เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สุดโด่งดังอย่างเดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง (The Lord of The Ring; LOTR) ที่สร้างมาจากบทประพันธ์แฟนตาซีเรื่องยาวบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางในดินแดนมิดเดิลเอิร์ธ (Middle Earth) ของคณะพันธมิตรเพื่อไปทำลายแหวนที่เต็มไปด้วยพลังชั่วร้าย แต่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าดินแดนมิดเดิลเอิร์ธที่มีวิวทิวทัศน์งดงามและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติในภาพยนตร์นั้น ก็คือส่วนเสี้ยวของประเทศ ‘นิวซีแลนด์’ ที่คุณหมอเสียงและสหายทั้งสามเลือกไปผจญ

ภัยกันในครั้งนี้นั่นเอง

ถ้า LOTR มี ‘พันธมิตรแห่งแหวน’ ของผู้กล้าหลากเผ่าพันธุ์ เรื่องนี้ก็มี ‘พันธมิตรแห่งหมอ’ ที่รวบรวมแก๊งเพื่อนหลากสไตล์ของคุณหมอไว้ด้วยกัน ตั้งแต่สาวบอสผู้บังคับบัญชาแห่งทริป สาวเซียนนักช้อปตัวแม่ และสาวห้าวอารมณ์ติสต์

ทุกคนร่วมฝ่าฟันนานาภารกิจไม่หวั่น ทั้งปีนเขา สกายไดฟ์ บันจี้จัมป์ ล่องทะเลสาบ ตามล่าหาแซลมอน

(เนื้อแน่น) เบอร์เกอร์ (เนื้อนุ่ม) และผลไม้ท้องถิ่น (สดจากต้น) ร่วมถึงมิชชั่นน่าอิจฉาอย่างการจิบโกโก้ดูดาวห่มลมหนาว นับแกะด้วย

ที่สำคัญ...ทุกคนก็มีจุดมุ่งหมายที่สำคัญไม่แพ้การทำลายแหวน นั่นคือการได้ยลโฉม ‘ใบไม้เปลี่ยนสี’ ที่หนึ่งปีจะมีเพียงหนึ่งหน

การเดินทางครั้งใหม่ ในดินแดนที่มีคำว่า ‘ใหม่’ อยู่ในชื่อ ด้วยมุมมองใหม่ๆ ของเหล่า ‘พันธมิตรแห่งหมอ’

อาจไม่แฟนตาซีเหมือน LOTR แต่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยความชิคตามธรรมชาติ (ทั้งจำนวนแกะเยอะกว่าคนสิบเท่า น้ำใสยิ่งกว่ากระจกเงา เผ่าพันธุ์เพนกวินเยอะกว่าประเทศไหนๆ แต่กลับไร้งู) แต่แอบมีความพีคเบาๆ ทางวัฒนธรรม (แหล่งกำเนิดบันจี้จัมป์ และเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีเงินรูปฮอบบิท) แห่งนี้ ก็สามารถการันตีได้เลยว่า การผจญภัยของพวกเขานั้นสนุก อบอุ่น และเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจไม่แพ้กันในทุกฉากทุกตอนแน่นอน!

ถ้าคุณหมอหนุ่มสุภาพบุรุษ โสด นิสัยดี มาชวนคุณไปเที่ยว คุณจะใจแข็งเซย์โนได้หรือ?

ยิ่งถ้ารู้ว่า หมอหนุ่มชวนไปนิวซีแลนด์ ดินแดนแสนโรแมนติก คุณยิ่งต้องรีบตกลงใจ

ได้เที่ยว ได้พัก และได้รักหมอ

พยักหน้าสิคะ จะรออะไร

พลิกหน้าต่อไปกันได้เลย!

