กาแฟดำหอมกรุ่นถูกเสิร์ฟตรงหน้า แต่คิมจงฮยอนไม่คิดจะแตะมันแม้แต่นิด จากนาทีเป็นชั่วโมง... ควันสีขาวจางจากความร้อนได้เลือนหาย หลงเหลือเพียงความเย็นชืด ชายหนุ่มก็ยังไม่ดื่มมัน
ดวงตาคู่นั้นกำลังเหม่อลอย...
ติ๊ง!
เสียงข้อความเข้าเรียกความสนใจของเขากลับมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ชายอีกคนซึ่งนั่งถัดจากเขาไปสามโต๊ะกำลังก้าวขาออกจากร้าน จงฮยอนตัดสินใจยกแก้วกาแฟสีขาวนั้นขึ้นมา หลับตาลงขณะฝืนลิ้มรสขมจนหมดภายในอึกเดียว ก่อนจะวางเงินไว้แล้วเดินออกไป
ระหว่างทาง เจ้าของร่างสมส่วนเดินสวนกับผู้คนมากหน้าหลายตา ไม่ต่างจากวันก่อน ๆ ที่ต้องพานพบความวุ่นวาย การดำเนินชีวิตบนวิถีเร่งรีบ น่ารำคาญ และว่างเปล่า... มือทั้งสองขยับกระชับโค้ทตัวหนาเข้าหากัน เรียวขาก้าวไวยิ่งขึ้นเมื่อรู้สึกแรงสั่นสะเทือนของเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกง
.
.
.
รสชาติขมปร่าของอเมริกาโน่ยังคงติดที่ลิ้น ไม่มีทีท่าว่าจะจางหายไปง่าย ๆ
มันไม่ใช่รสชาติที่ดีนัก
จงฮยอนไม่ชอบกาแฟ เพราะเขาไม่ชอบรสขม
เขาชอบดื่มหรือกินอะไรที่มีรสชาติอ่อนโยนกว่านี้ อย่างน้อยก็ขอให้มีนมหรือน้ำตาลผสมอยู่
ชายหนุ่มถึงไม่เข้าใจตนเองเลยแม้แต่นิดว่าด้วยเหตุผลอะไร ถึงสั่งกาแฟดำแบบนั้น และฝืนดื่มมันทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบ
.
.
.
เดินลึกมาถึงตรอกแห่งหนึ่งซึ่งปากทางอยู่ตรงข้ามกับร้านอาหารอิตาเลี่ยน ดวงตาคมแสร้งกวาดมองไปรอบ ๆ แล้วจึงหยุดสายตาที่ชั้นสองบนตึกฝั่งซ้าย เขาพยักหน้าเล็กน้อยให้กับหญิงสาวร่างท้วมที่ยืนตากผ้าอยู่ หางตาเหลือบเห็นชายซึ่งอยู่ในร้านกาแฟเดียวกันเมื่อครู่ยืนสูบบุหรี่
คน ๆ นั้นหันมาทางเขาแล้วจุดไฟแช็กสามครั้ง
จงฮยอนเองเองก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบเช่นกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขาดูเหมือนจะเป็นบทนิยามของคำว่า ‘ปกติ’
ในโลกนี้มนุษย์คือผู้กำหนดทุกความหมาย เฉกเช่นคำว่า ‘ปกติ’
จงฮยอนตัดสินใจเดินเข้าไปในตรอกนั้น ริมฝีปากที่คาบมวนบุหรี่ไว้เริ่มแห้งผาก สายตาสอดส่ายหาบางสิ่งที่คิดว่าน่าจะผิดปกติ... แต่กลับมองไม่เห็น
ทุกอย่างปกติ
ไม่แปลกเลยสำหรับตรอกแคบ ๆ ภายในชุมชนแออัด จะเต็มไปด้วยถังขยะล้มเรี่ยราด กลุ่มคนจรจัดที่มองเขาไม่วางตา กลิ่นเหม็นอับจากหลายแหล่งผสมจนเวียนหัว หนูท่อสกปรกวิ่งพล่านไปมา และแมวดำที่หลับอยู่บนบันไดเหล็กผุ ๆ
กลุ่มคนจรจัดเบื้องหน้าที่ยกมือส่งสัญญาณให้เขา... ตอบโต้กันตามปกติของการทำธุรกิจที่เขาคุ้นเคย
พวกนั้นได้ถามบางอย่างกับเขา คำถามที่ทำให้คนฟังรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ใช่ ถ้าเขาตอบเหมือนที่เคยตอบ ก็จะไม่มีปัญหาอะไร
แต่คำตอบของเขา ...
เสียงปืนหนึ่งนัดดังก้องไปทั่วตรอกคับแคบแห่งนี้
ร่างของจงฮยอนทรุดลงกับพื้น
ดวงตาของเขาเบิกโพลง เลือดสีแดงฉานทะลักออกจากปากแผลที่หน้าอก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนจรจัดเหล่านั้นดังขึ้นคล้ายภูติผีที่กำลังร่ายรำ สัญชาตญาณบอกให้ชายหนุ่มตะโกนเรียกหากำลังเสริม
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่า...
ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าประมาณสองหรือสามคนได้เดินตรงมาทางเขา จังหวะการเดินดูใจเย็นผิดวิสัยกับเสียงหัวร่อดังขึ้นกว่าเมื่อครู่ ทำให้หลายสิ่งซึ่งไร้คำตอบในคราแรกกระจ่างชัด...
