Rum puh puh pum
Seongwu x Daniel
*เรื่องนี้แดนไม่ได้เป็นคนปูซานนะคะ
ปลายส้อมเขี่ยไข่คนในจานไปมา เพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะกันสนทนาอย่างออกรสออกชาติ ส่วนเขาก็ทำแค่ฟัง ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง และตอบคำถามเมื่อถูกถาม จนเมื่อรสไข่ในปากหมดไปเขาจึงค่อยตักขึ้นมากินอีกครั้ง
คังแดเนียลนั่งอยู่ในไดฟ์บาร์แห่งหนึ่งหลังเสร็จจากงานปาร์ตี้ เขาค่อนข้างหิวเพราะแทบไม่ได้ทานอะไรในงานนอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็กลับออกมากับเพื่อนอีกสองสามคน มาจบที่นี่ในเวลาเกือบเที่ยงคืน กินอาหาร พูดคุยกัน ลุกขึ้นไปหยอดตู้เพลงบ้างบางครั้งเมื่อรู้สึกว่าร้านเงียบเกินไป
เขายกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มเป็นครั้งสุดท้าย วางเงินไว้บนโต๊ะก่อนจะบอกลาเพื่อน ๆ สวมเสื้อแจ็คเกตแล้วกระชับเข้าหาตัว อากาศตอนนี้ค่อนข้างเย็นแม้ตอนกลางวันจะร้อนมากก็ตามที เป่าลมเข้าที่มือทั้งสองข้างจากนั้นก็เดินออกจากร้าน
ระหว่างทางมีเสาไฟทุก ๆ หกเมตรเพื่อให้แสงสว่าง ซึ่งก็ไม่ได้สว่างมากนักแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มองเห็นทางและเดินได้แบบไม่ต้องชนอะไร
เสียงโหวกเหวกดังขึ้นใกล้ตัว แดเนียลไม่ได้สนใจ เขาอยากกลับไปนอนซุกผ้าห่มอุ่น ๆ ที่ห้องเต็มที แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งรั้งเอาไว้
‘คุณ’ เขาเอ่ยปากเรียกเพียงแค่นั้นแต่กลับทำให้แดเนียลหยุดแล้วหันไปมอง ข้างหลังที่ไกลออกไปมีผู้ชายกลุ่มใหญ่เดินออกไปอีกทาง และตรงหน้าเขาก็มีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่
แดเนียลจำเขาได้ ผู้ชายในปาร์ตี้ที่แดเนียลไม่รู้จัก ในงาน เราสบตากันมากกว่าสามครั้ง เขายิ้มให้ แดเนียลไม่ได้ยิ้มตอบเพราะอยู่ดี ๆ เลือดก็ฉีดขึ้นแก้มจนอุ่นไปหมด
ทั้งที่คิดไว้ตั้งแต่ออกจากงานแล้วว่าคงไม่ได้เจอกันอีก แต่ดันได้มาเจอกันอีกครั้งแบบนี้
“ไปต่อกันไหมครับ”
ไม่มีคำถามใด ๆ หลุดจากปาก ไปที่ไหน ไปทำอะไร หรือแม้กระทั่งชื่อ แดเนียลก็ไม่ได้ถามออกไป เพราะทันทีที่พยักหน้าลงช้า ๆ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็ถือวิสาสะจับเข้าที่มือของเขาแล้วพาไปที่รถที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
ขับออกไปไม่นานก็จอดลงที่ลานโล่งข้างมินิมาร์ท เบียร์กับรถเปิดประทุน สายลมเอื่อย ๆ ในตอนกลางคืนพัดผ่านผิวกายเบา ๆ แดเนียลถอดแจ็คเกตไว้ที่เบาะข้างคนขับและตัวเขาเองตอนนี้นั่งอยู่ที่เบาะหลังกับผู้ชายที่ชื่อองซองอู
