‘
‘....’
‘
อยู่ดีๆ คนตัวเล็กที่เพิ่งเดินมาทิ้งตัวลงที่ที่ว่างข้างๆก็ถามออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
‘
ผมตอบออกไปอย่างไม่ได้สนใจอะไรนัก
‘
เธอตอบผมกลับพร้อมรอยยิ้มกลั้วหัวเราะ
‘
ผมตอบอย่างที่ใจคิดแต่เมื่อหันไปมองคนข้างๆ กลับพบใบหน้ามุ่ยที่ยื่นเข้ามาใกล้อย่างใช้ความคิดหนัก
‘
‘
‘
เธอตอบพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าและเสียงหัวเราะที่ดูจะพอใจกับวิธีการแก้ปัญหาของเธอ
‘
เธอ....
คำตอบที่ไม่ได้ตอบออกไปเพราะประโยคที่เธอกล่าวมาตามหลัง มันทำให้ผมเข้าใจสถานะทุกอย่าง
‘สำหรับเพื่อนดีๆแบบเธอ เราทุ่มสุดตัวอยู่แล้ว!’
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ในวันเกิดของเธอปีที่แล้วเราเจอกันครั้งแรก
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าพรหมลิขิต แต่เราก็ดันโคจรมาพบกัน ในวันที่เธอโดดเด่นที่สุดและมันก็ทำให้ผมรู้สึกใจเต้นผิดปกติ
เราคุยกันถูกคอเหมือนกับรู้จักกันมาแรมปีและก่อนคืนนั้นจะจบลง มิตรภาพของเรามันก็งอกงามพร้อมที่จะเบ่งบานในรุ่งอรุณถัดไป
‘
เธอพูดไปหน้ามุ่ยไปเพราะเราเจอกันในตอนที่วันเกิดผมมันเลยผ่านไปแล้ว
‘
ผมตอบออกไปตามตรงทั้งๆที่คิดว่าจะไม่ได้มาข้องเกี่ยวอะไรกับงานวันนี้ แต่ก็ดันไม่มีที่ไปซะงั้น
‘
เธอบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้ดวงตากลมโตของเธอเหลือเป็นแค่รูปพระจันทร์เสี้ยวกลับหัว
ความในใจเล็กๆที่ผุดขึ้นมาในวินาทีนั้น ถ้าการที่เธอได้รู้จักผมเป็นของขวัญที่ดีสุดๆของเธอแล้วการที่ผมได้รู้จักเธอก็คงเป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเหมือนกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เวลาผ่านไปเป็นวันเป็นเดือน เป็นปี มิตรภาพของเราเติบโตขึ้นทุกวัน ผลิดอกออกใบใหม่ เหมือนต้นไม้ที่ยังมีแรงในการเติบโตและไม่มีวันตาย ต้นมิตรภาพที่เรา 2 คนช่วยกันดูแลเติบโตสวยงาม ที่ไหนที่มีผมก็มักจะมีเธอแวะเวียนอยู่เสมอเพื่อนเก่าๆต่างก็สงสัยว่าเพราะอะไรเราถึงสนิทกันมากมายขนาดนี้ในระยะเวลาที่ไม่มากไม่น้อยและเราต่างก็ยิ้มให้กัน เหมือนกับว่ามีคำตอบที่เรารู้กันเพียงแค่ 2 คน
ในขณะที่ต้นมิตรภาพของเราเติบโตมากกว่าที่ใครๆจะรู้ต้นรักที่ผมแอบปลูกอยู่คนเดียวนั้น ก็เติบโตอย่างสูงใหญ่และมั่นคงไม่แพ้กัน
‘
เธอยื่นรูปในโทรศัพท์มาให้ผมดูผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นที่รู้จักดีของหลายๆคน หน้าตา นิสัย ฐานะ แทบไม่มีอะไรพร่องเลยสักนิดเดียว
‘
‘
เธอยิ้มและถามหาคำตอบอย่างตรงไปตรงมา
‘
ดูท่าแล้วเธอคงชอบเขาไม่น้อยแต่ที่เลือกมาถามก็แค่คงขาดความมั่นใจที่จะตัดสินใจเท่านั้น
ไม่เหมาะหรอกคนอย่างเขา อย่าไปเลยนะ
‘
เธอยิ้มกว้างและบอกขอบคุณพร้อมกับตอบกลับข้อความที่คงเป็นสาเหตุของคำถามนี้
ไม่รู้เลยว่าเธอไปเจอกับเขาตอนไหนไม่รู้อีกว่าทำไมถึงให้คำแนะนำที่ตรงข้ามกับใจ และหนักหนาเกินกว่าที่ตัวเองจะทำได้ด้วยซ้ำแต่ก็ดีใจนะที่เธอทำมันได้อย่างกล้าหาญ
ต้นไม้แห่งมิตรภาพของเรายังคงเติบโตเช่นเดียวกับต้นรักของผมที่ยังมั่นคง... แต่ปลูกอยู่ลำพัง
-------------------------------------------------------------------------------------------------
‘
‘....’
