หยดเลือดสีแดงเข้ม ที่เกาะตัวกันอยู่ที่ใยแมงมุม กำลังกลั่นตัวเพิ่งหยดลงมาสู่พื้นดินด้านล่าง
ภายใต้แสงสลัวจากดวงจันทร์ ทารคากำลังพยายามเขยื้อนตัวขึ้นมาพิงโขดหินใหญ่อย่างหมดแรง เลือดจากแขนขวา...ที่บัดนี้เหลือเพียงแค่ชิ้นส่วนของแขนเท่านั้น มันหยดลงเป็นทาง... มือซ้ายที่อุ้มห่อผ้าขาวที่บัดนี้มอซอมีอนุชาของตนอยู่ภายในนั้น ค่อยๆเกร็งและวางลงอย่างเบามือ ยักษ์สีชาดตัวน้อยนอนหลับสบายโดยไม่รู้ว่าผ่านศึกโชกโชนมาขนาดไหน
“อึ่ก--”
ทารคากัดฟันกับความเจ็บปวดที่ขาซ้าย เนื้อในส่วนตรงน่องขานั้นหายไปหมด จากการโดนยักษ์ที่เข้าจู่โจมกัดเอาไป เขาสะบั้นมันจนหัวขาดแต่มันกลับไม่ตายในคราเดียว หัวของมันจึงพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาอีกครั้ง
การต่อสู้อันเนิ่นนานของกลุ่มที่ตามล่าเขาในวันนี้ได้จบลงพร้อมกับความตายเพียงฝ่ายเดียว กลิ่นคาวเลือดทั้งของยักษ์และมนุษย์คละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศที่รายล้อมโอรสองค์โตแห่งคีรีกันฑ์ตนนี้เอาไว้
เสียงหอบหายใจเพราะความเหนื่อยล้าของทารคานั้นแผ่วเบาแต่ก็เหมือนดังกึกก้องไปทั่วป่าใหญ่นี้ เพราะความมืดมิดโดยรอบนั้นได้ดูดกลืนเสียงทุกสรรพสิ่งไปจนหมด เขาก้มเหลือบมองแผลฉกรรจ์ที่ขาซ้าย พยายามเค้นพลังที่เหลืออยู่น้อยนิดเพื่อที่จะคืนสภาพมันให้เร็วที่สุด เพราะหากเขายังอยู่ในสภาพเหมือนสัตว์ใกล้ตายแบบนี้ คงไม่ดีต่อทั้งตัวเขาและน้องชายแบเบาะที่นอนอยู่ข้างๆเป็นแน่
“ฮ้าาา….. บัดซบ!!”
ความอ่อนล้าจากการหนีตายมาหลายวัน และยังมีบาดแผลฉกรรจ์ทั่วตัว ทำให้เขาไม่เหลือพลังพอที่จะรักษาตัวเองได้ เขาทิ้งตัวลงนอนบนผืนหญ้าและดินทราย สายตาจ้องมองมาที่ยักษ์สีชาดตัวน้อย ทำให้นึกถึงคืนนั้น...คืนที่ท่านพ่อโดนปลงพระชนม์ ความคับแค้นในใจพรั่งพรูจนสีนัยน์ตาของทารคาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานจากแสงสะท้อน
…บางทีความเหนื่อยล้า.. ความกลัว... ความเสียใจ ..การได้เห็นท่านพ่อโดนฆ่าต่อหน้า...
ก็ทำให้ข้าหนีเตลิดมาด้วยความอ่อนแอและลืมไปบ้างว่าข้านั้นเป็นใคร
ยักษาเช่นข้าไม่จำเป็นต้องหนีไม่ใช่รึ
ใครที่ขวางทางข้า! ข้าสามารถสะบั้นมันได้ด้วยแขนข้างเดียวด้วยซ้ำ!
