เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ยาดมมั้ยChaitawat Marc Seephongsai
ดม "เพื่อ"
  • ถ้าถามถึงของฝากหรือของขึ้นชื่อของแต่ละประเทศ แน่นอนละครับว่าแต่ละประเทศมีของฝากมากมาย หบากหลาย สวยงามบ้าง หรูหราบ้าง แพงบ้าง ถูกบ้าง 

    ทีนี้กลับมาดูของฝากของประเทศไทยกันบ้าง งานนี้ ไม่ต้องมีใครมาจัดอันดับก็พอจะเดาได้บ้างว่าของฝากจากประเทศไทยมีไม่มีอย่างนอกจาก เสื้อยืด "ผมรักเมืองไทย" กางเกง "มวยไทย" พวงกุญแจช้างไทย ของฝากที่ติดใจนักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือ "ยาดม"

    ครับยาดมแบบหลอดนี่แหละครับที่ได้รับความนิยมอย่างสูงยิ่งในหมู่นักท่องเที่ยวจีน ไม่รู้พวกพี่แกติดใจอะไร เห็นซื้อกลับประเทศทีหนึ่งซื้อไปยกแผง ครับแผงยาว ๆ แบบแผงกระสุนปืนลูกซองแหละ

    ที่นี่เรามาทำความรู้จักยาดมกันดีกว่าทำไมใคร ๆ ก็ติดยาดม ทำไม "ดมแล้วมีพลัง" และทำไม หน้ามืด วิงเวียน คล้าจะเป็นล้ม กูต้องดมยาดมด้วยวะ

    ข้อมูลต่อไปนี้ เอามาจากบทความ "ยาดมมีอันตรายหรือไม่" ของ รองศาสตราจารย์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิด โดยในข้อมูลมีการระบุเอาไว้ว่า

    ผลิตภัณฑ์ยาดม ส่วนใหญ่ประกอบด้วย เมนทอล การบูร พิมเสน น้ำมันหอมระเหยและอื่นๆ เช่นน้ำมันสะระแหน่ น้ำมันเขียว น้ำมันกานพลู หรือน้ำมันยูคาลิปตัส และยังมีน้ำมันระเหยยากช่วยในการละลาย เช่น น้ำมันงา น้ำมันแร่ หรืออาจมีสารสกัดจากสมุนไพรบ้าง องค์ประกอบหลักของเมนทอลหรือเรียกว่าเกล็ดสะระแหน่ การบูรและพิมเสน รวมถึงน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้จะทำให้เกิดความรู้สึกเย็น ซ่า ในโพรงจมูก รู้สึกสดชื่น ตื่นตัวได้บ้าง แต่เมื่อดมมาก ๆ แล้วอาจทำให้เกิดผลที่คาดไม่ถึงตามมา อย่าง 

    (1) เมนทอลหรือเกล็ดสะระแหน่ ที่มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีกลิ่นหอมเย็น มีอยู่ในนํ้ามันหอมระเหยที่ได้จากใบมิ้นต์ หรือที่เรียกว่าใบสะระแหน่ฝรั่ง มีประโยชน์ในการขับลม มักใช้แต่งกลิ่นและรสยา เช่น ยาเคลือบกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่อย่างอ่อน ๆ ลดการบวมของหลอดเลือดที่จมูก และลดอาการปวด สารนี้เมื่อสัมผัสกับผิวหนังทำให้รู้สึกเย็น แต่ในความเข้มข้นสูงและใช้ติดต่อกัน สารนี้อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณทางเดินหายใจ เมื่อสูดดม และอาจทำให้เกิดปอดอักเสบ

    (2) การบูร มีลักษณะเป็นเกล็ดมันวาว สีขาว มีกลิ่นหอมเย็นฉุน เดิมสกัดจากต้นการบูร แต่ปัจจุบันเป็นสารสังเคราะห์ เนื่องจากทำได้ง่าย ราคาถูกกว่าสกัดจากพืช การบูรถูกดูดซึมทางผิวหนังได้ดี และรู้สึกเย็นเมื่อสัมผัสกับผิวหนังเช่นเดียวกับเมนทอล มีฤทธิ์เป็นยาชาและต้านจุลินทรีย์อย่างอ่อนๆ ใช้ทาเฉพาะที่แก้เคล็ดบวม ขัดยอก แพลง แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย และโรคผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง อาจเกิดอันตรายจากการสูดดม เนื่องจากระคายเคืองทางเดินหายใจ เคยมีรายงานการชักในเด็กทารกเมื่อกินโดยบังเอิญ มีการนำการบูรมาใส่ในรถยนต์ เพื่อปรับอากาศ ทำให้หอมสดชื่น พบว่าการบูรเป็นสารระเหิดได้ เมื่อใส่ในรถยนต์ที่เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา การบูรจะระเหิดไปเกาะที่ช่องแอร์ และหากจอดรถยนต์ทิ้งไว้ในที่อากาศร้อน อัตราการระเหิดก็จะเร็วยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกว่าการบูรลดจำนวนลง หากมีการใส่การบูรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ได้เปิดประตู หรือหน้าต่าวทิ้งไว้ให้ระเหิดออกมาด้านนอก ความเข้มข้นของกลิ่นการบูรเพิ่มขึ้น และทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะปอดและตับได้