‘
บรรยากาศค่อนข้างอึมครึมเธอทะเลาะกับเขาอีกครั้ง โดยมีสาเหตุเป็นเพราะผม
‘
‘
เธอกระแทกเสียงกลับมาพร้อมใบหน้าที่บูดบึ้งตลอดเวลาที่เธอคบกับเขามา หัวข้อของการทะเลาะนี้ไม่เคยหายไป ซึ่งผมก็พอเข้าใจเหตุผลเป็นอย่างดี
ใครจะไปอยากให้แฟนอยู่ใกล้คนที่แอบชอบแฟนตัวเองบ้าง
‘
เธอโกรธเหมือนควันจะออกจากหูแต่ผมรู้ว่าเธอก็รักเขามาก เช่นเดียวกับที่เธอรักในมิตรภาพของเรา เพราะเธอไม่ใช่คนอดทนนักแต่กับเรื่องนี้ ที่ทะเลาะกันได้ซ้ำไปซ้ำมา ถ้าเธอจะเลือกเขา หรือผม เธอก็คงสามารถตัดใครออกไปเลยก็ได้แต่เธอไม่ทำ เพราะมันก็คงเป็นสิ่งที่สำคัญของเธอทั้งสองอย่าง
‘
ผมพูดให้กำลังใจเธอแต่มันก็เป็นความจริงที่ผมเห็นเสมอ เพราะเขาก็รักเธอเกินกว่าจะยอมเสียเธอไป ทุกครั้งที่ทะเลาะกันในเช้าของวันรุ่งขึ้น เขาก็มักจะปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตูเพื่อขอโทษ เป็นแบบนี้เสมอ
‘
เพราะการทะเลาะกันครั้งนี้มันเกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกเธอจึงได้แต่ขับรถมาระบายกับผมอย่างเร็วที่สุด ไม่ได้คำนึงถึงอนาคตอันใกล้ หรือไกลแม้แต่นิดเดียว
‘
‘
เธอยิ้มให้ผมอย่างจริงใจก่อนที่จะเข้าไปในห้องเพื่อหยิบเสื้อผ้า
เธอหายไปพักหนึ่งก่อนจะเดินออกมาด้วยท่าทีกระสับกระส่ายอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
‘
เธอยิ้มให้อย่างร้อนรนก่อนจะรีบคว้ากุญแจรถและเดินออกไป อย่างที่ผมไม่ทันได้บอกลา
ผมกลับเข้าในห้องกล่องกระดาษใบหนึ่งที่เคยวางอยู่บนตู้หล่นลงมา ภายในบรรจุผลผลิตของต้นรักของผม รูปถ่ายไดอารี่ ทุกอย่างที่บอกความในใจของผม ทุกอย่างมันปะทุออกมาจากใจ และจากกล่องกล่องนี้
เธอคงได้เห็นมันเพราะมันคงร่วงลงมาด้วยสาเหตุอะไรบางอย่างที่ผมเองก็ไม่รู้ และแน่นอนว่าผมไม่ได้ตั้งใจ
ผมไม่รู้และไม่เคยเตรียมใจเลยว่ารอยยิ้มกว้างสุดท้ายที่ผมจะได้รับจากเธอ จะเป็นวันนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------
‘
เธอส่งข้อความมาซึ่งมันก็เป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ จากวันที่ส่งข้อความก่อนหน้า
นานมากจริงๆที่เราต่างค่อยๆห่างกันไป จนเพื่อนๆเราก็ต่างมีข้อสงสัยถึงปรากฏการณ์นี้มากกว่าครั้งที่เราสนิทกันแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอื้อนเอ่ยคำถามใดออกมา
ต้นไม้แห่งมิตรภาพของเราไม่ได้โตเร็วเหมือนแต่ก่อนแต่ก็ยังคงอยู่ตรงนั้น เราพบกันบ้างบางครั้งตามงานของเพื่อนๆ เรายังคงทักทายกันราวกับว่าทุกสิ่งเป็นปกติ
‘
เพราะผมไม่รู้จะพิมพ์อะไรกลับไปจึงตอบไปแบบนั้น และจ้องมองหน้าต่างแชทที่คิดถึง
‘
Senda photo
เธอส่งข้อความมาพร้อมกับรูปรูปหนึ่งเป็นรูปของเธอกับเขา ข้างในมีข้อความระบุถึงวัน เวลา และ สถานที่ งานแต่งงานของเธอ
‘
ผมอ่านข้อความของเธออีกครั้งก่อนที่จะตอบออกไป
‘
Senta sticker
มากกว่าที่ใครจะรู้ในขณะที่ต้นไม้แห่งมิตรภาพของเราอาจไม่ค่อยเติบโตมากนัก ต้นรักของผมไม่เคยหยุดโตเลยแม้แต่วันเดียวแม้แต่วันที่เธอไม่ได้อยู่ข้างกายผมแล้ว
-------------------------------------------------------------------------------------------------
“
ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าเธอเรายิ้มให้กัน ชั่ววินาทีหนึ่งรอยยิ้มของเราทั้งคู่เป็นรอยยิ้มเดียวกับวันวาน
“
เธอยิ้มให้ผมและพูดอย่างจริงใจ
“
“....”
