นับได้ว่าช่วงที่ไปฟิตเนสนั้น เป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุดในการไปเรียนที่จีน เพราะเราได้รู้จักผู้คนหลากหลายรูปแบบจากที่นั่น
ทุกครั้งที่ก่อนเล่นฟิตเนส เราจะต้องแสดงบัตรให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ตรงหน้าประตู
พี่สาวคนนี้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับฉัน เธอเรียนคณะสังคมสงเคราะห์ เราจะเจอกันทุกๆวันที่หน้าทางเข้าฟิตเนสนั่นแหล่ะ เราก็คุยกันบ่อย เธอเคยนำหมาที่เพื่อนเธอฝากเลี้ยงมาให้ฉันเล่น บางวันถ้าคนในฟิตเนสน้อยๆ เธอก็จะมาออกกำลังกายอยู่กับฉัน มีอยู่วันนึง มีอาจารย์โยคะ มาจากอินเดีย ซึ่งเก็บค่าเรียนเพิ่ม แต่ว่าฉันไม่ได้สมัครเรียนครั้งนั้น แต่วันนั้นฉันก็ไปที่ฟิตเนสเหมือนเคย และเธอคนนี้ก็เป็นคนพาฉันไปนั่งดูเขาเรียนโยคะฟรีๆอีกด้วย (ก็แน่ล่ะ เป็นคนตรวจบัตรนี่หว่า ทำไรก็ได้ 555555)
เมื่อถึงช่วงที่ฉันจัดกระเป๋าเตรียมกลับไทย ฉันมีของหลายอย่างที่ขนกลับไม่ได้ ฉันจึงกระจายของเหล่านี้ให้กับเพื่อนๆคนจีนของฉัน และก็ถือโอกาสร่ำลากันไปในตัว
สำหรับพี่สาวคนนี้ เธอได้รับกระเป๋าสะพายจากฉัน ซึ่งฉันได้ส่งข้อความไปบอกเธอล่วงหน้าแล้วว่าให้มารับของที่หอของฉันในมหาวิทยาลัย
เธอรู้ว่าพอฉันจบปีหนึ่งที่ไหหลำแล้ว ตอนปีห้ากับปีหก ฉันต้องกลับมาเรียนที่จีนอีกครั้งที่เซี่ยงไฮ้ (คณะฉันเดินทางบ่อยจริงๆเลยแฮะ เรียนนานอีกต่างหาก) เธอได้บอกกับฉันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
"พี่จะตั้งใจเรียนให้จบนะ และจะพยายามไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้จะได้ไปเจอเธออีกให้ได้"
ซึ่งฉันก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นในแววตาของเธอ
อาจเป็นเพราะฉันได้ส่งข้อความไปบอกเธอล่วงหน้ารึเปล่าก็ไม่รู้ เธอจึงได้เตรียมสร้อยข้อมือเชือกถักสีแดง ห้อยด้วยหยกรูปน้ำเต้าให้ฉันหนึ่งเส้น ซึ่งก็มีราคาค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน
เมื่อกลับไทยแล้วฉันก็ไม่ได้ใส่เชือกถักที่เธอซื้อให้ เพราะตอนนั้นฉันใส่ริสแบนด์ของ nike ที่ได้มาจากเทรนเนอร์คนหนึ่ง ( ซึ่งฉันอาจจะพูดถึงเขาในตอนต่อๆไปซักตอน ฝากรออ่านด้วยค่ะ อิอิ )
จนกระทั่งฉันได้ดูหนังจีนเรื่องหนึ่ง ในเรื่อง นางเอกได้รับเชือกถักแบบเดียวกับฉันจากคนแปลกหน้าโดยที่เขาได้บอกว่า เชือกเส้นนี้จะไม่หลุดง่ายๆ จนกว่าจะเจอเนื้อคู่ และในตอนจบ นางเอกก็รักกับพระเอกและเชือกเส้นนี้ก็หลุดออกจริงๆ
ด้วยความอินกับหนังจัด ฉันจึงได้ถอดริสแบนด์ออกและเปลี่ยนเป็นใส่เชือกถักของเธอแทน (ด้วยความคิดที่ว่ามันคงจะหลุดในเร็ววันแน่นอน ร้ายจริงๆเลยฉันนี่)
ฉันได้เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทฉันฟัง ทุกๆครั้งที่ฉันนั่งเล่นกันเพลินๆก็จะมีบ้าง ที่เพื่อนฉันทักขึ้นมา
" เป็นไง สร้อยแก เริ่มหลวมๆ หรือจะหลุดมั่งยัง ฮ่าๆๆๆๆ "
" ไม่มีวี่แววเลยแก ยังแน่นเหมือนเดิม เห้ออ "
และทุกครั้งที่โดนแซว ฉันก็จะก้มมายิ้มให้กับสร้อยของฉัน แต่ไม่ได้คิดถึงเนื้อคู่ของฉันหรอกนะ
ฉันคิดถึงคนให้ต่างหาก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in