หลังจากเราสองคนอื่นมากก็เลยคิดว่าไปเดินเล่นก่อนละกัน ย่อยก่อนค่อยว่ากัน แล้วก็ได้ถามพนังงานในร้านว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง ก็แนะนำตามสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของวิกตอเรีย ซึ่งเราก็คิดว่าจะไปแหละ พอเริ่มหาก็เริ่มรู้ว่า หลาย ๆ ที่ 'ปิด' 5555 เพราะเค้ายังไม่ฟื้นจากการปิดปีใหม่ยังไงหล่ะ หลังจากคิดว่ามีอะไรให้ทำเยอะเลย กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรให้ทำเลย
ออกจากร้านอาหารและเดินเลาะไปเรื่อย ๆ วิกตอเรียเป็นเมืองเล็ก ๆ เงียบ ๆ เหมือนมองทั้งสองฝั่งก็สามารถเห็นจุดสิ้นสุดแล้ว มันให้ความรู้สึกแบบนั้นเลยแหละ สถาปัตยกรรมที่นี่มีความเป็นยุโรป และสิ่งที่ชอบมากเลยคือ Downtown ที่นี่สะอาดกว่าแวนคูเวอร์มาก และโฮมเลสน้อยกว่ามาก เป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกครอบครัวมาก ๆ ไม่รู้ทำไม เราเดินกันไปสักพักก็เจอกับ Parliament ซะได้ จริง ๆ บีมบอกแซมว่าอยากมาที่นี่ตอนเย็น เพราะอยากมาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ แต่ไหน ๆ ก็ถึงแล้วก็เลยเดินเล่นสักหน่อย
เดินไปสักพักเราก็มีแผนว่าอยากไปเดินเล่นที่ China Town ที่บอกว่าตัวเองเป็น China Town ที่เก่าแก่ที่สุด และได้คำล่ำลือมาว่าเป็น China Town ที่มีแคนาเดี้ยนมากกว่าคนจีน เราก็เดินเลาะไปเรื่อย ๆ จนไปเจอกับ China town อีกครั้งที่รู้สึกว่าที่นี่สะอาดจัง มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ และพลาดไม่ได้เลยเพราะมีตรอกเล็ก ๆ ที่เป็นกิมมิกของที่นี่ ข้างในมีร้านขายของ Hand Made เยอะมากเลย ให้ความรู้สึกเหมือนครอกไดอาก้อนนิดหน่อย จากจิตนาการของบีมเอง 5555 แซมชอบมังกรม๊ากกกก นางถ่ายรูปกับมังกรทุกที่เลย แล้วก็เดินเลาะไปเรื่อย ๆ
เราสองคนเดินไปจนไปเจอกับร้านหนังสือร้านหนึ่งไม่แน่ใจว่าร้านชื่ออะไรแต่เป็นร้านหนังสือที่มีความดึงดูดสูงมาก เหมือนกับมีเวทมนต์อยากให้เราเดินเข้าไป บีมห่างหายจากการเข้าร้านหนังสือหรือซื้อหนังสือจริง ๆ มาอ่านไปนานมาก ตั้งแต่มาก็ไม่เคยซื้อหนังสือจริง ๆ สักเล่มเลย ซื้อแต่ ebook เพราะรู้สึกว่าที่นี่ไม่มีที่เก็บให้บีม แต่ร้านนี้ทำให้บีมอยากซื้อหนังสือมาก แต่ไม่อยากใช้เงินกับหนังสือที่นี่เพราะรู้ว่าต้องเสียให้ของกิน 5555