“
“
“
ผมพูดกลั้วหัวเราะเพื่อลดบรรยากาศที่ตึงเล็กน้อยเนื่องจากเราหายไปจากวงโคจรจองกันและกันนานเกินไป
“
ผมยิ้มไม่ได้พูดตอบแต่ก็รู้ดีว่ารอยยิ้มบนใบหน้าคงจะเห็นได้ชัดเจน
“
“
“
เธอทำหน้าเหมือนเสียดายซะเต็มประดาแต่แววตาก็ยังคงสดใส และมีรอยยิ้มเสมอ
“
“
เธอว่าพร้อมกับยิ้มให้ผมรอยยิ้มที่ทำให้ผมยิ้มตาม รอยยิ้มที่ผมคุ้นเคย ที่นานมาแล้วเคยเห็นทุกวัน ต่อมาก็มักเห็นเลือนลางในความฝันเสมอ
“
ผมเลิกคิ้วสูงของชำร่วยหรือว่าอะไรกันนะ
“
เธอยื่นมันมาตรงหน้าผมเข็มกลัดดอกกุหลาบที่เคยติดอยู่บนชุดของเธอ
“
เธอพูดไปหัวเราะไปจังหวะเดียวกับที่มือของผมเอื้อมไปหยิบมันมา
“
“
เธอยิ้มให้ผมก่อนที่จะโบกมือลาเพื่อไปยืนคู่กับเขา ทำหน้าที่ต้อนรับแขกคนอื่น ๆ ที่ผมคุ้นหน้าบ้างไม่คุ้นหน้าบ้าง
ผมมองเข็มกลัดดอกกุหลาบอย่างพินิจพิเคราะห์
‘คนแบบเธอ จะชอบอะไรนะบอกเราหน่อยเถอะ เราอยากจะให้จริง ๆ ไง เคยสัญญากันไว้แล้วจำได้มั้ยยยย’
‘แน่ใจรึไงว่าถ้าเราบอกเธอจะให้เราได้’
‘ก็บอกมาก่อนดิ เราก็มีทางของเราถ้าเธอบอกว่าชอบดวงจันทร์ เราก็จะวาดรูปพระจันทร์ให้ แบบนี้ดีมั้ย’
เธอทำตามสัญญาที่ให้ผมไว้และเธอก็มีแนวทางอันชาญฉลาดของเธอเช่นกัน ผมมองดอกกุหลาบในมือ ตัวแทนของเธอ ในขณะเดียวกันมันก็เหมือนคำพูดที่เธอบอกผมว่า ‘ไม่ต้องรอแล้วนะ’
ผมมองดอกกุหลาบในมือสลับกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของเธอขณะที่ยืนอยู่เคียงข้างคนที่โชคดีที่สุดในโลกคนนั้น
เย็นนี้ดอกกุหลาบดอกนี้คงได้เข้าไปอยู่ในกล่องเก็บความทรงจำใบเดิมของผมมากกว่าอะไรทั้งหมด ต้นรักของผมจะยังคงเติบโตอยู่อย่างนั้น เพราะรากของมันได้หยั่งลึกจนเกินกว่าจะเป็นการรอคอยหรืออะไรทั้งนั้นมันก็แค่เป็นความรักของผมที่จะยังคงอยู่ตลอดไป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in