มันเป็นเรื่องยากกับการปฏิเสธในสิ่งที่เกิดขึ้น หากพูดถึงความหมายของคำว่า "ครู" ตามความคิดเห็นของคนทุกคน ครูคือผู้สอนนักเรียน-นักศึกษา แต่สำหรับหน้าที่ของครูในโรงเรียนที่ที่ห่างไกลจากตัวเมือง ไม่ได้มีหน้าที่แค่สอนเท่านั้น
นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้ ครูผู้ชายบ้านนอกอย่างผม นอกจากเป็นครูสอนนักเรียนแล้ว ยังมีเวรยามกลางคืนอีกด้วย ซึ่งเวรกลางคืนของครูในโรงเรียนนี้ จะถูกจัดในช่วงคืนวันศุกร์และวันเสาร์ หน้าที่หลักของคนที่เฝ้าเวรยามกลางคืนจริงๆ ก็คือภารโรง แต่ละคืนจะมีภารโรงเฝ้าเวรยามคืนละ 1 คน ภารโรงเพียงคนเดียวคงดูแลความปลอดภัยไม่ทั่วโรงเรียน ดังนั้นการมีครูเวรกลางคืน ก็เป็นเพื่อนช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยด้วย มันเป็นเรื่องของอำนาจภายใต้การบังคับบัญชาจากผู้ใหญ่ในโรงเรียนแห่งนี้ ก็พยายามจะเข้าใจนะว่าทำไมเป็นเช่นนั้น แต่...สำหรับผมก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก
คืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมอยู่เวร ผมเซนชื่อปฏิบัติงานที่ห้องธุรการ แล้วก็ออกไปซื้อข้าวซื้อแกงที่อยู่หน้าโรงเรียน คืนนี้ยังอีกยาวไกล ยังไม่รู้ว่าฟ้าจะสว่างเมื่อไหร่ การเตรียมตัวข้าวปลาอาหารให้พร้อมถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ
ผมหิ้วถุงข้าวถุงแกงเดินจากหน้าโรงเรียนมาจนถึงอาคารเรียน 1 ซึ่งเป็นอาคารเรียนที่คน
ภายนอกมองเห็นได้ถนัดตา ถ้าจะเปรียบอายุอาคารนี้ คงจะราวๆ 50-60 ปี เป็นอาคารเรียนสองชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นปูน ชั้นบนเป็นพื้นไม้ ซ้าย-ขวา เป็นทางเดินขึ้นบันได รูปแบบอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม -
ผืนผ้า วางทอดตัวยาวจากทิศตะวันออกจนถึงทิศตะวันตกของโรงเรียน ด้านหน้าของอาคารเรียนติดกับสนามหญ้าและลานหน้าเสาธง ด้านหลังติดกับห้องน้ำห้องส้วมและรั้วกำแพงโรงเรียน
ก่อนที่ผมเดินขึ้นไปห้องธุรการ ผมสะดุดตากับคุณลุงคนหนึ่ง ท่าทางไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาเลย ลักษณะเครื่องแต่งกายก็พออนุมานได้ว่าเป็นภารโรง อาจจะเป็นเพราะว่าเดือนนี้เขาอยู่เวรกลางคืน
ทำให้ผมไม่เคยเจอเขาในตอนกลางวัน อย่างไรก็ตาม ผมควรทักทายกับเขา เพราะในคืนนี้มีผมกับเขาเพียงแค่สองคน ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา อย่างน้อยก็ช่วยเหลือกันได้
ผม : สวัสดีครับ คุณ....เอ่อ....
ภารโรง : เออ สวัสดีหลาน เป็นครูที่ย้ายมาใหม่ใช่ไหมเนี่ย ยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย
ผม : ครับๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ
ภารโรง : แหม่ๆ ลุงดีใจที่ไม่ได้เจอครูหนุ่มๆ ย้ายมาอยู่ที่นี่มานานแล้ว ก็งี้แหละ...ครูหนุ่มๆ สมัยนี้
ส่วนใหญ่เลือกบรรจุโรงเรียนในตัวเมืองกันทั้งนั้น เห็นหลานย้ายมาอยู่ที่นี่ ลุง
เองก็ดีใจ เออว่าแต่ว่า กินข้าวกินปลามาแล้วหรือยังล่ะ?
ผม : ยังเลยครับ...ผมเพิ่งกลับมาจากการซื้ออาหารพอดีเลย ลุงจะมากินด้วยกันกับผมไหม
ภารโรง : ลุงกินมาแล้ว หลานกินได้ตามสบายเลยนะ
ผม : ครับๆ ลุง...เออ..ลุงชื่ออะไรหรือครับ
ภารโรง : ลุงบุญส่ง มีอะไรก็ให้ลุงช่วยเหลือก็เรียกกันได้นะ
ผม : ครับๆ
ผมจบบททนาสั้นๆ ยิ้มให้กับลุงก่อนเดินไปห้องธุรการ ผมวางถุงข้าวถุงแกงลงบนโต๊ะรับแขก เปิดทีวีด้วยรีโมต และหย่อยตัวลงบนโซฟา สายตาจ้องมองทีวี วันนี้มีีรายการอะไรน่าสนใจบ้างหนอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in