อิวะอิสึมิ ฮาจิเมะเฝ้ามองโออิคาวะ โทรุได้สักพักหนึ่งแล้ว
เด็กสาวเดินนำหน้าเขา อยู่บนเส้นทางกลับบ้าน หล่อนคอยแต่จะดึงกระโปรงนักเรียนลง สลับกับม้วนปลายผมที่มัดเป็นหางม้า สองเท้าไม่หยุดขยับ และไม่ใช่แค่เพราะเธอกำลังเดินไปข้างหน้า แต่เท้าคู่นั้นยังถูไถเข้าหากันอีกต่างหาก
เห็นมาตั้งแต่ตอนเจอกันหน้าประตูโรงเรียน
ซึ่งก็คือมากกว่าห้านาทีแล้ว
เขาขมวดคิ้ว พยายามคิดหาเหตุผลโดยไม่เอ่ยปากถามเพื่อน แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกถึงสาเหตุของการกระทำประหลาดนั้น สุดท้ายจึงตัดใจ คิดว่าถามให้รู้แล้วรู้รอดน่าจะดีที่สุด
“ทำอะไรของเธอน่ะ”
โออิคาวะหยุดเท้า เหลียวหลังมองเขา สองคิ้วเรียวเลิกขึ้นสูง “หืม”
“เท้าเป็นอะไร” เขาถาม พลางชี้ไปยังเท้าของหล่อนที่ยังไม่หยุดถูกับพื้น
“ไม่ได้เป็นอะไรนี่”
แค่เห็นว่าเจ้าเพื่อนตัวดีตอบพลางหลบเลี่ยงสายตา ไม่ยอมมองหน้า แถมยังทำปากขมุบขมิบ อิวะอิสึมิก็รู้แล้วว่าหล่อนพูดปด
คิดจะหลอกคนรู้จักกันตั้งแต่อนุบาลอย่างอิวะอิสึมิ ฮาจิเมะอย่างนั้นหรือ
ฝันไปเถอะ“
โออิคาวะ” เขาเน้นเสียงดุ กอดอก หัวคิ้วมุ่นเข้าหากัน ใช้อวัยวะทุกส่วนสื่อภาษากายเชิงบีบบังคับให้เธอสารภาพความจริง
โออิคาวะสะดุ้งโหยง เม็ดเหงื่อผุดพรายตามใบหน้าด้วยความร้อนหรือเพราะประหม่าไม่อาจทราบได้ เธอช้อนตามองเขา พยายามออดอ้อน เลี่ยงการเผชิญหน้า
คิดหรือว่าจะได้ผล
ไม่มีทางเมื่อเห็นว่าอิวะอิสึมิยังคงแสดงท่าทีหนักแน่นไม่ยอมถอย เธอจึงทำหน้าบูด ตอบเสียงอ้อมแอ้มในลำคอ
“...คัน”
“ไปทำอะไรมา”
“...เท้า”
ยิ่งตอบเสียงเธอยิ่งเบาลงเรื่อยๆ เบาหวิวจนแทบจะต้องเงี่ยหูฟัง “หา”
“บอกว่าเป็นน้ำกัดเท้าไง” คล้ายรำคาญ โออิคาวะจึงตอบเสียงดังขึ้นจนแทบจะเป็นการตะโกน ถ้าไม่ติดว่าเธอมีท่าทางเขินอายหากจะปล่อยให้ใครรู้ความจริงข้อนี้ เธอคงขึ้นเสียงดังตอบเขาไปแล้ว
อิวะอิสึมินิ่งไป พยายามประมวลผล น้ำกัดเท้าคืออะไร เหมือนเคยได้ยินคำนี้มาก่อน โออิคาวะไปลุยน้ำที่ไหนมาหรือไง หรือจะเป็นชื่อเฉพาะอย่างหนึ่ง
ใช่แล้ว ชื่อโรค—เด็กหนุ่มเบ้ปาก หลังผ่านการตีความเสร็จสิ้นเรียบร้อย
“เธอ… ขึ้นรานี่หว่า”
ใบหน้าของสาวน้อยนักกีฬาชมรมวอลเล่ย์บอลขึ้นสีวูบ “อิวะจังหยาบคาย! พูดอย่างนี้กับสาวน้อยน่ารักได้ยังไง”
ไม่ว่าเปล่า หล่อนยังปากระเป๋าสัมภาระใส่อิวะอิสึมิอีกด้วย แรงกระแทกที่อกนั้นเจ็บใช่ย่อย แต่เขาไม่ทันได้ประท้วงอะไร หล่อนก็วิ่งมาหยิบกระเป๋าที่ตกลงพื้นขึ้น แล้วเดินจ้ำอ้าวหนีเขา
เอ้า พูดความจริงก็ไม่พอใจอีกโดยทั่วไปแล้วโออิคาวะไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยในทุกสิ่งที่เขาพูด เพราะขืนเป็นเช่นนั้นคงอยู่กันไม่รอด เจ้าหล่อนติดจะเป็นคนมองโลกในแง่ดีแถมแปลความเข้าข้างตัวเองได้ทุกเมื่อเสียด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มจึงเสียศูนย์ไปหน่อยที่เจอปฏิกิริยาตอบกลับเช่นนี้
เขาอาจจะพูดแรงไป
...หรือไม่หล่อนก็กำลังมีประจำเดือน
อิวะอิสึมิขยี้ผมตัวเองด้วยความว้าวุ่นใจ ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไร เขาคงต้องยอมไปก่อน
“เฮ้ย โออิคาวะ”
เงียบ
“โออิคาวะ โทรุ”
ไม่มีเสียงตอบกลับ
“แล้วไปทำอีท่าไหนถึงเป็นได้ล่ะ”
เธอยังคงไม่ตอบ แต่เขาก็พอจะเดาได้
“บอกแล้วไงว่าให้คอยถอดรองเท้าบ้าง อย่าปล่อยให้อับนานๆ”
หล่อนกระทืบเท้าตึงตังสองทีเป็นการตอบโต้
เด็กหนุ่มกัดฟัน นับหนึ่งถึงร้อย
ยัยเด็กไม่รู้จักโตจะงอนอะไรนักหนา“โออิ…”
“อิวะจังคนบ้า!”
เด็กสาวหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา แล้วออกวิ่งหนีไป บ้านของเธออยู่ไม่ไกลนัก ไม่นานเงาร่างนั้นก็หายไปจากลานสายตา
อิวะอิสึมิยืนนิ่ง เป็นอีกครั้งที่เขาต้องใช้ความพยายามในการประมวลเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
อะไรของหล่อน
อย่างไรเสีย ยืนที่เดิมต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เขาจึงเดินกลับบ้าน ในหัวคิดสารพัดวิธีขอคืนดีกับเจ้าเพื่อนสาวตัวปัญหา
...ไว้พรุ่งนี้ค่อยซื้อขนมปังนมกับยาแก้คันไปง้อก็คงได้ล่ะมั้ง...
—...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in