หลังจากได้รับโปสต์การ์ดปริศนาราวสองสัปดาห์ เรา ก็ยังมาเต้นสวิงตามปกติ มีนักเต้นต่างบ้านต่างเมืองแวะเวียนมาเต้นกับพวกเราเช่นเคย แต่... คืนนั้นมีชาวไต้หวันด้วยหนึ่งคน
เรย์—ชายหนุ่มหน้าตี๋ที่อายุอานามไล่เลี่ยกับเรา ถือเป็นเพื่อนชาวไต้หวันอย่างเป็นทางการคนแรกในชีวิตของเราเลยก็ว่าได้
ที่จริงก็เหมือนกับการเจอเพื่อนเต้นสวิงทั่วไป ที่เรามักจะเดินเข้าไปทักทายเล็กน้อย แนะนำตัวนิดหน่อย แล้วก็ขอเต้นด้วยกันจนจบเพลง ก่อนจะกล่าวขอบคุณและแยกย้ายกันไปเต้นคู่กับคนอื่น เป็นอันเสร็จพิธี (จริงๆ โดยขนบผู้ชายต้องเป็นฝ่ายขอผู้หญิงเต้น แต่โลกมันเปลี่ยนไปแล้วค่าาาา ) แต่เหมือนช่วงนั้น
เราจะตื่นเต้นกับการได้ยินอะไรที่เกี่ยวกับ ‘ไทเป’ เป็นพิเศษ
แล้วอีกส่วนก็เพราะ...
จะพูดว่าไงดีล่ะ… สวิงเป็นการเต้นแบบเข้าคู่ พอจับมือกัน อยู่ในจังหวะเพลงเดียวกัน แล้วเต้นไปพร้อมๆ กัน มันก็มักจะเกิดการเชื่อมโยงกันระหว่างคู่เต้น คนสองคนจะต้องช่วยกันประคับประคองให้การเต้นดำเนินไปได้จนจบเพลง จะเต้นเก่งหรือไม่เก่งไม่สำคัญ แต่ความเชื่อมโยงที่พูดถึงนั้นจะทำให้เราพอสัมผัสได้ว่า คนที่เต้นอยู่ตรงหน้าเราคนนี้ บุคลิกแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้ กำลังจับมือกับเราอยู่ตอนนี้ จะเป็นคนที่สื่อสารกับเรารู้เรื่องได้หรือไม่
ซึ่งสำหรับเรย์แล้ว ดูจากภายนอกอาจจะไม่แน่ใจ แต่พอได้ลองเต้นคู่กัน จับจังหวะไปด้วยกัน เราก็รู้สึกว่าเรย์จะต้องเป็นเพื่อนที่ดีของเราได้แน่ๆ
วันนั้น เรย์ถามเราว่าเคยไปไทเปหรือยัง เราจึงตอบกลับไปทันทีเลยว่า
No, but see you soon in Taipei.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in