ลมหายใจอุ่นๆของร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆกลายเป็นไอลอยไปในอากาศทำให้เขาตื่นจากภวังค์ ทารคาเอื้อมแขนที่เต็มไปด้วยเลือดดึงชายผ้าสีขาวที่ห่อมารตาไว้ให้มาใกล้ตัวแล้วจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากของยักษ์น้อย
“แล้วมันจะต้องจบลงมารตา…”
ทารคาหลับตาลงพร้อมกับจุดเพลิงสีฟ้ากองเล็กๆขึ้นไม่ไกล เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับอนุชาและใจที่เย็นเยียบของเขา
สายตาที่แอบมองอยู่หลังพุ่มไม้เป็นเวลานานเริ่มโล่งใจที่ในที่สุดยักษ์เขียวตนนี้ก็ดูสงบลงแล้ว หลังจากใช้เวลาในการเข่นฆ่าเพื่อเอาชีวิตรอดมาเกือบสามวัน เขาเฝ้ามองดูมาตลอดอย่างตื่นตะลึง เพราะไม่คิดว่าลูกยักษ์เพียงตนเดียวจะสามารถฆ่ากองทัพยักษ์และมนุษย์ที่มากมายขนาดนั้นได้
ถึงแม้ว่าจะได้รับบาดแผลและบาดเจ็บ แต่ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องบางสิ่งที่วางไว้ข้างๆเขานั้น
...อยากจะรู้จริงๆว่ามันคืออะไร...
นัยน์ตาสีอำพันที่ซ่อนในความมืดจ้องมองสองยักษาก่อนหายไปในความเงียบ
ทารคาลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนฟ้าสาง ดวงตากลมสีฟ้าใสกำลังจ้องเขาอยู่ พลันข้อมืออวบอ้วนก็คว้าปอยผมสีแดงของทารคามาอมเล่น
“หิวแล้วหรือไรมารตา”
ทารคาแค่นยิ้มออกมากับความสดใสที่มารตามอบให้เขา ยักษ์สีชาดตัวน้อยมองหน้ายักษ์ผู้พี่ตรงหน้าแล้วหัวเราะร่วนตามประสา
ระหว่างนี้ทารคาลองเค้นพลังเพื่อมาสร้างกล้ามเนื้อขาที่ขาดหายไป
…ต้องรีบทำก่อนที่มันจะเน่า ไม่งั้นข้าคงได้ทึ้งขาข้างนี้ให้ฝูงแร้งกินเป็นแน่
ฝูงแร้งหลายสิบกำลังแย่งยื้อซากศพจากเมื่อวานที่รายล้อมอยู่ไม่ไกล
เส้นของกล้ามเนื้อที่ขาค่อยๆคืบคลานเข้าหากันอย่างช้าๆ แม่จะยังไม่สมบูรณ์ แต่มันก็เริ่มมีรูปร่างที่เป็นขามากขึ้น ส่วนแขนคงต้องปล่อยให้ขาดรุ่งริ่งแบบนี้ไปก่อน เพราะแค่นี้ก็เต็มกลืนแล้ว คงใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าที่คิด
“แอ๊!”
มารตาส่งเสียงเป็นเชิงเรียกพี่ชาย ถึงแม้จะยังพูดไม่ค่อยได้ แต่ก็อยู่ในวัยที่เรียกร้องความสนใจตลอดเวลา ยักษ์ตัวน้อยเดินเตาะแตะพร้อมกับถือปลามาในมือ
ปลา?
“มารตา เจ้าเอาปลามาจากไหน!”
ทารคารีบหันมองไปรอบๆ เพื่อหาภยันอันตรายที่อาจจะกำลังตีกรอบล้อมเข้ามาใกล้
ปลาอีกสามถึงสี่ตัว ดีดตัวขึ้นสูงอยู่ด้านหลังมารตา
ไร้วี่แววผู้คน.. มีเฉพาะปลาที่โดนจับมากองไว้ที่นี่
ท่ามกลางป่าเขาที่ปราศจากแม่น้ำ..
To be continued...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in