ทางวงเคยออกเพลงมาด้วยกัน 4 EP และ 2 สตูดิโออัลบั้ม โดย 2 อัลบั้มที่ว่านั้น คือ The 1975 ในปี 2013 ที่ประสบความสำเร็จและทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักอย่างมากมาย และ I Like It When You Sleep, for You Are So Beautiful yet So Unaware of It ในปี 2016 ที่ผ่านมานี้เอง
1. The 1975 - เพลงแรกเป็นอินโทรความยาวหนึ่งนาทีกว่าๆ เป็นเสียงผู้หญิงร้องประสาน เนื้อร้องสั้นๆ ให้ความรู้สึกลอยๆ เหมือนบทสวดอะไรสักอย่าง
Go down
Soft sound
Midnight
Car lights
Playing with the air
Breathing in your hair
Go down
Soft sound
Step into your skin? I'd rather jump in your bones
Taking up your mouth, so you breathe through your nose.
2. Love Me - โอ้โห เพลงนี้กีต้าร์ริฟจี๊ดจ๊าดมาก ประกอบกับซาวนด์อิเล็กโทรนิคในแบคกราวนด์ เนื้อหาฟังดูจิกกัด ฟังแล้วโยกหัวตามตลอดเวลา เสียงของแมตตี้ที่มีเอกลักษณ์ช่วยขับให้เพลงนี้โดดเด่นมากขึ้น
4. A Change of Heart - นี่เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของเราในอัลบั้มนี้เลย ซาวนด์ย้อนยุคแบบ 80's ฟังง่ายๆ สบายๆ แต่เนื้อหาว่าด้วยการ 'หมดรัก' ความซับซ้อนในความสัมพันธ์ของคู่รักที่มาอยู่ในจุดที่อิ่มตัว ต่างฝ่ายต่างเริ่มมองเห็นข้อเสียของกันและกันทั้งๆ ที่เรื่องเหล่านั้นมันเคยเป็นเรื่องปกติสำหรับทั้งคู่
ที่สำคัญคือเราชอบมิวสิควิดีโอเพลงนี้มากๆ :)
5. She's American - ปรับอารมณ์กันด้วยเพลงฟีลลิ่งแบบดิสโก้ป๊อปที่ติดหูมากๆ นี่เป็นเพลงโปรดเราอีกเพลงของอัลบั้มนี้ เสียงแมตตี้มีสเน่ห์มาก เราชอบช่วงท่อนฮุก ช่วงท้ายเพลงมีเสียงแซกโซโฟนช่วยเพิ่มลูกเล่นเคียงคู่กับซาวนด์อิเล็กโทรนิคอย่างลงตัว
6. If I Believe You - เพลงแนวแจ๊สช้าๆ เนิบๆ ความยาวหกนาทีกว่า เสียงคอรัสร้องคลอไปพร้อมกับเสียงของแมตตี้ มีเสียงแซกโซโฟนและการดีดเครื่องสายในช่วงท้ายของเพลง เรารู้สึกว่าเป็นเพลงที่เหมาะจะเอาไปเต้นรำมากๆ ถือได้ว่าเป็นเพลงรูปแบบใหม่ของวงที่ต่างจากอัลบั้มก่อน
And you said I've lost my head. Can you see it? Can you see it?
Belly aches while you're in bed. Can you feel it? Can you feel it?
9. The Ballad of Me and My Brain - ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความยุ่งเหยิงและสับสน ดูรีบร้อน เพลงความยาวประมาณสามนาที 'ถ้าฉันเป็นสมองของฉันแล้วฉันจะเป็นยังไงนะ' เพลงนี้ฟังผ่านๆ ไม่ได้ติดหูมากนัก
11. Loving Someone - เพลงนี้ออกแนวฮิปฮอปแร็ปโย่วเบาๆ แปลกใหม่ดี เสียงคอรัสผู้หญิงเหมือนคอยย้ำเตือนว่าคุณควรพบรักครั้งใหม่ได้แล้วนะ 'Loving someone, yeah, you should be loving someone.' ฟังแล้วติดหูอยู่พอสมควร
12. I like it when you sleep, for you are so beautiful yet so unaware of it - ชื่อเพลงยาวเป็นกิโล ชื่อเดียวกับชื่ออัลบั้ม เพลงนี้เป็นเพลงบรรเลงอิเล็กโทรนิคซาวนด์ ฟังผ่านๆ ไม่ได้มีจุดพีคอะไรมากมาย ฟังแล้วเคลิ้มๆ ยาวหกนาทีกว่า
14. This Must Be My Dream - เพลงเร็วจังหวะสนุก เติมเต็มความสนุกต่อจากเพลงก่อนหน้าได้เป็นอย่างดี ดนตรีน่ารัก เนื้อหาโรแมนติก ฟังแล้วติดหูตั้งแต่ครั้งแรก
15. Paris - เพลงป๊อปจังหวะมุ้งมิ้ง ไม่เหลือเค้าของความเป็นอัลเทอร์เนทีฟร็อคแล้ว เนื้อหาแอบเศร้า พูดถึงชีวิตของแมตตี้ที่มีปัญหารุมเร้าเลยอยากจะกลับไปที่ปารีสอีกครั้ง เพราะดูเหมือนว่าปารีสจะเป็นเมืองที่เก็บความทรงจำดีๆ ของเขาเอาไว้
17. She Lays Down - ปิดท้ายอัลบั้มด้วยเพลงอะคูสติคอีกหนึ่งเพลง ทั้งเพลงมีแค่เสียงแมตตี้กับกีต้าร์ ซาวนด์เหมือนเป็น live session ฟังชิวๆ เรื่อยๆ นิ่งๆ พูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งก็คือแม่ของเขาที่ติดโคเคนและเป็นโรคซึมเศร้า เป็นเพลงปิดที่เศร้าเหลือเกิน...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in