เรื่องราวไร้สาระที่เกิดขึ้นกับตัวเองในแต่ละวันถูกถ่ายถอดให้คนตรงหน้าฟังอย่างไม่ขัดเขิน ซองอูเป็นผู้ฟังที่ดี และเป็นผู้พูดที่ดีด้วย อารมณ์ขันของเขาทำให้คนหัวเราะง่ายอย่างแดเนียลยิ้มจนตาปิดตลอดเวลา และเสียงหัวเราะที่ดังออกมาไม่เคยมีแค่เสียงของแดเนียล ซองอูไม่ได้ปล่อยให้เขาหัวเราะเพียงคนเดียวเลยสักครั้ง
เริ่มจากการจับมือ กอด ท้ายที่สุด แผ่นหลังของแดเนียลก็แนบเข้ากับแผงอกของอีกคน เรียวขาชันขึ้นเพราะความยาวของเบาะรถไม่เพียงพอกับความสูงของเขา ลมหายใจอุ่นร้อนยังคงคลอเคลียอยู่ตามใบหูและหลังคอ กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆลอยมาเป็นระยะ ซองอูไม่ได้ดื่มเยอะเพราะเจ้าตัวบอกเองว่าดื่มไม่เก่ง เป็นแดเนียลซะอีกที่ดื่มไปมากกว่าครึ่ง
บทสนทนายังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ แดเนียลมีเรื่องที่อยากพูด อยากให้อีกฝ่ายรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาให้มากกว่านี้ เป็นความโลภที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ปลายนิ้วเรียวยาวไล้ไปตามฝ่ามือของคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง มันหยาบ กร้าน แบบมือผู้ชายทั่วไปแต่เมื่อจับมาไล้ผ่านแก้ม กลับให้ความรู้สึกดีอย่างเหลือเชื่อ
แดเนียลไม่เคยเจอผู้ชายที่มือไวขนาดนี้มาก่อน พูดเก่ง เข้ากับคนง่าย มีรอยยิ้มเสมอเวลาที่คุยกัน และถึงเนื้อถึงตัวอยู่ตลอด แต่เขาพึงพอใจ พอใจเพราะเป็นคน ๆ นี้
มือซุกซนที่เกลี่ยมือของซองอูไปมาไม่หยุดถูกจับขึ้นมาแนบที่ริมฝีปาก เนื้อนิ่มเมื่อสัมผัสเข้ากับไรหนวดบาง ๆ ก็สะดุ้งและค่อย ๆ ชักมือออก แดเนียลยันตัวขึ้นแล้วหันกลับไปมองอีกฝ่าย ซองอูไม่ได้ปล่อยมือออกอย่างที่แดเนียลต้องการ จูบเข้าที่หลังมือจนเกิดเสียงขึ้นเบา ๆ ริมฝีปากหยักบางเคลื่อนไปมา จูบซับไปเรื่อย ๆ พลางส่งลมหายใจร้อนรินรดลงบนเนื้อขาวนั่น
น้ำลายถูกกลืนลงผ่านลำคอขาวเนียน ไออุ่นจากอุ้งมือกร้านของซองอูแดเนียลรับรู้ได้ทั้งหมด มองแพขนตายาวอยู่นานจนกระทั่งดวงตาคมกลับขึ้นมาแทนที่อีกครั้ง และเมื่อสบตากันกลายเป็นว่าแดเนียลต้องหลบสายตาลงเพราะเขินอายเกินกว่าจะจ้องมองอีกฝ่ายได้
องซองอูขยับร่างกายเข้าหาจนใบหน้าห่างกันเพียงแค่นิ้วชี้กั้น จูบเบา ๆ ที่ปลายจมูกก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอุ่นอ่อน