เราก็เดินไปเรื่อย ๆ แบบไร้เป้าหมายมาก ๆ เดินเข้าไปดูร้านเสื้อผ้า ร้านชอปปิ้งต่าง ๆ จนเข้าไปในร้าน Lush พวกเราเดินเล่นอยู่มในนั้นเป็นเวลานานพอสมควรเลย บีมได้ Bath bomb มา 1 ลูก แซมได้ครีมมาสองกระปุก พนักงานน่ารักมาก ชวนคุยไปมา จนเค้าแนะนำร้านโดนัท และที่เล่น VR เป็นการแนะนำการเที่ยวที่แปลกดีแต่เราสองคนกลับตาวาวเป็นประกาย ดังนั้นเป้าหมายต่อไปของพวกเราคือร้านโดนัท เราเดินเล่นแถวนั้นสักพักหนึ่ง แล้วก็ตรไปที่ร้านโดนัทที่พนักงาน lush แนะนำ ปรากฎว่า ร้านโดนัทนั้นได้ส่งโดนัทให้กับร้านกาแฟข้าง ๆ ไม่ได้ขายเองแล้ว ตอนแรกพวกเราก็งง ๆ ว่าร้านมันอยู่ตรงไหนกันแน่ ส่วนอีกร้านก็รับแต่พรีออเดอร์และส่งเป็นรอบ ๆ ไป พวกเราเลยมานั่งเล่นที่ร้านกาแฟร้านนั้น นั่งกินโดนัทไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ คนในร้านไม่เยอะมากนัก แต่มีคนไป ๆ มา ๆ ตลอด โดนัทเป็นเนื้อแน่น ๆ เหมือนเค้กแน่น ๆ บีมไม่เคยกินโดนัทแบบนี้มาก่อนแต่ก็อร่อยดีนะ
เราสองคนตัดสินในว่าจะกลับไปนอนเล่นที่โรงแรมกันสักพักก่อนไปกินข้าวเย๋็น ระหว่างนั้นพวกเราก็นึกถึงเรื่อง VR ที่พนักงานได้แนะนำไว้ พวกเราสองคนเลยหาและก็เริ่มทำการจองเพราะเริ่มไม่รู้จะไปที่ไหนแล้ว ไม่อยากนั่งรถออกไปเที่ยวไกลเพราะอากาศเริ่มหนาวแล้ว พอทำการจองเสร็จก็กลับโรงแรมไปนอนพักกันสักหน่อย
ระหว่างแซมหลับบีมก็เลยเริ่มหาร้านอาหารเย็นไว้ จริง ๆ เหตุผลที่บีมมาวิกตอเรียเพราะบีมอยากกิน Fish and Chips ที่ร้าน Red fish Blue fish แต่ร้านปิด เปิดอีกทีมีนาแหนะ และเพื่อนรีเควสมาว่าอยากกินสเต็ก บีมนั่งหาร้านไปเรื่อย ๆ และไปจบที่ร้าน Moxie พวกเราออกจากโรงแรมและเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงร้าน อากาศตอนเย็นเริ่มหนาว บีมรู้สึกว่าหนาวกว่าในแวนคูเวอร์อีกทั้งที่อุณหภูมิจริง ๆ สูงกว่าแวนคูเวอร์นะ อาจเป็นเพราะไม่ได้มีตึกสูงมาช่วยบังลมเหมือนแวนคูเวอร์ละมั้ง
เราถึงร้านตอนประมาณ 17.20 น. พวกเราจอง VR ไว้ตอน 18.30 น. คิดว่าชิวเลย สบาย ๆ แต่ที่ไหนได้พวกเราลีลากว่าที่คิด กว่าจะได้เมนู กินไป เม้าไป เราได้คุยกันไปเรื่อย ๆ การเที่ยวนี้ทำให้คนรู้จักกันมากขึ้นจริง ๆ นะ บีมรู้สึกประหลาดใจกับตัวเองมากที่สนิทกับเพื่อนที่นี่เร็วกว่าที่บีมคิดมาก เพราะปกติเป็นคนหวงพื้นที่ส่วนตัวมาก ชอบไปไหนมาไหนคนเดียวมาก ยิ่งกับเรื่องเที่ยวแล้วบีมยิ่งชอบไปคนเดียว