"ฉันว่าควรขึ้นทะเบียนแตงกวาเป็นของผิดกฎหมายซะด้วยซ้ำ"
- Rachel Kim
1.
นวนิยายจากปลายปากกา ‘เจสสิก้า จอง’ อดีตสมาชิกวง Girls’ Generation เกิร์ลกรุ๊ปที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค ซึ่งจะพาทุกคนไปล้วงลึกถึงเบื้องหลังสุดลับที่ถูกกลบด้วยออร่าอันเจิดจรัสของไอดอลเกาหลีผ่าน ‘เรเชล คิม’
คำโปรยผ่านหน้าปกสุดแสนที่จะน่าสนใจกับคำว่า 'เบื้องหลังสุดลึกลับของไอดอลเกาหลี' จะว่าไปวงการบันเทิงมีเรื่องน่าแปลกให้ค้นหาอยู่มากเบื้องหน้าอีกอย่างเบื้องหลังอีกอย่างเหมือนกลายเป็นเรื่องที่เราดันทำใจยอมรับกับมันได้ราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ่ซะอย่างนัั้น
จริงๆหากเราเป็นแค่หนอนหนังสือธรรมดาๆคนนึง ความน่าสนใจของหนังสือก็อาจจะลดลง แต่พอดีดันเป็นแฟนคลับนี่ซิ่เลยไม่แปลกใจที่ตัวเองต้องสนใจที่จะหยิบมันขึ้นมาอ่านและก็ไม่ได้วางอีกเลยจนกระทั่งหน้าสุดท้ายได้ปิดลง..
เราใช้เวลาประมาณครึ่งวัน กับการอ่าน Shine จบในหนึ่งเล่ม เนื่องด้วยอ่านหนังสือไวอยู่แล้ว และก็ Shine ไม่ได้มีเนื้อหาที่ลึกลับซับซ้อนอะไรซักนิดเดียว หากใครที่เคยดูหนังวัยรุ่นอเมริกันสมัยก่อนหรือแม้กระทั่งดูหนังที่สร้างโดย Netflix ก็คงพอจะเข้าใจพล็อตที่ต้องการจะสื่อสารได้แน่นอน
///
2.
SPOILER ALERT
นิยายเล่าเรื่องของเรเชล คิม American-born Korean ที่ครอบครัวย้ายรกรากจากอเมริกามายังเกาหลีใต้เพื่อทำให้ฝันของลูกสาวคนโตเป็นจริง ครอบครัวมี 4 คน พ่อที่เป็นเจ้าของยิม อดีตนักมวยที่มีชื่อเสียง, แม่เป็นอาจารย์สอนที่ NYU ก่อนที่จะย้ายมาเกาหลีเพื่อสอนที่อีฮวา (ถ้าจำไม่ผิด) ส่วนน้องสาวคนเล็กลีอาเป็นเด็กมัธยมที่ติดจะขี้เล่น รักพี่สาว และเข้าใจผู้คนมากจนเหมือนจะโตเกินวัย
หนังสือดำเนินเรื่องออกเป็น 4 พาร์ท (เป็นความคิดเห็นของเราเท่านั้น)
l ความสัมพันธ์ของเด็กฝึกในค่าย DB Entertainment
มีการยกตัวละครอย่างมินา ลิซซี่ อึนจี อาคาริ และอื่นๆอีกหลายตัวละคร โดยทำให้เห็นว่าภาพที่เราเห็นไอดอลทุกคนดูมีความสัมพันธ์ที่เรียกว่า Family นั้นไม่ได้มีกันทุกคนหรอก มันคือการแข่งขันทั้งนั้น แข่งขันเพื่อที่จะได้ไปถึงเป้าหมายที่ีเรียกว่า 'การเดบิ้ว' และ 'ชื่อเสียง' จริงๆนิยายก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกแย่กับความสัมพันธ์ไปซะหมดทุกอย่างเพราะตัวเรเชลเองก็มีเพื่อนชื่ออาคาริ ที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทคอยรับฟังปัญหาเช่นกัน แต่แต่แต่เรื่องของอาคาริก็ไม่ใช่ Last forever เพราะถึงจุดหนึ่งที่ราเชลได้ Shine การพูดคุยกับเพื่อนก็ลดลงจนทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหินกันไปเช่นกัน..
