เรื่องย่อหลังปก
สาวเย็นชา
ด้วยความที่เป็นทายาทผู้สืบทอด ‘สมุดแห่งความเป็นความตาย’
‘อันปู้’ สาวน้อยวัยยี่สิบที่ประสบอุบัติเหตุตกน้ำตาย กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในร่างของ
‘ศพเดินได้’
แต่การเป็นอมตะในร่างศพใครว่าง่าย!
เธอต้องคอยย้ายที่อยู่เปลี่ยนตัวตนเพื่อไม่ให้คนสงสัย
ต้องออกเดินทางไปตามที่ต่างๆ เพื่อสะสมพลังชีวิต
ไม่สามารถรับรู้รสอาหาร อยู่นิ่งนานๆ ตัวจะแข็งทื่อ ขี้เกียจมากสมองก็เสื่อม
เธอมองโลกทั้งใบด้วยสีเดียวเท่านั้น... คือสีเทา
หนุ่มฮอต
‘เจี่ยนหนิงเซวียน’ คุณชายไฮโซที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงถึง 44 องศา
ความฮอตปรอทแตกทำให้อยู่ร่วมกับใครไม่ค่อยได้
ตัวเองก็ร้อน แถมยังแผ่คลื่นความร้อนให้คนรอบข้างแทบจับไข้
จำต้องอยู่เดียวดายในบ้านที่ปรับแอร์เย็นเยียบถึง 14 องศา
ใช้ชีวิตดังหมีขั้วโลกที่ต่อให้หล่อรวยแค่ไหนก็ยังคง…โสด
เมื่อร้อนกับเย็นมาเจอกัน
สำหรับเขา เธอเปรียบประหนึ่งสายลมเย็นที่พัดโชยมาสู่ชีวิตสุดฮอต
เกิดมาไม่เคยอยู่ใกล้ใครแล้วสบายขนาดนี้มาก่อน
เขาผู้ไม่เก่งเรื่องมนุษยสัมพันธ์กลับพยายามเข้าหา ตามตื๊อ ผูกมิตร
อยากใกล้ชิดเธอตลอดเวลา
ส่วนเธอที่มองเห็นเพียงสีเทา กลับค้นพบว่าร่างของเขาเปล่งแสงสีได้!
ไม่ว่าเขาจะกินอะไร สีของอาหารจะเปล่งออกจากร่าง
ยิ่งมีความสุข ร่างของเขายิ่งเปล่งสีสันพร่างพราวออกมาให้เห็น
สำหรับชีวิตที่มีแต่สีเทาของเธอ เขานี่แหละคือความสุขในรอบหลายสิบปี
เมื่อต่างฝ่ายต่างอยากใกล้ชิด จะอ่อยให้เหยื่อมาติดเบ็ดก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 1 - E Book
เรื่องนี้เป็นงานห้องสมุดค่ะ มีสี่เล่มจบ ก็ชื่อเรื่องแบบสไตล์ห้องสมุดมาก หน้าปกก็ด้วย
คนเขียนคนนี้เราเห็นชื่อก็รู้สึกว่าคุ้นๆ เลยเอาไปค้นใน goodreads มานะคะ ก็คิดว่าเค้าน่าจะเป็นคนเดียวกับที่เขียน
ระบบพลีชีพดั่งวีรชน ซึ่งเป็นนิยายวาย แต่ตอนอ่านระบบพลีชีพ เราก็คิดว่าอ่านได้เพลินๆ แต่ก็ไม่ได้สนุกขนาดนั้น ก็ลองมาดูว่าเรื่องนี้เราจะชอบมั้ยค่ะ กะว่าจะรีวิวทีละเล่มเลยค่ะ
อ่านจบไป 1 เล่ม เรารู้สึกว่า เออสนุกกว่าที่คิด ตัวนางเอกอันปู้เป็นคนถือสมุดแห่งความตาย จริงๆตายไปแล้วแต่เพราะมีสมุดก็เลยไม่ตาย นางเอกเองก็อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วย แต่นางเอกคือมองไม่เห็นสี ไม่รู้รสชาติ แล้วก็ต้องทำคะแนนเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป มาเจอกับพระเอกที่ตัวเปล่งสีได้เวลากินข้าวกับมีความสุข (มั้ง) สองคนนี้ก็เลยจูนกันติดอย่างรวดเร็ว พระเอกก็มีปัญหาเรื่องอุณหภูมิร่างกายร้อนเกินไป นางเอกก็เย็นเกินไปเพราะเป็นศพ ก็เลยเข้ากันพอดี นางเอกคือบาดเจ็บบ่อยๆเพราะออกไปทำความดีเก็บคะแนน ส่วนพระเอกก็ยังไม่รู้อะไรแต่ก็เริ่มสงสัยบ้าง บทสนทนาเรื่องความรักของสองคนนี้ไปคนละทิศละทางตลอด 55555 แต่ก็แน่ใจได้ว่ามีความรู้สึกเชิงบวกแก่กันแหละนะ
มู้ดรวมๆ เป็นแนวไม่ดราม่านะ แบบโรแมนติกแฟนตาซี ไม่หนักเท่าไหร่