“กลับกันนะครับ”
จูบเบา ๆ ที่หัวตาอีกครั้ง
“กลับไปกับผม”
นุ่มนวลในแบบที่คาดไม่ถึง และเร่งเร้าในตอนที่ร่างกายไม่อาจอดรนทนไหว
ริมฝีปากหยักเฝ้าพรมจูบไปตามร่างกายที่ซองอูแสดงออกให้เห็นว่าหลงใหลมากเพียงใด ฝ่ามือกร้านยามลูบไล้ผ่านผิวกายนิ่มลื่น คำหวานก็พรั่งพรูออกมาจากปากคนที่อยู่ด้านบน
ซองอูป้อนจูบให้อีกคนเมื่อถูกออดอ้อนด้วยริมฝีปากอิ่ม โถมกายเข้าหาอีกฝ่ายอย่างเอาแต่ใจ แต่คำที่พูดออกมากลับมีแต่คำปลอบประโลม กลิ่นกายหอมจากร่างกายขาวเนียนของคนตรงหน้าดึงดูดให้เขาฝังจมูกลงในทุก ๆ ที่ที่ไปถึง
ผ้าปูเตียงยับย่นจากการเคลื่อนตัวของคนที่อยู่บนเตียง เปียกชื้นจากเหงื่อที่ซึมออกมาจากแผ่นหลัง ฝ่ามือขาวระบายความอิ่มเอมที่ได้รับโดยการบีบเค้นบ่าขององซองอู แน่นขึ้น แรงขึ้น
จังหวะของพวกเขาเข้ากันได้เป็นอย่างดี เมื่อคราที่ซองอูรุกโหม แดเนียลก็เป็นฝ่ายโอนอ่อนผ่อนตาม คราที่แดเนียลเรียกร้อง ซองอูก็เป็นฝ่ายเติมเต็มให้จนล้นทะลัก
แดเนียลสุขล้นในอกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปลายนิ้วไล้ไปตามกรอบใบหน้าคม หยุดลงตรงที่ตำหนิสามจุดบนแก้มซ้าย ค่ำคืนในห้องปิดทึบ กลับมีดวงดาวสามดวงที่ยังคงเปล่งประกาย
แดเนียลมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ที่มันหนักแน่น มั่นคง ไม่มีแววสั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะเอนกายขึ้นจูบที่คางของอีกฝ่าย
ไม่ใช่แค่ซองอูที่หลงใหลในตัวเขา แดเนียลเองก็ไม่ต่างกัน
กลิ่นหอมสะอาดลอยมาเตะจมูกแดเนียลที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง เขาตื่นแล้ว เพราะรู้สึกเหมือนมีคนอยู่ใกล้ ๆ หันไปตามที่มาของกลิ่นก็เจอซองอูยืนอยู่ไม่ไกลจากเตียง กางเกงผ้ายีนส์เนื้อหนาเกาะอยู่อย่างหมิ่นเหม่ ด้านบนไม่มีอะไรปกปิด มีเพียงหยดน้ำที่หล่นลงมาจากผมที่ยังคงเปียกอยู่เกาะบนร่างกาย
ซองอูเดินไปหยิบเอาผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดที่ผมก่อนจะเห็นว่าคนขี้เซาที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วจึงเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ แดเนียลที่นอนมองมาจากเตียง
จับเข้าที่มือข้างที่อยู่ใกล้ขึ้นมาจูบ ไม่มีสัมผัสแปลก ๆ จากไรหนวดแล้ว แดเนียลเลยไม่ได้ชักมือออกอย่างเมื่อคืน แต่คราวนี้ซองอูจูบเบา ๆ เพียงหนึ่งครั้งแล้วกุมมือวางไว้บนตักของตัวเอง
“เจ็บไหมครับ” แดเนียลส่ายหน้าทั้ง ๆ ที่ศีรษะยังคงติดกับหมอน ซองอูยิ้มอย่างเอ็นดู ก้มตัวลงมาหอมเข้าที่ขมับ “ไปอาบน้ำเร็วครับ”
