"แสงเรืองๆ ที่ส่องประเทืองอยู่ทั่วเมืองไทย..."
ผมจำเนื้อร้องของเพลงนี้ได้ดี มันเป็นเพลงสำหรับที่ทำให้คนหลายคนตระหนักถึงคุณค่าแม่พิมพ์ของชาติ ความปราณีตและละมุนละไมของเนื้อเพลง ทำให้จินตนาการถึงภาพครูในพื้นที่ห่างไกล ด้วยเหตุนี้เอง เพลงดังกล่าวสร้างแรงบันดาลใจให้ผมมุ่งมั่นอยากเป็นครู
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ห่างไกลจากตัวเมือง การเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซต์มันไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ถึงแม้ว่าผมเคยสำรวจเส้นทางการเดินทางมาโรงเรียนแล้วก็ตามเถอะ แต่สภาพถนนดินแดงที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อแบบนี้ ทำให้ผมต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง
เมื่อคืนผมแทบจะนอนไม่หลับ จิตใจผมว้าวุ่นเป็นอย่างมาก ผมมีคำถามมากในหัวสมอง ผมต้องปฏิบัติตัวต่อหน้าเด็กๆ ทุกคนอย่างไร พวกเขาจะเรียบร้อยขนาดไหน วันแรกจะเป็นยังไง เขาจะได้อะไรจากผมไปบ้าง ผมไม่อยากจะเดาเหตุการณ์วันพรุ่งนี้ไปเรื่อยๆ แต่อย่างน้อยผมก็จะทำเต็มที่กับวันพรุ่งนี้
ช่วงเวลาของกิจกรรมเคารพธงชาติมาถึง เด็กนักเรียนทุกคนทยอยเข้าแถวหน้าเสาธง ความทรงจำในวัยเด็กเรียนของผมก็โผล่แว่บเข้ามา ผมเป็นคนยืนหน้าแถว เป็นคนที่ทุกคนมอบหมายให้ผมเป็นหัวหน้าห้อง ในตอนที่เลือกหัวหน้าห้อง เพื่อนๆ คงคิดว่าไอ้เด็กผู้ชายที่มันใส่แว่น หน้าตาติ๋มๆ อย่างนี้คงเหมาะตำแหน่งหัวหน้าห้องอย่างแน่นอน แต่อันที่จริงแล้วคนอย่างผมคงไม่เหมาะจะเป็นผู้นำด้วยซ้ำไป
หลังจากนั้นสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ตัวแทนนักเรียนของโรงเรียน เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวต้อนรับการเปิดเทอมของโรงเรียน นักเรียนทำความเคารพต่อผู้อำนวยการ หลังจากนั้นผู้อำนวยอนุญาตให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นสนามหญ้า บรรยากาศในช่วงเช้าค่อนข้างร้อน ผมมองเห็นนักเรียนบางกลุ่มหยิบสมุดบังแดด บางกลุ่มหยิบพัดออกมาพัดคลายร้อน แต่เมื่อเทียบกับผู้อำนวยการที่ยืนภายใต้ร่มเงาของอาคาร ช่างเป็นภาพที่น่าสงสารนักเรียนเป็นอย่างยิ่ง
ผมคิดไปเรื่อยเปื่อยจนถึงเวลาผู้อำนวยการเปลี่ยนหัวข้อเรื่องในการพูด มันเป็นสัญญาณเตือนให้ผมเตรียมตัวแนะนำตัวต่อหน้านักเรียนหลายร้อยคนได้แล้ว ผมจัดแต่งเสื้อและกางเกงให้เรียบร้อย จัดให้ดูดีที่สุดเพื่อให้นักเรียนและบุคคลในโรงเรียนนี้ประทับใจ
"วันนี้ขอแนะนำคุณครูคนใหม่ คุณครูป้องเกียรติ ที่จะมาสอนพวกเราในวิชาวิทยาศาสตร์ ขอเชิญครับ"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in