เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิวครองฝัน เล่ม 3 (ยังไม่จบ)

  • ครองฝัน เล่ม 3
    ผู้แต่ง Arise Zhang
    ผู้แปล อลิส
    สำนักพิมพ์ Meedee

    เรื่องย่อ 

    “...ขอยกไปในสรุปเรื่องแทนนะคะ...”


    ***สปอยล์เล่ม 1-3 นะคะ*** 

    อ่านรีวิวก่อนหน้าได้ค่ะ


    ความเดิมจากครองฝัน เล่ม 2

           เพื่อช่วยเฉินเย่ไข่ที่จมกับความรู้สึกผิดในอดีตจนภายในจิตใต้สำนึกทำลายตัวเอง โจวเซิงและอวี๋ห้าวต้องเผชิญความอัตรายและความซับซ้อนของดินแดนแห่งฝันเมืองชิเชนอิตซาของเฉินเย่ไข่จนอวี๋ห้าวเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีด้วยความร่วมมืดร่วมใจของพวกเขาทั้งสามถึงผ่านอุปสรรคมาได้ และกอบกู้โทเทมของอาจารย์เฉินเย่ไข่ของพวกเขาได้สำเร็จ ทว่าเหตุการณ์อันตรายในฝันที่เกือบทำอวี๋ห้าวตายได้ไปกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างในตัวโจวเซิง ทำให้เขาทำตัวแปลกไป ไม่ว่าจะเป็นการตามใจอวี๋ห้าวโดยการทำอาหารอร่อย ๆ ให้กินทุกวัน ยังทำตัวมีลับลมคมในบางอย่างจนอวี๋ห้าวรู้สึกสงสัย จนกระทั่งจับได้ว่าอีกฝ่ายแอบไปเข้าฝันช่วยคนที่เป็นเจ้าหญิงนิทราจนไปติดอยู่ในจุดทิ้งขยะความทรงจำกับเฉินเย่ไข่สองคนจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด อวี๋ห้าวก็แทบจะโมโหคนจนตัวพอง แต่ทุกอย่างก็สงบลงเพียงเพราะอ้อมกอดของอีกฝ่าย พร้อมคำสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ท่ามกลางคดีความรุนแรงในครอบครัวและสังคมที่ไม่มีความเท่าเทียม จุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ของโจวเซิงและอวี๋ห้ามกำลังมาถึงแล้ว !


    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์มากค่าา)

        มาค่ะ ๆ ตอนแรกกะจะดอง ครองฝัน รอเล่มสี่ออก เพราะนึกว่าต้องเว้นเดือนนึง แต่พอรู้ว่าเดือนหน้าก็จะได้อ่านแล้ว...รื้อมาตั้งแต่เล่มแรกอ่านใหม่หมดค่ะ



    การต่อสู้ที่โคลอสเซียม

          หลังจบเล่มสองด้วยการบอกรักอ้อม ๆ  “พระจันทร์คืนนี้สวยจัง” เราก็แอบเดาไว้ว่าเคสถัดไปน่าจะขึ้นของคุณพระเอกโจวเซิง เพราะน่าจะถึงเวลาที่เขาจะต้องเปิดใจรับอวี๋ห้าวเข้ามาในสถานะคนรักสักที แล้วก็เดาถูกครึ่งนึงจริง ๆ ค่ะ เล่มสามเป็นเคสโจวเซิงเป็นหลัก แต่ที่เขาต้องสู้ไม่ใช่เพื่อเปิดรับอวี๋ห้าวในสถานะคนรัก เขายอมรับแล้วว่าเขารักของเขามากกกกกก แต่ที่เขาลงสนามรบในจิตใต้สำนึก เพื่อทำให้ตัวเองมั่นใจว่าจะไม่ให้ด้านมืดของตัวเองที่ทั้ง ไม่มั่นใจเรื่องรสนิยมทางเพศ ความรักของครอบครัว ความไม่เชื่อมั่นในความรัก การใช้ความรุนแรง หรือแม้แต่การครอบครองที่มากเกิดไปมาทำร้ายอวี๋ห้าวได้ และการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ง่ายเลยค่ะ เล่มนี้เหมือนทำให้เรารู้สึกตัวชัดขึ้นว่า โจวเซิงที่ฉลาด รอบคอบ และดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยในหลาย ๆ ครั้ง ความจริงแล้ว เขายังเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นตอนปลายคนหนึ่งที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหา เขายังมีความไม่มั่นใจ ความลังเล และความไม่แน่นอนในจิตใจเหมือนคนในวัยเดียวกัน และรุนแรงมากกว่าจากปมชีวิตด้วย