แดเนียลส่งเสียงงอแงออกมาเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินประโยคถัดไปจากเสียงนุ่มหวานนั้น ก็ยอมลุกขึ้นจากเตียงโดยดี
‘เราจะไปทะเลกัน’ นั่นคือสิ่งที่ซองอูพูด
รถยนต์สีขาวแล่นทะยานไปตามถนนด้วยความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดในยามบ่ายคล้อย ซองอูเลือกที่จะขับรถไปเอง ระยะทางจากโซลไปปูซานไม่ได้ไกลเกินที่เขาจะขับไม่ไหว
โทรศัพท์มือถือของทั้งคู่ถูกทิ้งไว้ที่ห้องชุดของซองอู อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เดียวที่พกมามีเพียงกล้องคอมแพค
จนกว่าจะกลับไป อาจใช้เวลาหนึ่งคืน หรือรวมอีกหนึ่งวัน หรืออาจมากกว่านั้น เวลาเหล่านี้จะมีเพียงพวกเขาสองคนที่อยู่ด้วยกัน มีเพียงองซองอู และคังแดเนียลเท่านั้น
ประทุนหลังคาค่อย ๆ เปิดออกเมื่อแดดที่สาดส่องมาทั้งวันเริ่มอ่อนหายไป ลมเย็นพัดมากระทบกับใบหน้าตามความเร็วของรถที่ขับอยู่ แดเนียลตะโกนออกมาอย่างสนุกสนาน ท้าให้คนขับมาตะโกนแข่งกัน ตะโกนเรื่องอะไรก็ได้ที่มันทำให้รู้สึกแย่จนอยากระบายออกมา ซองอูตะโกนตามอีกคน แข่งกันไปมาจนรู้สึกเหนื่อย แดเนียลบ่นงอแงทั้งที่เป็นคนชวนเล่นเองและนั่นทำให้ซองอูหัวเราะ
หลังจอดเติมน้ำมัน ขับมาได้อีกสักพักซองอูก็เจอร้านสะดวกซื้อจึงแวะให้ทั้งเขาทั้งคนที่นั่งมาเป็นเพื่อนได้พักไปด้วย
ไอศกรีมเย็นจัดแนบเข้าที่แก้มขาว แดเนียลรับมาแล้วทั้งคู่ก็นั่งกินไอศกรีมกันที่โต๊ะด้านหน้าร้าน พูดคุยเรื่อยเปื่อยกันอีกครั้ง หยิบเอากล้องคอมแพคมาเพื่อที่จะถ่ายรูปด้วยกัน จากนั้นก็ถกเถียงกันเรื่องจะถ่ายยังไงให้รูปออกมาดูดีในเมื่อกล้องคอมแพคมันไม่สามารถมองเห็นตัวคนถ่ายได้
สุดท้ายแล้วก็เดินเข้าร้านสะดวกซื้อกันทั้งคู่เพื่อวานขอให้พนักงานแคชเชียร์ช่วยถ่ายให้
ทั้งสองคนยิ้มตามที่พนักงานบอก แดเนียลชูสองนิ้วขึ้นมาตามหลัง ก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงสันจมูกของอีกฝ่ายที่ฝังลงไปในแก้ม
นั่นคือรูปถ่ายรูปแรกที่พวกเขาถ่ายด้วยกัน
กว่าจะถึงปูซานก็เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว ฟ้ามืดแต่เพราะเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงและแสงจากเสาไฟข้างทางทำให้หาดทรายไม่มืดเกินไป
แดเนียลนั่งอยู่บนเสื่อชายหาดที่ซองอูเพิ่งซื้อมา รออีกคนไปซื้อพิซซากับเครื่องดื่ม ปลายกิ่งไม้ที่อยู่ในมือเขี่ยทรายไปมาจนกลายเป็นชื่อของเขาและซองอู เขียนไว้ข้าง ๆ กัน