    (3) พิมเสน มีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ แบนๆ สีขาวขุ่นหรือแดงเรื่อๆ กลิ่นหอมเย็น พิมเสนบริสุทธิ์รูปร่างเป็นหกเหลี่ยม ได้จากการนำการบูรมาหุงกับยาอื่นๆ แต่ปัจจุบัน ได้จากสารสังเคราะห์ซึ่งจะมีรสเผ็ดกัดลิ้นถ้าเป็นของแท้จากธรรมชาติจะไม่กัดลิ้นแต่จะทำให้เย็นปากคอ ประโยชน์ทางยา ใช้สูดดมแก้ลมวิงเวียน ทาภายนอกแก้เคล็ดขัดยอก แต่อาจเป็นอันตรายหากสูดดม เนื่องจากสารนี้ทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณทางเดินหายใจ นอกจากนี้สารนี้ยังมีฤทธิ์กระตุ้นและสงบระบบประสาทส่วนกลาง

    นอกจากนี้รองศาสตราจารย์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง ยังได้ความเห็นไว้อีกว่า ยาดมที่ประกอบด้วยสารหลัก 3 ตัวนี้ เมื่อสูดดมจะทำให้โล่งจมูก และทำให้เกิดความรู้สึกเย็น ซ่า สดชื่น ตื่นตัว มีประโยชน์ในขณะที่เป็นลมวิงเวียน หรือคัดจมูก

    แต่การใช้ยาดมที่ถูกต้อง ควรสูดดมใกล้ ๆ แต่ไม่สัมผัสโดยตรง ไม่ควรให้หลอดยาเข้าไปค้างไว้ในจมูก เพราะสารทุกตัวอาจทำให้ระคายเคืองเมื่อสัมผัส ควรหลีกเลี่ยงการใช้หลอดยาดมที่สัมผัสจมูกผู้อื่นแล้ว เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ อนึ่งยาดมมีฤทธิ์เพียงลดอาการเพียงชั่วคราว

    ถ้าเป็นมากควรไปพบแพทย์ ยาดมที่เป็นลักษณะยาน้ำ หรือ ยาขี้ผึ้ง ให้ป้ายสำลีหรือผ้าเช็ดหน้า หรือทาบาง ๆ ที่หน้าอก แล้วสูดไอระเหย หรืออาจทาด้านนอกของจมูกแต่ต้องใช้ยาปริมาณน้อย ๆ และหากมีโรคของโพรงจมูกอยู่เช่น โพรงจมูกอักเสบจากการแพ้ ติดเชื้อในโพรงจมูกหรือไซนัสอักเสบควรหลีกเลี่ยงการใช้ เนื่องจากอาการแพ้ซึ่งอาจมีเยื่อบุโพรงจมูกเสียหายอยู่แล้ว หากสูดยาดมที่มีเข้มข้นมาก ๆ อาจระคายเคืองมากขึ้น อนึ่ง ยาสูดดมนี้อาจเกิดอันตรายกับเด็ก ดังนั้นควรเก็บรักษาไว้ให้ห่างมือเด็ก

    สำหรับยาหม่องน้ำซึ่งมีข้อบ่งใช้คือ ทาแก้อาการปวดเมื่อย มีตัวยาหลักคือ เมทิลซาลิซัยเลต นอกเหนือจาก เมนทอล การบูร พิมเสน ไม่ควรนำมาใช้สูดดม เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณทางเดินหายใจ

    ยาดมยังอาจทำให้เกิดการเสพติดได้ เนื่องจากสารเคมีที่ใช้ผลิตบางชนิด เช่น เมนทอล และการบูร ซึ่งเป็นสารมีผลต่อระบบประสาทจึงอาจทำให้เกิดการเสพติดได้

    การ ”ติดยาดม” นั้นจะเป็นรูปแบบที่ใช้จนติดเป็นนิสัย คล้ายคลึงกับการที่เราชอบหมุนปากกา ต้องกอดหมอนข้างในเวลานอน โดยสังเกตว่าหากวันไหนที่เราลืมเอายาดมออกจากบ้าน ไม่ได้ดมยาดมตลอดวัน อย่างมากเราอาจรู้สึกอยากสูดยาดมบ้าง แต่เมื่อทำงานหรือเรียนในระหว่างวันเราก็ละเลยความคิดนั้นไปได้

    หลังจากอ่านงานเรื่อง "ยาดมมีอันตรายหรือไม่" ของ รองศาสตราจารย์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าไป ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้น คือ กูควรเลิกดมยาดมมั้ยวะ (?) คือถ้าดมแล้วจะมีอาการเยอะขนาดนี้ ทางที่ดีเลิกทำขายไปเลยดีกว่า

    ปัญหาใหม่หลังจากอ่านบทความ คือ จะเอาอย่างไรต่อดี กับความตั้งใจที่จะรีวิวยาดมแต่ละยี่ห้อ ถ้าดมหมดทุกยี่หอที่มี เยื่อบุโพรงจมูก กับปอดของกูจะยังปลอดภันอยู่ไหม เฮ่อ ชีวิต 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in