รสชาติขมของกาแฟดำถูกกลบด้วยของเหลวรสชาติคล้ายสนิมเหล็กไปเสียสิ้น
จงฮยอนเหยียดยิ้มเยาะให้อดีตเพื่อนร่วมงาน ชายร่างสูงหัวเราะในลำคอ พูดประโยคหนึ่งออกมาขณะจ่อปลายกระบอกปืนกับหน้าผากของเขา
เสียงปืนอีกสองนัดดังขึ้นหลังจากนั้น
กลิ่น
กาแฟ...?
จงฮยอนลืมตาขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือผนังสีขาวสะอาด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ตอนนี้เขากำลังอยู่ในห้องสีขาว การตกแต่งทุกอย่างใช้สีขาวเป็นหลัก...
เว้นแต่ อีกคนหนึ่ง... ซึ่งสวมใส่เสื้อสเวตเตอร์คอเต่าสีดำกับกางเกงสแล็กสีเดียวกัน แม้กระทั่งนัยน์ตาและกลุ่มผมก็ถูกย้อมด้วยสีปีกกา ตัดกับผิวกายขาวซีดราวกับกระดาษขาว
ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างที่โซฟา ก่อนจะยกกาแฟที่ตนถืออยู่ขึ้นจิบโดยไม่ละสายตากับเขา ท่าทีสบาย ๆ ช่างแตกต่างจากประกายวาววับในลูกแก้วสีเข้มคู่นั้น ถึงจะคุ้นเคยพอตัว แต่ก็ไม่คุ้นชินเสียที จึงเป็นจงฮยอนเองที่เสหลบสายตาไปก่อน
เขาเลือกที่จะมองไปยังนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าสีครามเข้ากันได้ดีกับเปลวแดดอ่อนแรงเพราะกำลังย่างเข้าสู่ห้วงรัตติกาล เสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่งดังแผ่วมาเป็นระยะ
เสียงแก้วกาแฟกระทบพื้นกระจกเรียกความสนใจของจงฮยอนให้กลับมาที่ชายผู้นี้อีกครั้ง เจ้าของร่างสูงที่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็มาถึงเตียงที่เขานอนอยู่ มือเย็นเยียบช่วยพยุงร่างของเขาขึ้นมา จัดหมอนให้เขาเอนกายกับหัวเตียงในท่านั่ง
ในแววตาของจงฮยอนเต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนที่จะไหวเปลี่ยนเป็นเปี่ยมด้วยความรักและคะนึงหา... ยามที่มือหนายกขึ้นกุมใบหน้าของเขาไว้อย่างอ่อนโยน
ชายหนุ่มเอียงหน้าซบคลอเคลียกับมือของอีกฝ่าย หลับตาพริ้มเหมือนเด็กน้อย แม้มือของชายผู้นี้จะเย็นเฉียบเฉกเช่นน้ำแข็ง แต่ความเหน็บหนาวนี้กลับเรียกรอยยิ้มกว้างให้ปรากฏบนใบหน้าได้ในทุกครั้งที่สัมผัสร่างของเขา
รู้สึกตัวอีกทีเมื่อริมฝีปากของตนถูกครอบครอง
รสจูบที่คุ้นเคย... ความขมของกาแฟดำกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกาย เสียงครางในลำคอด้วยความพึงใจของร่างแนบชิดนี้ดึงดูดจงฮยอนเสมอ สัมผัสนุ่มนวลชักพาเขาให้ตกอยู่ในห้วงปรารถนาอย่างง่ายดาย
ชายหนุ่มผละริมฝีปากออก ดวงตาเรียวเล็กซึ่งไร้แววของมนุษย์มองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเสียงหัวเราะน่าฟังจะดังขึ้นในห้องแห่งนี้ สร้างความประหลาดใจให้จงฮยอนไม่น้อย แต่ก็ไม่นานนัก เพราะริมฝีปากของชายผู้นั้นได้กลับมาทาบทับบนริมฝีปากของเขา... อีกครั้ง
กาแฟดำเย็นชืดถูกทิ้งไว้ที่โต๊ะข้าง ๆ มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งวางอยู่ แต่ด้วยเพราะมันถูกพับลงไปครึ่งหนึ่งจึงเห็นเพียงแค่พาดหัวข่าวใหญ่คล้ายจะเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมหมู่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์เท่านั้น
End
? เป็นเรื่องสั้นที่แต่งเอาไว้นานมาก คาร์ดันตรงกับคู่นี้พอดีเลยได้ os เรื่องนี้มา
? ใจคืออยากแต่งให้ยาวกว่านี้ วางพล็อตไว้ให้จงฮยอนเป็นตำรวจกังฉิน ทำทุกอย่างเพื่อเงิน จนวันหนึ่งมีชายชุดดำ(ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คน)เข้ามาในชีวิต บอกกับเขาว่า ที่เห็นได้ก็เพราะจงฮยอนมีเปอร์เซนต์ความเลว-ดีในตัวเท่ากับ 70-30 พอดิบพอดี...
? ชื่อเรื่องสิ้นคิดมาก...
? ถ้าใครเคยอ่าน 'รักที่ทรมานของคนตาย' ของอ.จุนจิ จะคุ้นกับคาร์ของพระเอกเรื่องนี้ แต่ชายหนุ่มที่สี่แยกในนั้นไม่อบอุ่นแบบนี้หรอกนะ บอกไว้ก่อน 555555
? ขอบคุณทุกคนที่หลงผ่านเข้ามาอ่านฟิคของเรานะคะ รักทุกคนค่ะ /ม้วนตัวเป็นรูปหัวใจ
❤️ สุดท้ายนี้มีอะไรติชมบอกได้ที่ #anonymfics หรือ @anonymfics นะคะ ขอให้สนุกกับการอ่านค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in