แดเนียลไม่รู้ว่าต้องเขียนอะไรลงไประหว่างชื่อพวกเขาทั้งสองคน เพราะอย่างนั้นจึงทิ้งว่างเอาไว้ จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าซองอูยืนอยู่ข้างหลังถึงได้ใช้รองเท้ากวาดคำพวกนั้นให้หายไป
พิซซาคำแล้วคำเล่าถูกส่งเข้าปาก ดวงตาทอดมองไปยังทะเล ซึมซับเอาบรรยากาศ ลมเย็น ๆ เสียงเกลียวคลื่น สูดเอากลิ่นเค็มของทะเลเข้าปอด เขาไม่ได้เจออะไรแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ
แดเนียลดูดปลายนิ้วที่เปื้อนซอสพิซซาแล้วเปิดถุงร้านสะดวกซื้อหยิบเอาเครื่องดื่ม เมื่อเห็นว่าไม่มีเบียร์จึงเอ่ยปากถามอีกคนอย่างสงสัย
“ไม่มีเบียร์เหรอ”
ซองอูหันมามอง พยักหน้ารับคำ “โนแอลครับ”
ริมฝีปากอิ่มยู่เข้าหากันพลางบ่นพึมพำ ทำเอาอีกคนต้องท้วงขึ้นมาอย่างอดขำไม่ได้ “จะกินทุกวันเลยเหรอครับ เบียร์น่ะ”
“ก็ผมชอบ”
ซองอูดึงแขนอีกคนเบา ๆ “งั้นขยับมานี่ครับ” แดเนียลทำตามอย่างว่าง่ายเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร จนกระทั่งได้รับสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปากนั่นแหละถึงได้รู้สึกตัว
“น่าจะแทนกันได้นะครับ อย่างน้อยก็ทำให้คุณเมาได้เหมือนกัน” ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างพอใจโดยไม่สนสายตาที่มองค้อนมา
เวลาร่วมชั่วโมงที่ทั้งคู่นั่งทานอาหารสำหรับมื้อค่ำนี้ เก็บกวาดเศษขยะเรียบร้อยและซองอูเองก็พับเสื่อไปเก็บไว้ที่รถก่อนที่จะเริ่มเดินเลียบชายหาดไปเพื่อไปดูงานดนตรีเล็ก ๆ ที่หาดอีกฝั่ง ได้ยินคนในร้านพิซซาพูดกัน นั่นคือสิ่งที่ซองอูบอก
องซองอูมองเกลียวคลื่นกระทบฝั่ง เส้นผมปลิวไปตามแรงลม ทะเลที่ไกลออกไปจนสุดลูกหูลูกตาและจมหายไปกับความมืด ดวงดาวเต็มท้องฟ้าอย่างที่น้อยครั้งจะเห็นได้ในโซล ทุกอย่างล้วนสวยงาม โดยเฉพาะคนที่เดินอยู่ข้างเขา
รอยยิ้มที่ส่องแสงสว่างจ้าราวกับพระอาทิตย์ขึ้นตอนกลางคืนมีประดับอยู่บนใบหน้านั้นเสมอ ยิ่งเข้าใกล้ระยะที่ได้ยินเสียงเพลง ท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็ก ๆ ของแดเนียลทำให้เขาพลอยยิ้มตามไปด้วย
ไกลเกินกว่าจะหวนกลับ ถลำลึกเกินกว่าจะถอนตัวขึ้น
ถ้าบอกว่าเขารู้สึกรักแดเนียลตั้งแต่คืนแรกคงจะดูเกินไปหน่อย แต่วันนั้นหลังจากตื่นมา เห็นคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ อยู่ดี ๆ ก็มีความคิดที่ว่าอยากจะกอดเอาไว้อย่างนี้ทุกเช้าเข้ามาในหัว
