เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บ่นวนไปค่ะZeya
กับบางเรื่องก็เหมาะที่จะไม่ต้องไปรู้สึกมากๆ
  • 14/4/2560 สงการนต์เดย์ 

    วันนี้เป็นอีกวันนึงที่เราถูกแม่ปลุกให้ตื่นแบบไม่เต็มใจ ก็เป็นวันที่สองแล้วแหละ จากที่เรากลับมาอยู่บ้านได้ไม่นาน ทางมหาลัยที่หยุดให้1อาทิตย์  และก็เป็นวันที่เราหงุดหงิดมากๆ

    เราไม่ชอบวันนี้เอาซะเลยหงุดหงิดตั้งแต่เช้าเพราะคำพูดที่ปลุกเราที่ตื่นที่ช้คำไม่ค่อยรื่นหูเท่าไหร่ เพราะเราตื่นสายนั่นหละ เลยถูกปลุกแบบนั้น เพราะอะไรนะหรอ ก็เจ้าเหมียวของเรามันชอบเล่นและทำเสียงดังเวลากลางคืนเราเลยต้องตื่นมาตีมันไม่ให้ทำเสียงดังอยู่บ่อยๆ เลยทำให้หลับไม่เต็มอิ่ม แต่ก็อดทนหลับไปพร้อมกับเสียงรบกวนอย่างนั้น 

    ย้อนไปเมื่อวันที่13 ก่อนหน้านี้เราก็หงุดหงิดที่เรานอนไม่พอ เพราะอิเจ้าเหมียวนี่แหละ เราหงุดหงิดทั้งอากาศที่ร้อนและการที่นอนไม่พอ แอบน้อยใจแล้วร้องไห้ตาบวมในห้องน้พด้วยการเก็บเสียง  แต่ก็พอจะควบคุมอารมณ์ได้และออกไปทำกิจกรรมกับครอบครัวต่อ 

    ตอนบ่ายเราปฎิเสธไปเล่นน้ำสงการนต์กับครอบครัวและญาติๆ เพราะความเครียดกับเพื่อนร่วมงานที่มหาวิทยาลัย เลยตัดสินใจอยู่บ้านเงียบๆ เพราะเราเองก็ไม่ได้รู้สึกสนุกเหมือนแต่ก่อน  จากต้นตอเมื่อวานก็เป็นจุดต่อกับความคิดวันนี้ 

    กลับมาวันนี้ที่เราโดนปลุกแบบไม่เต็มใจอีก  เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของคุณยายกับปู่ของเรา ทุกปีเราจะไปกินข้าวบ้านปู่ทุกปี นั่งคุยกันอะไรก็ว่าไป แล้วคุณอาก็พูดถึงเรื่องเมื่อวานที่เราไม่ไปเล่นน้ำ เค้าพูดเล่นๆทุกครั้งแต่ สำหรับเรามันเหมือนคำประชด เหมือนกับว่าเรากลายเป็นคนที่เปลี่ยนไปในสายตาทุกคนในบ้านเริ่มทำพฤติกรรมแหกๆออกไป เราหงุดหงิดในใจว่า "เห ทำไมหละ ทำไมต้องพูดเหมืนเราเป็นพวกที่เข้าพวกพวก เราแค่โลกส่วนตัวสูงแค่นั้น " นี่คงจะเป็นแค่ความคิดของเด็กคนนึงที่เขาได้เรียนรู้จากการใช้ีวิตมหาลัย ตั้งแต่กลับมาบ้านเราหงุดหงิดในใจกับแม่หลายครั้ง เรามานั่งคิดว่าทำไมแม่ถึงพูดอะไรไม่มีเหตุผลนะ แต่นั้นอาจจะผิดก็ได้ ทุกคนอาจจะเหมือนเดิมเราเองที่เปลี่ยนไปทั้งทัศนคติและความคิด 

