ฟ้ายังไม่ทันสาง อากาศเย็นยะเยือก เพื่อนบ้านที่ได้รับการฝากฝังให้ดูแลแขกจากเมืองไทย มารับไปส่งที่ท่ารถเมล์ นั่งรถเมล์สาย 940 ตรงดิ่งไป Jerusalem ไม่ต้องแวะ Tel Aviv ระยะทางประมาณ 160 กม. แต่ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชม.

ฝนตกแฉ่ๆ ตลอดเวลา ผู้โดยสารไม่ค่อยเยอะเพราะเป็นเที่ยวเช้า ส่วนใหญ่เป็นยุวชนทหารหญิงชายแบกเป้สัมภาระพร้อมปืน

ค่ารถ NIS 39.-จะซื้อตั๋วกับคนขับก็ได้ หรือซื้อที่ท่ารถ หรือถ้านั่งรถเมล์จากหน้าบ้านแล้วบอกว่าไปเยรูซาเล็ม คนขับจะตีตั๋วถึงเยรูซาเล็มให้เลยราคาเท่ากัน บวกค่ารถจากบ้านมาท่ารถไว้ด้วย สะดวกดี
เข้าเขต Jerusalem ระหว่างอยู่บนเขา รถเมล์เป็นอะไรไม่รู้ ต้องจอดข้างทาง คนขับรถเปิดปุ่มโน้น ปิดปุ่มนี้ วุ่นวาย ครู่หนึ่งโทรศัพท์ไปถามใครซักคน เดินทางต่อได้หน่อยจอดอีกแล้ว ทีนี้จอดนาน ที่สุดแก้ไขได้ เดินทางต่ออย่างราบรื่น น่าสังเกตคือพอรถมีปัญหาปั๊บทุกคนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที
ช่วงที่รถเมล์วิ่งๆ หยุดๆ เพื่อนโทรเข้ามาพอดี บอกว่าแปลกมาก ไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้บ่อยนัก
จากนั้นโทรเข้ามาถามอีก จนกระทั่งรถเทียบท่ารถได้ตามเวลา

ฝนยังคงตกปรอยๆ ขึ้นแท็กซี่ที่จอดรอผู้โดยสารอยู่หน้าสถานีขนส่ง เจอคนขับเป็นอาหรับหน้าตาแลดู
ล่อกแล่กชอบกล โทรหาเพื่อนว่าคนขับเรียกตั้ง NIS 30 และโอ้เอ้พยายามรับผู้โดยสารเพิ่มอีกหลายๆ คนซึ่งขณะนั้นไม่มีผู้โดยสารเหลืออีกแล้ว เพื่อนบอกให้ส่งโทรศัพท์ให้พูดกันคนขับ

โรงแรมที่พักคือ Novotel ระยะทางใกล้นิดเดียว (ขากลับ นั่งรถประจำทาง ค่าโดยสาร nis 5.50 เอง) คนขับพอเห็นคนท้องถิ่นมารับ ท่าทางดี ผิดไปจากแรกลิบลับ เพื่อนบอกพวกนี้ชอบเอาเปรียบนักท่องเที่ยว (น่าจะเป็นกันทั้งโลกนะ...โรคนี้น่ะ)