        ความจริง เราแอบสังเกตเล็ก ๆ ว่า คนเขียนชี้เรื่องความไม่มั่นใจของโจวเซิงและการหนีปัญหาของเขามาตั้งแต่เล่มแรกแล้วด้วยค่ะ มาลองนึกพร้อมกันนะคะ โจวเซิงเคยบอกอวี๋ห้าวว่า ความจริงแล้วอวี๋ห้าวเป็นคนแรกที่เขาช่วยจนสุดทาง (ยึดโทเทมมาได้) ซึ่งเรื่องของซือหนีถ้าไม่ใช่เรียกอวี๋ห้าวมาช่วยเสียก่อน เขาคงยอมแพ้ไปแล้ว
       และหลายครั้งหลังจากเขาเริ่มให้ความสำคัญกับอวี๋ห้าว ความไม่มั่นใจ และความหวาดกลัวสูญเสียความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่อเขา (ซึ่งโจวเซิงไม่เคยได้เลย ทั้ง ๆ ที่ควรได้จากพ่อแม่) ยิ่งชัดและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ 

           เล่มนี้ การที่คนเขียนใบ้ว่าความจริงโจวเซิงเหมือนคนมีสองโลกในจิตใจ จึงถูกเฉลยเต็ม ๆ ค่ะ 

    หนึ่ง คือตัวเขาที่เข้าใจทุกอย่าง
    สอง คือตัวเขาที่มีปัญหามาแต่เด็ก

    และอย่างที่สองนี้เอง เป็นปัญหาที่โจวเซิงเลือกจะทิ้งไว้ตรงนั้น ไม่เผชิญหน้ากับมันจนกระทั่ง
    ...เขาตกหลุมรักอวี๋ห้าวเข้าจริง ๆ การต่อสู้ในโคลอสเซียมเพียงชิงตัวตนอีกครึ่งหนึ่งจึงเริ่มขึ้น


    ชีวิตของลูกก็หวังเพียงให้ครอบครัวและพ่อแม่มีความสุข

         เข้าเคสของโจวเซิง ก็กลายเป็นว่าไม่ได้มีแค่ประเด็กเด็กที่โตมาโดยไม่ได้รับความรัก และครอบครัวใช้ความรุนแรงอย่างเดียว ยังเข้าไปถึงเรื่องการสื่อสารระหว่างลูกและพ่อแม่ที่ไม่มีความเข้าใจกันเนื่องจากส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่มักจะนึกถึงความจำเป็นของลูกมากกว่าความสุขที่แท้จริงของลูก 
    (อ้างอิงจากความเข้าใจที่เราอ่านในหนังสือ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลนะคะ เราตีความแบบนี้ค่ะ)
         โดยการกะเกณฑ์ว่าลูกต้องทำแบบนั้นแบบนี้ถึงจะมีอนาคตที่ดี ...โดยถ้าลูกปฏิเสธก็จะโดนว่าตอนนี้ยังเด็กคิดได้แค่นี้ไม่ยอมมองอนาคต ทั้ง ๆ ที่คนเป็นลูกอย่างโจวเซิงรวมทั้งฟู่ลี่ฉวินต่างกังวล สับสน และกลัวมาก ๆ ว่าอนาคตพวกเขาควรทำยังไง ควรเป็นคนแบบไหน ในเมื่อพวกเขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากทำอะไร...เราว่าจุดนี้สะท้อนและกระแทกใจลูก ๆ บางคนจัง ๆ แน่เลยค่ะ