    ในช่วงบ่ายเราไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนแม่ เพื่อนแม่คนนี้เค้าแต่งงานกับชาวต่างชาติ ที่มาจากนอร์เวย์ เค้ามีลูก2คนแล้ว แต่เค้าอาจจะมีปัญหาทางครอบครัวบางอย่างทำให้ ต้องแยกทางกับสามีแล้ววันนี้ เราก็รู้สึกเบื่อๆที่ปฎิเสธมางานนนี้กับครอบครัวไม่ได้ ก็คือเราก็ต้องแบกหน้ามานี่แหละปั้นหน้ายิ้มกับทุกคน ช่วยทำอาหารในวันแต่งงาน จัดโต๊ะ จัดดอกไม้ มันไม่ใช่งานใหญ่โตอะไร แค่ทำให้มันเป็นพิธีแต่ที่ทำให้เราเลิกเกลียดวันนี้แล้วชอบวันนี้ขึ้นมาคือ เจ้าสาวในวันนี้ได้เก็บซ่อนความรู้สึกหลายๆอย่างเอาไว้ ก็คือว่าเราได้ยินมาว่า ลูกชายของเขาทะเลาะกับเขาเมื่อเช้า ด้วยเหตุอะไรเล็กๆน้อยๆสักอย่าง 
    และออกไปข้างนอกเพื่อสงบสติอารมร์ แต่ยังไม่กลับมา 

    ใกล้ถึงเวลาแล้วเจ้าสาวกำลังแต่งตัวด้วยชุดสวย เขาโทรตามลูกชายหลายสายแต่ก็ถูกตัดสายตลอด จนลูกายเขารับโทรศัพท์ ราวกับว่าลูกชายไม่ยอมมาร่วมงานแต่งงานครั้งนี้ เธอคงเสียใจไม่น้อย เจ้าสาวเธอทั้งเหนื่อยกับการซื้อของ เตรียมอาหาร และอาการปวดขาที่ยังไม่หายขาดดี แต่เธอก็ยังเก็บมันไว้ภายตายหน้าตาที่ถูกแต่งด้วยเครื่องสำอางสีสวย สามีชาวต่างชาติสังเกตเห็นจึงเข้ามาพูดคุยด้วย เหมือนเขาจะเข้าใจดี 

    และแล้วก็ถึงเวลา พวกเขายิ้มรับแขกทุกคนที่เข้ามาแสดงความยินดี เจ้าสาวยังคงยิ้มแย้ม และพูดคุยกับทุกคน แต่ก็ไม่เห็นวี่แววลูกชายของเขาเลย จึดตรงนี้เลยทำให้เรารู้สึกอย่างจะให้วันนี้มันมีความสุขมากๆ ความรู้สึกที่เกลียดวันนี้จางหายไปในพริบตา เจ้าสาวคนนี้เก่งมากเลย เธอคงผ่านอะไรมามากถึงมากที่สุดดิ้นรนทุกอย่างเพื่อลูกของเธอ เพื่อพวกเค้าจะไดด้ไม่รู้สึกว่าพวกเค้าขาดอะไร น่าชื่นชมจริงๆ 

    สุดท้ายแล้วมันก็คงยังเป็นวันที่ดีของครอบครัว อยู่ดีเรายิ้มและรู้สึกอบอุ่นในใจ มันช่างเป็นความเศร้าที่เข้มแข็งเหลือเกิน เหมือนกับที่เรารู้สึกหงุดหงิดกับวันนี้  บางอย่างเราก็แค่ปล่อยวางมันไป  

    .........................................กับบางเรื่องก็เหมาะที่จะไม่ต้องไปรู้สึกมากๆก็ได้.................................. 

                                               -วันที่เราเหนื่อยสุดๆอาจจะมีอีกคนที่เหนื่อยกว่าอยู่ -
                                      ****เพราะทุกวันไม่ใช่การที่ว่าไม่ชอบอะไรก็ข้ามมันไปได้****
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in