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 2 - E Book
การดำเนินเรื่องมันจะคล้ายๆแบบเป็น mission ไปเรื่อยๆ แบบพอเจอคนที่ใกล้ตายก็ยื่นมือเข้าไปช่วย ผจญภัยเล็กน้อยแล้วก็ได้คะแนนมา พอเจอคนที่ใกล้ตายใหม่ก็ยื่นมือเข้าไปช่วยใหม่ อะไรทำนองนี้ค่ะ
เล่มนี้มี NC แล้วเรียบร้อย แต่ NC ค่อนข้างตัดเข้าโคมไฟนะ 5555555 ถึงจะมีค่อนข้างบ่อยแล้วก็เปิดเผยก็เถอะ คือการมีอะไรกันของพระเอกนางเอกก็ช่วยให้นางเอกได้พลังชีวิตจากพระเอกเหมือนกัน ก็เลยค่อนข้างบ่อย นางเอกเองก็ค่อนข้างเปิดเผยด้วย
ภารกิจช่วงต้นของเล่มนี้ค่อนข้างน่ากลัวเลย แบบแอบหลอน ก็คือเรื่องหมู่บ้านที่ไปถ่ายรายการกันอะ แบบว่าโอ้ว คือพวกหมู่บ้าน/ลักพาตัว อะไรนี่ก็เป็นพลอตฮิตของจีนจริงๆ
แล้วก็ครึ่งเล่มหลังเป็นเรื่องวัตถุโบราณ อันปู้ถูกฝังอยู่ในโลง พระเอกออกตามหาแบบใจหายใจคว่ำ
จริงๆต้องพูดว่าพระเอกแบบว่าเป็นคนใจกว้างมาก แล้วก็รักนางเอกมาก นางเอกมีจุดให้สงสัยเต็มไปหมด ตัวเองก็สงสัยแต่กลับไม่ถามออกมาตรงๆ
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 3 - E Book
เล่ม 3 นี้มีเรื่องม่อลี่กับพี่เลี้ยง แล้วก็ปลากลายพันธุ์ในทะเล เรื่องปลานี้น่ารักดี แล้วก็มีไปเป็นเทรนเนอร์ของคุณหนูซุน ก่อนจะจบลงด้วยความตาย (อีกครั้ง) ของอันปู้ อันปู้ฟื้นขึ้นมาลืมพระเอกไปหมดแล้ว
ส่วนเจี่ยนหนิงเซวียนเล่มนี้เริ่มรู้แล้วว่าอันปู้น่าจะเคยตายไปแล้วหลายครั้งด้วย แต่ก็ยังไม่ถามออกมาแล้วก็ตั้งใจจะอยู่กับอันปู้ต่อไปป
คุยกันหลังอ่าน เล่ม 4 - E Book
เล่มนี้่เป็นเล่มจบแล้วค่ะ ก็ยังคงมีอีเว้นหลากหลายเหมือนที่ผ่านมา ทั้งช่วยแผ่นดินไหว ปิดสุสานโบราณ จนเจี่ยนหนิงเซวียนเกือบตาย อันปู้ใช้คะแนนของตัวเองให้เจี่ยนหนิงเซวียนจนเกือบหมด แต่นางเอกก็ท้องขึ้นมา
สุดท้ายสองคนนี้ก็อยู่ด้วยกัน พร้อมมีลูกหนึ่งคน ...รอบนี้น่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปแล้ว เพราะว่าพระเอกเองก็มีพลังเหมือนที่นางเอกเคยเห็นเหมือนกัน
เราคิดว่าโอเคเลย แบบว่าแฟนตาซีดี แล้วก็อ่านได้เพลินๆ เราอ่านสี่เล่มแบบไม่ได้แวะไปเล่มอื่นเลย เป็นสายสุขนิยมฟีลกู้ด ดราม่าไม่ค่อยมี แบบก็มีบ้างแต่ว่ามันไม่ได้บีบคั้นอะ แล้วตัวพระเอกเองก็ใจกว้างมากด้วย แต่ถ้าให้พูดก็คือรู้สึกว่าพลอตมันไม่ได้แบบชวนลุ้นขนาดนั้นนะ แต่ละภารกิจมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร คนอ่านเองก็รู้อยู่แล้วว่านางเอกต้องทำได้แน่ มันก็เลยฟีลแบบอืดๆ บ้างบางครั้ง
พระนางเข้ากันได้ดี ทั้งทางด้านกายภาพแล้วก็นิสัยด้วย แอบคิดว่าตอนจบรวบไปนิดนึง น่าจะมีตอนท้ายต่ออีกนิด แบบว่าต่อจากนี้ไปคงจะใช้ชีวิตแบบสามคนพ่อแม่ลูกบวกหนึ่งเจี้ยนเจี้ยน
ก็สรุปแล้วก็สนุกใช้ได้ อ่านได้เพลินๆ แต่ถ้าถามว่าต้องอ่านขนาดนั้นมั้ยเราก็คิดว่าไม่ถึงขนาดนั้น แล้วก็เราเองก็คงไม่ได้กลับมาซ้ำรอบสองค่ะ ถ้าเทียบกับ
ระบบพลีชีพดั่งวีรชน ที่เขียนโดยคนเขียนเดียวกัน เราคิดว่าระบบพลีชีพรวมๆ แล้วสนุกกว่าค่ะะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in