เพราะเป็นคนเปลี่ยนแผนไปเรื่อย ๆ อยากไปไหนก็ไป สบายตัวกว่ามาก อาจเป็นเพราะทุกคนที่นี่มาตัวคนเดียวและต้องการมี emotional support ซึ่งกันและกันละมั้ง ต่างคนต่างไม่มีครอบครัวและเพื่อนทำให้เหมือนอยู่ในเรือลำเดียวกันไปแบบ งง ๆ แล้วด้วยความที่แซมนางเป็นละติน การแสดงออกทางความรู้สึกนางจะตรงและลึกมาก แรก ๆ บีมไม่ชินเลย รู้สึกแบบเราสนิทกันขนาดนั้นแล้วใช่ไหมนะ บางเรื่องที่นางเล่าให้ฟังคือลึกมาก ถ้าเป็นบีมกว่าบีมจะเล่าเรื่องแบบนี้ได้คงต้องรู้จักกันมานานพอสมควร แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของตัวบีมเอง แสดงออกทางความรู้สึกขอตัวเองมากขึ้น คุยกับจนบีมตกตะกอนได้พวกเราก็ได้เวลาต้องรีบวิ่งไปที่เล่น VR แล้ว พวกเราทั้งสองทั้งขำ ทั้งจุก เพราะอิ่มมาก แต่กลัวเสียเวลาเล่น เราไปถึงตรงเวลาพอดีเป๊ะ แล้วก็เริ่มเลือกเกมส์มาเล่นกัน
เกมส์แรกที่แซมเลือกคือยิงซอมบี้ ตามสไตล์น้องบีมสายสปอยถึงจะกลัวขนาดไหนก็ตามก็ไปค่ะ เล่นค่ะ กว่าจะเรียนรู้วิธีการยิง หยิบปืน เติมลูกก็เสียเวลาไปพอสมควร ตอนเล่นจริง ๆ พวกเราสองคนเสียงดังมากจริง ๆ เพราะบีมก็กลัวแซมก็กลัว ไม่มีใครช่วยกันได้ แม้จะเป็นโลกเสมือนจริง แต่บีมกลัวจริงค่ะ ทั้งภาพทั้งเสียง เล่นกันไม่นานแต่เหนื่อยมาก บีมแบบแซมบีมไม่ไหวเปลี่ยนเกมส์เถอะ เหนื่อยเกินไป เราเลยจบที่แข่งกันตีกอล์ฟ 555555
เวลา 1 ชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก พวกเราเล่นเสร็จตอน 19.30 น. ทั้งแซและบีมรู้สึกว่าเร็วไปถ้าจะกลับโรงแรมเลยออกไปเดินชมเมืองเล่น วิกตอเรียตอนกลางคืนก็สวยใช้ได้เลยนะคะ ทั้งไฟ บรรยากาศ สถาปัตยกรรม และผู้คนไม่พลุกพล่านเลย อาจเป็นเพราะช่วงนี้น่าจะ Low season ระหว่างเดินไปคุยไปพวกเราสองคนก็อยากกินไอติมค่ะ หนาวทั้งคู่แต่อยากกินทั้งคู่ ไม่มีใครห้ามใครก็จบที่ร้านไอติมจนได้ 555555 จบวันไปด้วยการที่บีมกลับมาแช่ Bath bomb ที่โรงแรมแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันกลับของพวกเราแล้ว