ความสัมพันธ์ที่แท้และแน่นอนของเรเชล สำหรับเราคงเป็นน้องสาวชื่อ 'ลีอา' นี่แหล่ะมันคล้ายกันทะแม่งๆ 555555
ll ระบบทุนนิยม และ Patriarchy
- การทำสัญญาของค่ายกับเด็กฝึกทั้งหลายมีระยะสัญญาที่เรียกกันอย่างติดปากว่า 'สัญญาทาส' ซึ่งเด็กฝึกทุกคนจะต้องเซ็นสัญญานี้ถึงจะได้มีโอกาสร่วมฝึกกับทาง DB
- ความแตกต่างของการถูกรับการปฎิบัติระหว่างไอดอลชายและหญิง
lll ความรักของ Idol
มีประโยคนึงของไอดอลรุ่นพี่อย่างคัง มินาที่บอกเรเชล ว่าการมีแฟนคือความอันตรายรวมถึงกฎของ DB ที่ห้ามไอดอลมีแฟน แต่ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องนี้เพราะ การมีแฟนของไอดอล ชาย และหญิง ดันมีความแตกต่างกันสิ้นเชิง ฝ่ายหญิงมักจะโดนกดดัน โดนด่าสารพัดจากผู้หญิงด้วยกันเองที่เป็นแฟนคลับหรือแฟนเพลงไอดอลชาย ตัวเรเชลเองในเรื่องก็โดนทั้งต่อหน้าและลับหลังซึ่งมันทำให้เธอเข้าใจถึงปัญหานี้ แต่พอเธอเอาไปคุยกับ เจสัน (ไอดอลชาย) ที่ตัวเองเดตด้วย เค้าไม่เข้าใจปัญหานี้มากนัก อาจจะเพราะเค้าไม่ได้มีส่วนได้เสียกับมัน เค้าแค่รู้สึกว่าเราแค่ต้องไม่สนใจคำพูดคนอื่น แต่ตัวเรเชลเองกลับมองถึงปัญหาที่แท้จริงกว่านั้นว่ามันเกิดจากระบบไม่ใช่แค่เพราะนิสัยใจคอของคน
สำหรับเราเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดสำหรับนิยายเรื่องนี้ กรมองเห็นระบบทุนนิยมที่กัดกินทุกอย่างและระบบชายเป็นใหญ่ที่ตัวละครเอกอย่างเรเชลเอ่ยถึงขึ้นมา
llll ความฝัน การผลักดันและการเริ่มต้น
- ตัวเรเชลเป็นคนที่มีความฝัน และไม่ยอมทิ้งไปง่ายๆจนกว่าจะสำเร็จ จะเห็นได้จากการฝึกที่กินเวลาหลายปีที่ถึงแม้จะทำให้เธอท้อแต่ก็ยังสู้ต่อเพราะเป็นสิ่งที่ฝันไว้
- การ Support ของครูฝึก และเห็นศักยภาพของลูกศิษย์แม้คนอื่นจะมองข้ามไป ตัวละครนึงที่เป็นเหมือนอาจารย์และที่ปรึกษาของเรเชล หากไม่มีคนนี้ก็จะไม่มีเรเชลที่จะ Shine ได้
- การเริ่มต้นในวงการ เรเชลได้ทำเพลง (แม้จะเป็นแค่ Single) แต่นี่เป็นการเริ่มต้น ซึ่งเรามองว่าไอดอลหลายคนมีความสามารถมากเลย แต่โอกาสยังไม่มาถึงซักที เวทีที่เค้าจะได้โชว์ความสามารถก็ไม่มี ซึ่งน่าเสียดายมาก แต่ตัวเรเชลได้รับโอกาสนี้มามันเลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เธอเข้าสู่วงการนี้ซักที
////
3.
เอาจริง Shine สำหรับเรามันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นแหล่ะ หนังสือไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวระหว่างการเป็นไอดอล การแข่งขันระหว่างบริษัทหรือเบื้องลึกเบื้องหลังความเลวร้ายของอุตสาหกรรมวงการบันเทิงในเกาหลีเท่าที่ควร (อาจจะเรื่องนี้มันค่อนข้างอันตรายที่จะเขียนให้ออกมาได้กลางที่สุดและหนังสือเล่มนนี้ก็เป็นนิยาย Rom-com เท่านั้นครั้นจะมาเขียนอะไรเชิงความรู้หรือแนว Doc มันคงไม่น่าจะเข้ากัน 5555) แต่นั่นแหล่ะถ้าหวังว่าอ่านเล่มนี้แล้วจะรู้อะไรเกี่ยวกับวงการบันเทิงมากยิ้งขึ้นสำหรับเราคือไม่ใช่เลย หลายเรื่องทุกคนรู้แล้วแหล่ะ (แต่ก็มีบางเรื่องที่เพิ่งรู้ เช่น การเก็บสัญญาของค่ายเพลงที่แบบออกเป็น 2 ส่วน)
แล้วหนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร? คงเหมาะกับคนที่สนใจจะอ่านหนังสือนิยายเบาสมองที่เหมือนไปนั่งฟังยัยเรเชล คิมมันเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังหล่ะมั้งคะ
ปล. หนังสือไม่ได้สื่อเลยว่าตัวละครตัวนี้คือใคร (ในชีวิตจริง) แต่ตัวละครทุกตัวเวลาอ่านดันมีความทับซ้อนภาพของไอดอลที่เราคุ้นเคยลงไปทั้งหมด (มันคงเหมือนอ่านฟิคมั้งเพราะอ่านไปแล้วมันจะปิ้งงงงงงภาพคนนั้นทันทีเพราะเราอยากให้คาแรคเตอร์นั้นกับเค้า) เลยอยากบอกทุกคนว่าเวลาอ่านวางอคติลงและคิดว่ามันเป็นนิยายเท่านั้น ไบแอสทั้งหมดจะไม่มีเลยจ้า เพราะมันคือหนังสือเม้ามอยวงการไอดอลลลลลลเท่านั้นเอง 55555555
ปล.2 หมั่นไส้ความเว่อของยัยราเชลที่สุดเลยยยยยยยยย
ปล.3 มันเว่อจริงๆนะบางอย่างคือเวลาอ่านไปนี่มองบนตลอดเลยค่ะ 5555
จบแล้วให้คะแนน 6/10 ค่ะ
(แต่ความรักที่ให้พิ่เจ้สคือ 10/10 เท่าเดิมนะคะ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in