เราถือคติว่า ถ้านึกอะไรได้ให้รีบบันทึกหรือเขียนมันลงไป เพราะพรุ่งนี้เราอาจะลืมความรู้สึกที่มีกับสิ่งนั้นไปแล้วก็ได้
เกรดเมื่อคืนทำเราแทบหัวใจวาย แต่มันก็ไม่ได้แย่ ชีวิตปี2ของเราได้ประสบการ์ณครั้งแรกในการติด F ตัวแรกในชีวิต แต่มันไม่ได้ทำให้เราติดโปร เห้ออ บ้าบอ ........
หลังจากที่กลับจาก มหาวิทยาลัย เราตั้งใจจะไปเยี่ยมคุณยายที่บ้าน เพราะคุณยายไม่สบายเพราะโรคหัวใจและเข้าโรงพยาบาลเมื่อเดือน ตุลา บ้ายคุณยายกับบ้านเราไม่ห่างกันมาก เพราะก่อนหน้านี้เราเคยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่วันนึงเรามีปัญหากันนิดหน่อย เรากับพ่อกับแม่เลยแยกออกมาสร้างบ้านของตัวเอง เราชอบไปบ้านยายบ่อยๆเพราะเราคลุกคลีกับที่นั่นมานานพอสมควร มันมีความทรงจำวัยเด็กหลายอย่างที่นั่น
ที่บ้านคุณยาย มีแมวอยู่ตัวนึง มันชื่อน้ำตาล แม่ของมันชื่อหมอก สมัยเรา6ขวบ มันหลงมาที่บ้านเราทวดของเราเลยเลี้ยงมันไว้แล้วตั้งชื่อให้มันว่า หมอก เพราะมันมีสีเหมือนในหน้าหนาว น้ำตาลเป็นลูกของหมอก ในรุ่นที่2 แม่หมอก ท้องหลายรอบมากๆคุณยายเลยเอาแม่หมอกไปปล่อยแล้วเหลือ น้ำตาลไว้
อันที่จริง น้ำตาลมันไม่มีชื่อหรอก เราเป็นคนที่ไม่ชอบตั้งชื่อสัตว์ที่มีหลายๆตัวเท่าไหร่ บางตัวเราก็ไม่ได้ตั้งชื่อให้มันด้วยซ้ำ เพราะเราคิดว่า มันไม่จำเป็นต้องมีชื่อก็ได้หนิ มันอาจจะรู้จักตัวมันเองก็ได้(เปล่าหรอกเราคิดไม่ออก555+)
น้ำตาลเป็นแมวที่ชอบกางเล็บตลอดเวลา ถึงแม้ว่ามันกำลังจะอ้อนคนอยู่ก็ตามแต่น้ำตาลไม่เคยทำร้ายคนในบ้านเลย แบบว่า ข่วนหรือกัด มันชอบทุกคนที่เข้ามาทักทายถึงแม้ว่าหน้าของมันจะดุก็เถอะ เราเล่นกับมันตั้งแต่มันยังเล็กๆ มันชอบปืนขึ้นมานอนตัก แล้วก็จิกเล็บบนกางเกง มันชอบนั่งดูทวดกับคุณยายทำอาหาร มีแอบขโมยบ้าง แต่มันไม่ทำบ่อยหรอก เท่าที่ดู น้ำตาลเป็นแมวที่นิ่งๆเงียบๆมากกว่า
พอฉันแยกออกจากบ้านหลังนี้ ฉันก็ไม่ได้เจอมันบ่อย มาถึงตอนนี้ฉันอายุ20แล้ว มันก็อยู่กับฉันมาเกือบ10ปีได้แหละ ยายไม่เคยพามันไปหาหมอเลย เหมือนมัยเป็นแมวบ้านที่มีความถึก เคยได้ยินเค้าเรียกไหมว่า แมว9ชีวิต 5555+เราว่ามันจริงนะ น้ำตาลเคยไปนอนใต้รถยนต์ของคนข้างบ้านยายแล้วโดนมอเตอร์ปั่นขนหลุดจนหน้ากลัวเลยหละ แต่มันก็ไม่ตาย น้าเราเอามันไปรักษา แล้วก็หายดีแบบเดิม
