลเจ้า ระหว่างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ขนาบสองข้าง ตอนระหว่างเดินรู้สึกว่าอากาศบริสุทธิ์มากๆ ยิ่งถ้าฝนตกแล้วมาที่นี่มันจะมีกลิ่นของธรรมชาติออกมา อากาศเฟรชสุดๆ
ตรงข้ามทางเข้าศาลเจ้าก็เป็นถนน Takeshita เป็นถนนสำหรับช็อปเปอร์เลย มีเสื้อผ้าทุกประเภท อย่างที่รูักันว่าถ้ามาย่านฮาราจุกุจะเห็นคนแต่งตัวหลากหลายแนวมาก เราชอบมองการแต่งตัวของคนอื่น บางทีก็เอาไปเป็นreferenceมาปรับกับการแต่งตัวตัวเองได้ เดินดูของที่ถนนสายเล็กๆนี้ตั้งแต่ตอนเย็นยันสองทุ่มครึ่ง ร้านปิดไปหมดแล้ว ระหว่างขากลับจะเดินไปสถานีก็ผ่านร้านเครปนี้ที่กินไปสองสามรอบ แนะนำว่าทุกคนควรลองซักครั้งในชีวิต มันดีมากจริง ม่ีหลายรสชาติหลายท็อปปิงให้เลือก
April 30 ตื่นสาย ไม่ได้ไปไหน
โทรศัพท์แบตหมดนาฬิกสาปลุกเลยไม่ดัง สุดท้ายก็ตื่นบ่ายอีกแล้ว วันนี้นับเป็นวันที่อยู่ญี่ปุ่นมาแล้วเดือนนึงพอดีเลยตั้งใจจะ big cleaning ห้องซะเลย พื้นที่ส่วนกลางมีเครื่องดูดฝุ่นก้ับเตารีดให้ยืมเลยสะดวกมากๆ ครั้งนี้เป็นการรีดผ้าครั้งที่สองในชีวิต รอบแรกรีดแล้วไม่เรียบเลย แต่รอบนี้เหมือนเตารีดไอน้ำมันน้ำไม่รั่ว ทำงานปกติเลยรีดเรียบได้แล้ว ภูมิใจในตัวเองมาก 55555555 พอทำความสะอาดเสร็จว่างๆเลยถ่ายรูปพาสำรวจบ้านลงในสตอรี่ไอจีหลุม
May 1 Koenji+Nakano
ย่าน Koenji ดังในเรื่องเสื้อผ้ามือสอง มีบางร้านปิดไปเพราะเป็น Golden Week แต่ก็ยังมีหลายร้านให้ดูของอยู่ เราซื้อเสื้อผ้าจากร้าน Mode Off กับ Treasure Factory Style มาหลายตัวเลย ทั้งสองร้านมีห้องลองให้ แถมราคาเสื้อผ้าบางตัวถูกจนไม่น่าเชื่อ พอช็อปเสร็จก็แวะไปร้านฟิล์มแถวนั้น เจ้าของร้านคนญี่ปุ่นชวนคุยด้วย เค้าบอกว่าเคยมาไทยหลายรอบมาก ชอบกินแกงกะหรี่ เฟรนด์ลี่มากเลย
ระยะทางจาก Koenji มา Nakano ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แอบไกลนิดหน่อยแต่เราอยากประหยัดค่ารถไฟเลยยอมเดิน ที่เที่ยวดังๆในNakanoคงหนีไม่พ้น Nakano Broadway ย่านการค้าที่คนพลุ่กพล่านมาก กับ Sunplaza ที่ข้างในมีขายการ์ตูน ของสะสมอนิเมะแรร์ๆ
เจอร้านขายฟิล์มทั้งสองย่านเลย ร้านตรง Nakano รับล้างฟิล์มม้วนละ 600 เยน (ประมาณ 180 บาท) แต่เราก็หักห้ามใจตัวเองให้กลับมาล้างที่ไทย หนึ่งเพราะอยากประหยัดเงิน อีกเหตุผลคืออยากเก็บฟีลลิ่งลุ้นรูปไว้หลังจบทริป 2เดือนกว่าเอง ต้องทนได้ดิ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in