...อยากกอดคุณไว้ด้วยอ้อมกอดของผม บอกรักคุณทุกวันด้วยเสียงของผม แลกเปลี่ยนลมหายใจกับคุณ รักคุณให้เหมือนกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย
เพราะคิดได้อย่างนั้น ถึงได้ชวนมาทะเลกะทันหันแบบนี้ เพราะอยากอยู่กับอีกคนนานกว่านั้น แค่นี้เอง
ซองอูไม่อยากให้แดเนียลจากไปทั้งที่เราเพิ่งจะรู้จักกันได้แค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิตกันและกัน เขาอยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแดเนียล อยากให้แดเนียลรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขา
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาแค่นี้ เขารักทุกอย่างที่เป็นแดเนียล พยายามบอกกับตัวเองว่ามันคือความหลงใหล แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มแสนหวานจากคนตรงหน้า หัวใจเขาก็อ่วนยวบลงทุกครั้ง
ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะให้เวลาหยุดลงแค่ตรงนี้ ตรงนี้เขาได้อยู่กับแดเนียลเพียงแค่สองคน
เสียงเพลงจากวงดนตรีอินดี้บนเวทีขนาดเล็กกลางพื้นทราย ดนตรีจังหวะกลางๆเป็นตัวเร้าชั้นดีที่ทำให้ร่างกายของแดเนียลค่อย ๆ ขยับไปตามจังหวะเพลง จับมือคนข้าง ๆ เอาไว้ เชิญชวนให้อีกคนขยับร่างกายไปด้วยกัน องซองอูปฏิเสธ และคำตอบที่แดเนียลได้รับคือ ‘เต้นไม่เป็นครับ’
รอยยิ้มถูกเผยขึ้นบนริมฝีปากอิ่มสวย ดวงตากลมเรียวค่อย ๆ เล็กลงตามความกว้างของรอยยิ้มนั้น แสงไฟจากเวทีเมื่อกระทบเข้ากับผิวกายขาวตรงหน้า— แดเนียลทำให้ตาของซองอูพร่ามัวลงอีกครั้ง
กว่าที่จะได้สติจากภาพตรงหน้าก็เป็นตอนที่เรียวแขนยาวยกขึ้นมาคล้องเข้าที่ลำคอของเขา ซองอูสบตาเข้ากับคนที่ยืนประจันหน้ากัน ใช้นิ้วเกลี่ยที่จุดตำหนิใต้หางตาขวาอย่างเผลอไผล
“ขยับตามผม” เสียงทุ้มของแดเนียลถูกกระซิบที่ข้างใบหู
ร่างกายของแดเนียลเริ่มเคลื่อนไหวไปมาเป็นจังหวะที่ไม่เร็วมาก องซองอูทำแค่เพียงก้าวเท้าตามอีกฝ่ายเท่านั้น ก่อนจะรู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มนิ่มที่ต้นคอ
ริมฝีปากอิ่มจูบไปตามลำคอหนาอย่างหลงใหลโดยที่แขนยังคงคล้องอยู่กับคอของอีกฝ่าย ไล่ไปตามแนวสันกราม จอนผม และหลังใบหูตามลำดับจนกระทั่งมือที่ว่างอยู่ทั้งสองข้างของซองอูวางลงบนสะโพกของเขาจึงกระชับอ้อมแขนเพื่อให้เข้าใกล้กับคนตรงหน้ามากขึ้น
จังหวะเพลงยังเป็นตัวนำให้ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่เคลื่อนไหวตาม แดเนียลคลอเคลียออดอ้อนด้วยการจูบอย่างแผ่วเบาตามโครงหน้าหล่อคมของอีกคน ทุกจุดที่เขาชอบ ริมฝีปากหยัก ปลายจมูกโด่ง แนวสันกราม รวมถึงตำหนิตรงแก้มซ้าย
จูบครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังคงไม่พอใจ กดจูบริมฝีปากตัวเองลงบนรอยหยักสวยของริมฝีปากบนตรงหน้าจนรอยหยักจมหายไปกับเนื้อนุ่มสีอ่อนของแดเนียล
ถอยออกมา ก่อนจะย้ำลงไปอีกครั้ง
ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นองซองอูที่ไม่ยอมปล่อยให้เขาถอยออกมา กลีบปากบดเบียดเข้าหากันอย่างล้ำลึก ใช้ปลายลิ้นรุกไล่แดเนียลจนอีกคนกลายเป็นเด็กที่ไม่ประสาในการจูบ
ภายในหูอื้ออึงเพราะเสียงเพลง ไอร้อนจากร่างกายทั้งคู่ทะลุผ่านเสื้อยืดที่ใส่อยู่จนรับรู้ได้ ซองอูกล่อมแดเนียลด้วยความนุ่มหวาน ล่อลวงให้ริมฝีปากอิ่มสวยคล้อยตาม ครั้นจะถอนจูบออก ก็เป็นแดเนียลที่ออดอ้อนเรียกร้องให้เขาละเลียดชิมรสชาติของตัวเองต่อไป
ปลายเท้าหยุดเคลื่อนไหวไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่อาจรู้ได้— ไม่ถึงขั้นพอใจ แต่ต้องตัดใจผละริมฝีปากออก ผิวเนียนละเอียดที่ขึ้นสีระเรื่อด้วยแรงอารมณ์น่ามองกว่าเป็นไหน ๆ
ริมฝีปากสีสวยที่บัดนี้เต่งออกเพราะการจูบทำให้ซองอูก็ยังคงอดใจไม่ไหว กดจูบแนบแน่นลงไปแรง ๆ ก่อนจะย้ายไปที่แก้มขาวนวล หอมฟอดใหญ่ทั้งยังคลอเคลียต่ออยู่อย่างนั้น
ผละออกมาเพื่อสบตากันครั้งที่นับไม่ถ้วน
แดเนียลต้องการให้ซองอูพาเขาไปยังที่ไหนก็ตามที่มีเพียงเรา จะไกลแค่ไหน เป็นสรวงสวรรค์ หรือจักรวาลใด
และสายตานั้นก็ยังคงบอกกับแดเนียลแบบเดิมกับเมื่อคืนวาน แบบเดียวกับที่กระซิบข้างหูเขาเมื่อครู่นี้
“ไปกันเถอะครับ”
บนถนนตัดเลียบชายฝั่งในเวลาดึกแบบนี้ ยังคงมีรถเปิดประทุนสีขาวแล่นไปด้วยความเร็วเอื่อย ๆ ก่อนรถจะจอดลงที่ริมผาแห่งหนึ่ง ไร้คนพลุกพล่าน มีเพียงเสียงคลื่นทะเลกระทบกับโขดหินเท่านั้น
เอนกายอิงแอบกันที่เบาะหลังเหมือนกับเมื่อคืนวาน ซองอูหยิบเอาเสื้อคลุมมาห่มร่างกายของคนตรงหน้า จากนั้นก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
แดเนียลสอดมือออกมาจากเสื้อคลุม กุมเข้าที่มือของคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ลูบไปมาช้า ๆ เพื่อเพิ่มความอุ่น พยายามไม่คิดถึงอนาคตหรือวันพรุ่งนี้ เพราะสิ่งที่เป็นอยู่มันดีมากจนไม่อยากคาดหวังอะไรอีกต่อไปแล้ว
เขาชอบ ชอบที่มันเป็นแบบนี้