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน

ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสกล่าวคำทักทายท่านผ่านตัวหนังสือเหล่านี้ ไม่ว่าเราจะเคยรู้จักกันมาก่อนหรือไม่ก็ตาม แต่ผมก็รู้สึกว่าทุกคนเป็น ‘เพื่อน’ ของผมทั้งสิ้น และสิ่งที่เตรียมมาสำหรับเพื่อนก็ย่อมมีความพิเศษกว่าคนอื่นทั่วไปนั่นก็คือประสบการณ์การเดินทางในธีมบทเพลงไพเราะจากแดนไกล

ก่อนเข้าสู่ช่วงหลักของการบรรเลงเพลง ระหว่างที่รอนักดนตรีเช็กเสียงปรับโน้ตกันอยู่ ผมอยากใช้เวลาสั้นๆ เล่าเท้าความไปถึงจุดเริ่มต้นของผลงานชิ้นนี้ให้ทุกท่านได้รับทราบกันก่อน

บ่ายวันหนึ่ง กลางเดือนมกราคม 2558 อยู่ๆ เพื่อนทั้งสามคนก็เอาโปรแกรมการท่องเที่ยว ‘ประเทศนิวซีแลนด์’ มานำเสนอและชักชวนผมแบบสายฟ้าแลบ ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า “อยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสี”

โดยปกติผมไม่ใช่คนใจง่ายที่ใครชวนไปไหนก็ไป เพราะการเดินทางแต่ละครั้งเราต้องใช้เครื่องสังเวยเป็นแก้วแหวนเงินทองและเวลาจำนวนหนึ่ง แต่โปรแกรมคราวนี้น่าสนใจตรงที่เป็นการเดินทางกึ่งผจญภัยเที่ยวไปกันเอง ไม่อาศัยทัวร์ และราคาประหยัด ผมจึงใช้เวลาประมาณ 2 วินาทีในการคิดตัดสินใจและตอบตกลง หลังจากนั้นตั๋วเครื่องบิน 4 ใบก็ถูกจองผ่านอินเทอร์เน็ตทันที

สำหรับการเดินทางของผมในหลายครั้งที่ผ่านมา หากไม่ได้เป็นหัวหน้าทัวร์ก็ยังมีส่วนร่วมในการหาข้อมูลหรือติดต่ออะไรบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ครั้งนี้ผมไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น เพราะสามสหายที่ร่วมเดินทางไปด้วยถือเป็นกูรูด้านการท่องเที่ยวตัวฉกาจแห่งยุคอยู่แล้ว และด้วยความที่สบายจัด ผมจึงชะล่าใจไม่รีวิวข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ไร้การเตรียมตัว ไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยเพราะทุกสิ่งล้วนถูกจัดการเรียบร้อยก่อนที่พวกเขาจะเดินเข้ามาชวนผมเสียอีก

หน้าที่ของผมมีเพียงการทำตัวเองให้ว่านอนสอนง่ายและปฏิบัติตามคำสั่งก็เท่านั้น

แต่การท่องเที่ยวชนิดหลับหูหลับตาแบบนี้ก็มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เห็นและสัมผัสจะเป็นเหมือนโลกใบใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน มีความตื่นเต้นเกิดขึ้นตลอดเวลาเพราะไม่รู้ว่าข้างหน้าจะได้เจออะไร

ผมได้พบกับท้องฟ้าสีฟ้าจัด ใบไม้หลากเฉดสี ทะเลสาบแสนงดงาม ธารน้ำแข็งระบือโลก ฝูงแกะขาวหม่นกลางทุ่งกว้าง บันจี้จัมป์ที่หวาดเสียวสุดขั้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนวัตถุดิบชั้นเลิศจากการเดินทาง เป็นความสนุกสดใหม่ไร้การปรุงแต่ง และเมื่อนำทุกๆ สิ่งมาประสานรวมกัน ก็กลายเป็นบทเพลงพิเศษนี้ขึ้นมา

เอาล่ะครับ ในที่สุดช่วงเวลาที่ทุกท่านรอคอยก็มาถึง ตอนนี้นักท่องเที่ยว 4 คน พร้อมแล้วที่จะสวมหมวกนักดนตรีอีกใบร่วมบรรเลงเพลงแห่งความสุขให้กับทุกท่าน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมขอเสียงปรบมือดังๆ ต้อนรับ