* รีวิวนี้ไม่มีสปอยล์ค่ะ *
ตัวละคร
มิสอมิเลีย สาวแกร่งผู้ร่ำรวยแต่ก็แปลกประหลาด นิสัยของเธอไม่ได้น่าชอบนัก แต่ก็ไม่ถึงกับจะเกลียดลง
มาร์วิน เมซี่ หนุ่มหล่อที่ครั้งหนึ่งเคยเปลี่ยนตัวเองจากคนเลวร้ายให้กลายเป็นคนดีเพื่ออมิเลีย เขาไม่ได้ดีมากนัก แต่กลับน่าสงสารในบางที
คุณญาติไลมอน ชายค่อมปริศนาที่บอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอมิเลีย ไม่มีใครรู้ว่าจริงไหม ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาถึงเมืองแห่งนั้น แต่เขาก็มาแล้ว พร้อมกับพายุที่ก่อตัวรอวันโหมทำลายล้างคาเฟ่อันแสนเศร้านี้
เนื้อเรื่อง
ประโยคข้างต้นคงเป็นการอธิบายที่ดีที่สุดเท่าที่รีนจะเรียบเรียงออกมาได้แล้ว มันเหมือนกับการเดินผ่านวันเวลาอันน่าเบื่อหน่ายไปพร้อมกันอย่างปกติธรรมดาเป็นที่สุด คล้ายการฟังบรรยายในคลาสที่แสนน่าเบื่อแต่กลับมีดีเทลมากมายที่ชวนให้เปิดหน้าต่อไปอย่างคาดหวัง ในช่วงท้ายเล่มที่ราวกับจะเป็นจุดสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ก็ยังเป็นเหมือนเรื่องเล่าก่อนนอนที่ไม่หวือหวาอะไรเลย ทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างธรรมดาจนน่าประหลาด ความเจ็บปวดถูกบอกเล่าจากมุมมองของคนภายนอกจนรีนเองรู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งในชาวบ้านที่เฝ้ามองเรื่องราวนี้ เรื่องน่าเศร้านั้นจึงไม่ได้กัดกินที่หัวใจเรา แต่เป็นการมองเห็นความเจ็บปวดของตัวละครเองอย่างมิสอมิเลียมากกว่า มันจึงรวมตัวกันออกมาเป็นความรู้สึกที่หลงทาง ไปไม่สุดสักอย่าง ถ้าจะเปรียบก็คงเหมือนลูกโป่งที่ลอยอยู่ในอากาศแบบไม่รู้อะไรเลยนั่นแหละ (55555)
ความรู้สึกส่วนตัว
ด้วยส่วนตัวแล้วรีนชอบอ่านดราม่าเลยคาดหวังว่ามันจะบีบหัวใจ แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้นเลย (55555) ทุกอย่างในหนังสือเล่มนี้มันธรรมดามาก(กกกกก) คือความเรียบง่ายอันสามัญที่เกิดขึ้น ดำเนินอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งและจบลงอย่างนั้น ไม่มีอะไรหวือหวาเลย ทุกอย่างเป็นเส้นตรง บางช่วงก็งงๆ(หรือรีนเบลอเองก็ไม่รู้) แต่ก็ด้วยความที่ทุกอย่างมันธรรมดานี่แหละ รีนถึงไม่ผิดหวังเลย มันเป็นความธรรมดาที่พิเศษมาก
Carson McCullers สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างเรียบง่ายจนเหมือนอ่านบันทึกของใครสักคนในเมือนนั้นมากกว่านิยาย แต่ก็สอดแทรกถ้อยคำงดงามที่รีนเป็นต้องเผลออ่านซ้ำไว้ได้อย่างไม่ประดักประเดิด ทุกอย่างมันไหลลื่นมาก สมูธมาก(กกก) และทุกประโยคคมๆเหล่านั้นทำให้รีนต้องสะดุดทุกทีไป เหมือนโดนเอาความจริงมาฟาดใส่หน้าอย่างสุภาพ เพราะความรักหลายครั้งก็เป็นความบ้าบอที่เราทำออกไปโดยที่รู้ตัวแต่ไม่เคยตระหนักถึงอีกฝ่ายเลยนั่นเอง
THE BALLAD OF THE SAD CAFÉ เป็นเรื่องที่ว่าด้วยความรักอันแสนแปลกแต่ก็เป็นความจริงจนน่าขบขัน ความเปลี่ยวเหงาที่เจาะลึกเข้าไปข้างใน และมีบางสิ่งที่สอดแทรกอยู่ในนั้น (รีนไม่เก่งเรื่องการใช้ศัพท์วิชาการสวยหรูหรือภาษาอังกฤษยากๆสักเท่าไหร่นะคะ เลยขออธิบายแบบภาษาง่ายๆเลยแล้วกัน)
ในเรื่องนี้มีการพูดถึงตัวตนของคน ความหมายและคุณค่า เหมือนประโยคที่ว่า...
"ชีวิตอาจเป็นการขวนขวายหม่นหมองยืดเยื้อเพียงเพื่อให้ได้สิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ"
"เราได้ชีวิตมาโดยไม่ได้แลกกับอะไร"
"จนเกิดความรู้สึกลึกลงไปในดวงจิตว่าตัวคุณไม่ได้มีค่ามากนัก"
สามประโยคนี้ไม่ได้ต่อกันอย่างสิ้นเชิง รีนตัดออกมาแค่บางส่วนที่รู้สึกว่ามีความหมายลึกซึ้งน่าสนใจ ซึ่งทั่งหมดนี้สามารถโยงเข้ากับเรื่องราวของมิสอมิเลียได้อย่างลงตัวจนน่าประหลาดใจ ทำไมเรื่องราวความรักอันน่าสับสนของชายสองหญิงหนึ่งถึงสะท้อนถึงความหมายของชีวิตและตัวตนของคนได้นั้นคงต้องไปติดตามอ่านกันในเล่มนะคะ
สรุปแล้ว THE BALLAD OF THE SAD CAFÉ ก็เป็นหนังสือที่น่าอ่านเล่มหนึ่งเลยล่ะค่ะ ถึงจะราบเรียบไปบ้าง แต่ดีเทลต่างๆกลับน่าสนใจและสนุกกว่าที่คิดไว้ ยังไงนี่ก็เป็นแค่ความเห็นจากรีนเท่านั้น อยากให้ทุกคนได้ลองอ่านด้วยตัวเองมากกว่าจะตัดสินจากคำบอกเล่าของรีนนะคะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in