ฟันขบเข้าที่ริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกที่ไม่อยากสูญเสียอะไรไปพรั่งพรูขึ้นมาในอก แดเนียลไม่อยากให้ซองอูเป็นแค่ฝัน ที่เมื่อพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาแล้วอีกฝ่ายจะหายไป เขาอยากให้องซองอูเป็นคนที่มีอยู่จริง อยู่ในชีวิตเขาจริง ๆ
ปลายนิ้วกร้านลูบผ่านริมฝีปากที่ถูกขบไว้อย่างแผ่วเบา ราวกับซองอูรู้ว่าอีกคนมีเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจ แดเนียลหันหน้ากลับไปหาเจ้าของฝ่ามือที่กำลังไล้แก้มของเขา น้ำเสียงอุ่นอ่อนกระซิบปลอบประโลมซ้ำไปซ้ำมา
ศีรษะซุกลงบนบ่า แดเนียลปล่อยลมหายใจให้ไหลไปตามจังหวะของมัน องซองอูก้มลงมาคลอเคลียกับแก้มขาวที่อยู่บนบ่าซ้ายของเขา ฝังจมูกลงไปตามใบหน้าไล่จากขมับจนถึงปลายคาง ขยับแขนเพื่อกระชับอ้อมกอด และแดเนียลก็ช่วงชิงมือเขาไปกอบกุมไว้อีกครั้ง
นำทางมือกร้านมาจนเหนือจุดที่ต้องการ วางมือนั้นลงอย่างช้า ๆ ทาบทับด้วยมือของตัวเอง
องซองอูไม่ได้รับรู้ถึงจังหวะหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ หากแต่กลับรู้สึกได้ถึงความอุ่นจากร่างกายคนตรงหน้าแผ่เข้ามาในมือ ความรู้สึกรักที่แดเนียลต้องการให้เขาสัมผัส ซองอูรับรู้ถึงมันแล้ว
ผละมือออกแล้วจับอีกคนให้หันหน้ามาจนสามารถสบตากันได้ จับเอามือขาวขึ้นมากดจูบเบา ๆ สูดดมกลิ่นกายหอมหวานผ่านหลังมือนั้น ฝังจมูกลงซ้ำ ๆ จนท้ายที่สุดก็ทำแบบเดียวกับที่แดเนียลทำกับเขา
มือนิ่มวางลงบนหัวใจของเขาและซองอูก็กุมมืออีกคนไว้ให้วางอยู่อย่างนั้น ใช้แขนอีกข้างโอบกอดแดเนียลเข้ามาใกล้ กดจูบลงกลางศีรษะ
แดเนียลหันหน้าไปหาอีกคนจนปลายจมูกสัมผัสกัน ซองอูกดจูบลงที่ปลายจมูกมนอย่างแผ่วเบา แก้มขาวนวลทั้งสองข้างถูกหอมย้ำ ๆ ช้า ๆ แดเนียลขยับร่างกายออดอ้อนนัวเนียขอรับสัมผัสอ่อนโยนเหล่านั้นมากขึ้นอีก
ทั้งสันกราม ต้นคอขาว แอ่งไหปลาร้า ทุกที่ถูกริมฝีปากหยักและปลายจมูกโด่งสูดดมความหอมแล้วสิ้น จูบลงที่ใต้ใบหู ทิ้งลมหายใจให้ไหลผ่านไปเรื่อย ๆ ก่อนจะกระซิบเอ่ยคำที่เขาอยากจะพูด คำที่แดเนียลอยากได้ยินมัน
ให้แสงจันทร์ ดวงดาว เกลียวคลื่น และจูบนี้เป็นพยาน ว่าหัวใจของเขาตอนนี้ มีไว้เพื่อรักคังแดเนียลเท่านั้น
fin.
เป็นความสัมพันธ์ที่ต่างคนต่างลุ่มหลงกันและกันแล้วก็ฉาบฉวยมากๆ 5555555
ถ้ามีตรงไหนที่อ่านแล้วงงๆขอโทษด้วยนะคะ ตอนเขียนไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่ ฟังเพลงไปด้วยละในหัวมันร้องเพลงออกมาเองตลอดเลย 5555555555
หวังว่าทุกคนอ่านแล้วจะมีความสุขกันนะคะ ♡
#xxyzfic
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in