เช้าวันที่ 3 กมราคม 2023 ตื่นมาทำธุระส่วนตัวเสร็จพวกเราก็ Check out โรงแรมและฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมเพื่อเข้าไปกินอาหารเช้าที่ร้าน Blue Fox พอเดินไปถึงร้านคือมีการต่อแถวกันอยู่หน้าร้าน พวกเราเริ่มมองหน้ากันเพราะหิวและหนาว แต่เราสองคนมาทริปนี้เพื่อกินค่ะ ถ้ามีคิวแสดงว่าอร่อย ดังนั้นต่อคิวค่า ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีได้ก่อนที่เราจะได้คิวแล้วพวกเราหิวกันทั้งคู่ก็สั่งกันไม่ยั้ง อาหารอร่อย หน้าตาดูดี บรรยากาศร้านดี แต่พวกเรากินไม่หมดเพราะสั่งมาเยอะเกินไป เริ่มเกี่ยงกันกิน 5555 และแซมสาวละตินสั่งเครื่องดื่มมา เปิดวันด้วย Mimosa แอลกอฮอลแต่เช้าไปเลย จนบีมแบบเอาจริงดิ ตอนนี้เลยหรอ นางแบบ นี้ Brunch แล้วไม่เช้าแล้ว ถ้าเพื่อนสบายใจเราก็สบายใจ 😂
หลังจากกินเสร็จพวกเราก็ไปเดินเล่นย่อยเพื่อรอเวลาไปนั่งบัสกลับไปที่ท่าเรือ เดินไปเดินมาเจอร้านขายแผ่นเสียง แล้วบีมเห็นว่าป๊าชอบเลยคิดว่าจะเข้าไปเดินถ่ายรูปให้ป๊าสักหน่อย พวกเราคลุกอยู่ในร้านนั้นนานมาก เกือบชั่วโมง ตื่นเต้นกับแผ่นเสียงที่มีนักร้องใหม่ ๆ เยอะมาก อีกทั้งยังมีหนังที่มีแต่เสียง และมีเกี่ยวกับดิสนีย์เต็มไปหมด และในที่สุดแซมก็เสียตังค์จนได้ แซมได้ The weekend มา 1 แผ่น เดินไปชมไป เหมือนเด็กได้ลูกอมเลย ภูมิใจมาก แฮปปี้สุด ๆ ออกมาจากร้านแผ่นเสียงก็เดินเล่นอีกสักแปปก็ถึงเวลาต้องนั่งรถกลับแล้ว
รอบรถบัสที่วิกตอเรียจากดาวทาวน์ไปที่ท่าเรือมีทุกชั่วโมง ซึ่งน้อยมากกก จากที่คิดว่ามีเวลาเยอะบีมเริ่มกังวลว่าพวกเราจะตกเรือ จนมีอีกคันที่มาก่อนเวลาแล้วก็เห็นว่าไปท่าเรือเหมือนกันเลยขึ้นไป รู้อีกทีคือคันนี้ไม่ใช่ express ทำให้เราช้ากว่าเดิมอีก บีมเริ่มตื่นเต้นมากจริง ๆ ตอนนั้นแบบต้องซื้อตั๋วเรือใหม่แน่ ๆ เลย แต่สุดท้ายก็ไปถึงก่อนเวลาเรือออก 10 นาทีค่ะ เฉียดมาก ๆ แล้วขากลับพวกเราเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของพวกเรา ต้องนั่งบัสต่อด้วย canada line เพื่อไปเข้าเรียนอีกทีค่ะ จบทริปแบบกลับเข้าสู่ชีวิตปกติแบบสุด ๆ สามวันสองคืนที่ไม่มีแผนแต่เป็นทริปที่บีมรู้สึกเหมือนได้เติมพลังให้กับตัวเองเยอะมากเลยค่ะ กลับมาเรียนและทำงานกันต่อไป ตั้งตารอคอยทริปหน้าแล้วค่ะ แล้วบีมก็บอกกับแซมว่าขอบคุณนะที่มาเที่ยวแบบไม่มีแผนกับบีม ครั้งหน้าบีมจะปล่อยให้แซมวางแผนแล้ว เพราะจริง ๆ แล้วการเที่ยวของเราหน่ะ ต่างกันสุด ๆ ไปเล้ย บีมเป็นคนแบบ Go with the flow ขั้นสุด ส่วนแซมหน่ะ Plan สุด ๆ
ปล.ใครอยากดู reel คลิ๊กได้เลยค่า
Brave Bubble
Victoria, Canada
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in