วันนี้น้ำตาลแก่มากๆแล้ว ตัวอ้วน กลายเป็นผู้เฒ่าแมวไปซะแล้ว ตัวอ้วนกลมเสียงร้องไม่ใสเหมือนเดิมนอนอืดอยู่กับที่ พอมันเห็นเรามันก็ร้องด้วยเสียงแหบ ตาด้านซ้ายของมันบวมและมีน้ำตาตลอดเวลายายบอกฉันว่า มันแพ้ปลาทู ตาอีกข้างเริ่มขุ่นเป็นสีเทา ทั้งที่ สีตาของน้ำตาลเป็นสีเหลืองสวยเข้ากับขนมันมากๆ เรานั่งพื้นแล้วค่อยๆเอามือลูบหัวมัน น้ำตาลก้มหัวให้ลูบ แต่ก็ยังคงกางเล็บจิกเก้าอี้อยู่อย่างนั้น เราเลยพูดกับมันว่า
" น้ำตาลนี่เราเองนะจำเราได้ไหม "
น้ำตาลดมมือเราแล้วนิ่งสักพัก มันก็ร้องเมี้ยวออกมาด้วยเสียงแหบๆ ราวกับว่าจำเราได้ มันพยายามขยับตัวเองเพื่อลงจากเก้าอี้ เพื่อลงมาอ้อนเรา ไม่ไหวหรอก แกอ้วนเกินไป เราเลยอุ้มมันลงมามันก็ทำแบบเดิมเหมือนตอนเด็กๆที่ชอบเดินวนๆแล้วนอนซบตัก เป็นการบอกบอกว่า มาหาเราหรอคิดถึงจังเลย และซักพักน้ำตาลก็ปืนขึ้นมานอนตัก เหมือนเรากำลังคุยกันว่า ทำไมเธอโตขึ้นขนาดนี้นะ เด็กที่เล่นกับฉันในวันนั้น
เรานั่งเล่นกับันสักพักในใจเราคิดได้ว่า บางทีมันอาจจะบ่นพึมพัมอะไรสักอย่างกับเราว่า มนุษย์เหมือนมีชีวิตที่ยาวนานกว่าเราอีก ทั้งเราเกิดก่อนเธอเจ้าเด็กน้อย เราอาจจะจากเธอไปก่อนก็ได้นะเด็กน้อย
นั่นสินะ....
น้ำตาลซบเราอยู่นานเหมือนกับว่ามีสบายใจมากๆ หางของมันแกว่งไปมา เหมือนมันมีความสุขมากๆ มันคงพอใจแล้วหละมั้ง
วันนี้เราดูแลยายอยู่ครึ่งวันเราสบายใจที่ยังเห็นคุณยายยังยิ้มแล้วมีแรงได้ เวลาไปหาคุณยายต้องมีสปอนเซอร์สักขวดไปฝากทุกทีเพราะน้ำตาลในเลือดคุณยายมักจะต่ำ แต่น่าแปลกที่คุณยายมีแรงมากมายเลยเหมือนว่ายายไม่ได้ป่วย ทั้งยกโต๊ะ ปิดร้านน้า เราว่า ถ้าหากเราจะทำเพื่อใครสักคนก็คงจะเป็นคุณยายนี่แหละมั้ง (เห้ยไม่ใช่ว่าเราไม่ทำเพื่อพ่อกับเรานะ แต่อีกคนที่ทำให้เรามีกำลังใจก็คุณยายนี่แหละ 5555) เราอบอุ่นเสมอที่มาหาคุณยายและบ้านหลังนี้
เงื่อนไขของเวลาคือ ไม่มีใครที่จะมีกันตลอไป.......ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน เราเพียงได้แต่ ทำใจว่าหากมันมาถึงแล้วเราจะยังทำใจได้อยู่ไหม ไม่ได้แน่ๆ แม้ว่าจะไม่อยากคิดถึงวันนั้น แต่เราก็คิดว่ามันคือวันที่เราต้องเจอ แต่วันนี้เราได้มาอยู่มันก็สบายใจแล้ว
เฟินรักคุณยาย นะ น้ำตาลด้วย
ปล.น้ำตาลก็ได้ชื่อมาจากคุณยายนี่แหละ ตอนแรกทวดตั้งชื่อให้ว่า เจ้า2สีแต่มันดูไม่เวิร์กเพราะไม่มีใครเรียกตามทวดเลย5555
ปล.พิมพ์ไปร้องไห้ไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in