       ซึ่งครองฝัน นักเขียนกระแทกประเด็นนี้มาตั้งแต่เล่มแรก เราจำว่าเป็นโจวเซิงเองพูดให้อวี๋ห้าวคิด อยากทำอะไร อยากเป็นคนแบบไหน ต่อไปจะทำอะไร ซึ้งคำตอบที่เฉิงเย่ไข่เคยพูดไว้เราว่าก็ใช้ได้นะคะ แต่แน่นอนค่ะ นั่นไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน 
         ปัญหาของคนวัย 20 ปีขึ้นไป คือรอยต่อของความเป็นเด็กและผู้ใหญ่กำลังมาเยือน ต่อไปจะออกไปเล่มกีฬาเฮฮาตลอดไม่ได้แล้ว อย่างฟู่ลี่ฉวินก็ต้องมีอนาคต มีเงิน และมั่นคงกว่านี้เพื่อจะได้แต่งงานกับเฉิงซาน มันเป็นช่วงวัยที่สับสนจริง ๆ ค่ะ ครองฝันสะท้อนดีจริง ๆ ค่ะสำหรับเรา

    และเกริ่นนำฝันของคนถัดไป...วันสิ้นโลก


    “โชคดีจริง ๆ ”

       อย่าให้ต้องพูดเลยค่ะว่าเล่มนี้ค่าเบาหวานมันทะลุไปเท่าไร ค่าพลังชีวิตฟู่ลี่ฉวินที่ต้องนั่งมองถึงกับติดลบ 5500 อ่ะค่ะ 555555 เหมือนโจวเซิงเก็บความรักตลอดหลายปีมาระเบิดใส่อวี๋ห้าวทีเดียวเลยค่ะ พอคูณณ เอะอะหยอด เอะอะอ้อน มีการบอกว่าในที่สุดฉันก็มีสิทธิหึงสักที ได้กอดนายสักที และได้จูบนายสักที ! คุณชายน้อย ! เก็บกดมากสินะ ต้องอดทนเพื่อทำให้ตัวเองมั่นใจจริง ๆ ว่าจะรักอวี๋ห้าวได้โดยอีกฝ่ายจะมีความสุขที่สุดที่ได้เป็นแฟนตนเอง และยังคิดอย่างเข้าใจอวี๋ห้าวมาก ๆ ว่าจะพิสูจน์ยังไงว่าที่ตัวเองสารภาพเพราะรัก ไม่ใช่สงสาร เฮียโจววว แต่ถ้าจับดี ๆ เอกพละห้องหนึ่งทั้งห้องคือรู้นานแล้วว่าใครจะมาเป็นตัวจริงของคุณชายน้อย ทั้งพากันแซว พากันปกป้อง ชอบความเป็นกันทั้งห้องมาก รู้เลยนะว่าห้องนี้ใครหัวโจก 55555 ยังไม่นับที่พากันไปป่วนตอนอวี๋ห้าวนัดบอร์ดนะ

         เล่มนี้ทั้งสุดของความหวาน และสุดของการนำเสนอปัญหาสังคมมาก ๆ มีอีกหลายจุดที่เราไม่ได้พูดถึง และไม่ได้เล่าตัวละครสำคัญที่มีบทบาทเพิ่มและมีบทบาทใหม่ เอาเป็นว่า เล่มนี้ยังคงสนุกต่อเนื่องค่ะ อ่อ ขอมาร์คคนนึงในเอกพละสักหน่อย เห็นเอ่ยชื่อบ่อยแต่ยังไม่มีบทบาทจริงจัง เราจำชื่อไม่ได้ แต่อีกสามเล่มที่เหลือ...น่าสนใจว่าจะมีบทบาทไหม ส่วนปริศนาของวงล้ออีกาทอง...มาแล้ววเปิดประเด็นแล้วค่ะ พบกันเล่ม 4 ค่ะ 5555


    ภาพจาก สยามอินเตอร์ช็อป
    By Chadang

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in